หน้าแรก / สาระน่ารู้ / เกร็ดความรู้
เกร็ดความรู้
หน้าแรก / เกร็ดความรู้

ครบสำหรับกับข้าวกับปลา

Line

ครบสำหรับกับข้าวกับปลา

Line
ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แผ่นดินของเรานั้นแสนอุดมสมบูรณ์”  โชคดีเหลือเกินที่เกิดบนผืนแผ่นดินไทย เมืองอู่ข้าวอู่น้ำอันอุดม  หล่อเลี้ยงทุกชีวิตให้อิ่มท้องได้อย่างเต็มสุข

H & C ฉบับนี้ขอเชิญผู้อ่านมาดื่มด่ำวิถีไทยด้วยเมนูอาหารจากภูมิปัญญาดั้งเดิม เลือกใช้วัตถุดิบง่ายๆ รอบตัว ทั้งปลาสดตัวโต กุ้งใหญ่ในแม่น้ำ ผักริมรั้วปลอดสารเคมี ของแห้งต่างๆ ที่ถนอมอาหารเก็บไว้ติดครัว มาปรุงเป็น 8 เมนูสุขภาพ ทั้งน้ำพริก ยำ ผัด และแกง ให้ได้อร่อยกันครบสำรับไทย

ยำกระเจี๊ยบกุ้งย่าง
กระเจี๊ยบ ผักพื้นบ้านที่มีเส้นใยอาหารสูงอันดับต้นๆ จะลวกกินกับน้ำพริก หรือใส่แกงส้ม ต้มยำก็อร่อยอย่างเหลือเชื่อ จะนำมาทำยำง่ายๆ ใส่หอมซอยกระเทียมซอย ปรุงรสเปรี้ยวๆหวานๆ ก็เข้ากันได้ดี เมือกของกระเจี๊ยบนอกจากช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นยังช่วยเคลือบสมานแผลในกระเพาะอาหารได้ดีอีกด้วย

ยำกระเจี๊ยบกุ้งย่าง
 









 
ส่วนผสม (สำหรับ ที่)
เตรียม 20 นาที ปรุง 10 นาที
กระเจี๊ยบ                                            10   ฝัก
กุ้งนาง                                                4   ตัว
หอมเล็กซอย                                        2    ช้อนโต๊ะ
กระเทียมซอย                                      1 ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว                                           2 ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ                                          2      ช้อนชา
น้ำเปล่า                                             2      ช้อนโต๊ะ
พริกแห้งเม็ดใหญ่                                   1     เม็ด
วิธีทำ
1 ย่างกุ้งจนสุกหอม แกะเนื้อฉีกชิ้นพอคำเตรียมไว้ย่างพริกแห้งด้วยไฟอ่อนจนหอม โขลกพอแหลกพักไว้
2 ปรุงน้ำยำโดยละลายน้ำตาลปี๊บ น้ำเปล่า และน้ำมะนาวให้เข้ากัน ใส่พริกแห้งที่เตรียมไว้ ชิมรสตามชอบ พักไว้
3 ลวกกระเจี๊ยบในน้ำเดือดจัดจนสุก ตักขึ้นแช่น้ำเย็นจัดทันทีเพื่อช่วยลดเมือกของกระเจี๊ยบ หั่นกระเจี๊ยบเป็นแว่นใส่ลงในชามผสม ตามด้วยกุ้ง กระเทียม หอมเล็ก และน้ำยำ คลุกเร็วๆให้เข้ากันกินได้ทันที
 
น้ำพริกคลุก
น้ำพริกถ้วยนี้อร่อยและพิเศษกว่าน้ำพริกถ้วยไหน เพราะแทนที่จะต้องโขลกเครื่องปรุงต่างๆ รวมกันในครกเหมือนทุกที แต่กลับนำเครื่องปรุงต่างๆ มาทอดให้กรอบเก็บไว้ได้นาน เมื่อจะกินก็คลุกกับน้ำปรุงรสเปรี้ยว เค็ม หวาน กลายเป็นน้ำพริกเมนูใหม่เก๋ไก๋กว่าเดิม

น้ำพริกคลุก
ส่วนผสม (สำหรับ ที่)
เตรียม 30 นาที ปรุง 10 นาที
ปลาเนื้ออ่อนแกะเอาแต่เนื้อ                  1      ถ้วย
กระเทียมซอย                                  1      ถ้วย
หอมเล็กซอย                                   1      ถ้วย
ข่าซอย                                         ¼     ถ้วย
ตะไคร้ซอย                                     ½     ถ้วย
ใบมะกรูดฉีก                                   ¼     ถ้วย
พริกแห้ง                                        ¼     ถ้วย
น้ำมันพืชสำหรับทอด
 
ส่วนผสมน้ำปรุงรส
น้ำตาลปี๊บ                                          ¼     ถ้วย
น้ำเปล่า                                             ¼     ถ้วย
น้ำมะขามเปียก                                     ½     ถ้วย
 
วิธีทำ
1. ทอดปลาเนื้ออ่อน กระเทียม หอมเล็ก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกแห้ง ทีละชนิดจนสุกเหลือง สะเด็ดน้ำมันเตรียมไว้
2. ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และน้ำมะขามในหม้อ คนให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวจนข้น ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น
3. บิพริกแห้งให้แตกเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ในชามผสม ตามด้วยสมุนไพรและเนื้อปลาที่ทอดไว้ เติมน้ำปรุงรสโดยค่อยๆ ตัดใส่ทีละช้อน คลุกให้เข้ากัน อย่าใส่มาก เพราะรสจะจัดเกินไป ใช้ช้อนคลุกเคล้าพอให้น้ำปรุงเคลือบส่วนผสมถือว่าใช้ได้ฃ
 
· น้ำปรุงรสสามารถเคี่ยวเก็บไว้ได้นาน จะดัดแปลงทำเป็นเมนูอื่น เช่น น้ำปลาหวาน ไข่ลูกเขย ซอสมะขาม น้ำจิ้มแจ่ว ก็อร่อยไม่แพ้กัน
 
น้ำพริกกุ้งแม่น้ำ
กุ้งแม่น้ำยิ่งตัวใหญ่มันยิ่งมาก เมื่อนำไปย่างจะส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ไหนๆก่อเตาย่างกุ้งแล้วก็จัดพริก หอม กระเทียม และมะเขือเทศลงย่างตามด้วยเพื่อช่วยประหยัดเวลา จากนั้นโขลกทุกอย่างรวมกับกุ้งย่าง ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าต้มสุกก็ได้น้ำพริกอร่อยไว้กินคู่กับผักลวกนานาชนิดแล้ว
 












 
น้ำพริกกุ้งแม่น้ำ
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 20 นาที ปรุง 10 นาที
กุ้งแม่น้ำขนาดใหญ่                              1        ตัว
พริกหนุ่ม                                          5-7    เม็ด
หอมเล็ก                                            5        หัว
กระเทียม                                           10      กลีบ
มะเขือส้ม                                          ¼      ถ้วย
น้ำปลาร้าต้มสุก                                   1 ½   ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว                                            1        ช้อนโต๊ะ
น้ำปลาเล็กน้อย
ผักลวก ปลาสลิดหรือปลาเนื้ออ่อนทอดกรอบสำหรับกินคู่กัน
วิธีทำ
1. ย่างกุ้ง พริกหนุ่ม หอมเล็ก กระเทียม และมะเขือส้มจนสุกหอม
2. แกะกุ้งแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แยกหัวและมันไว้
3. ปอกเปลือกพริก หอมเล็ก และกระเทียมที่ย่างไว้ แล้วนำไปโขลกพอแหลกใส่เนื้อกุ้ง โขลกให้เข้ากัน ตามด้วยมะเขือส้มย่างบุบพอแตก ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำมะนาว ชิมรส ถ้าไม่เค็มเติมน้ำปลาได้เล็กน้อย ก่อนเสิร์ฟใส่มันและหัวกุ้งลงคลุกให้เข้ากัน กินกับผักลวก ปลาสลิดหรือปลาเนื้ออ่อนทอดตามชอบ
· วิธีย่างกุ้งแม่น้ำให้อร่อยต้องใจเย็น ย่างด้วยไฟอ่อนจนสุกกำลังดี อย่าย่างนานเกินไป เพราะเนื้อกุ้งจะแข็งไม่อร่อย
 
 
ต้มยำปลาช่อนแดดเดียว
ฤดูไหนปลาซุกหาได้มาก นำไปคลุกเกลือตากเสียหนึ่งแดดเก็บไว้กินได้อีกนาน แถมช่ยเพิ่มรสและกลิ่นหอมให้ปลาอร่อยขึ้น จะทอดกินกับแกงส้ม น้ำพริก หรือย่างด้วยไฟอ่อนจนสุกหอมแล้วนำมาทำต้มยำรสแซบ ก็หอมไปอร่อยไปอีกแบบ
ต้มยำปลาช่อนแดดเดียว
ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่)
เตรียม 20 นาที ปรุง 10 นาที
ปลาช่อนแดดเดียวขนาดกลาง               1        ตัว
มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง                         7        ลูก
หอมเล็ก                                        7        หัว
ตะไคร้หั่นท่อน                                 3        ต้น
ข่าหั่นแว่น                                       5        แว่น
ใบมะกรูดฉีก                                     4        ใบ
ผักชีฝรั่งหั่นท่อน                                ¼      ถ้วย
ตะลิงปลิง                                        2        ลูก
น้ำมะขาม                                        3 ½   ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา                                          3 ½   ช้อนโต๊ะ
พริกแห้งคั่ว                                      5        เม็ด
น้ำเปล่า                                             3 ½   ถ้วย
 
วิธีทำ
1. ย่างปลาและตะลิงปลิงด้วยไฟอ่อนจนสุก หั่นปลาเป็นชิ้นขนาดประมาณ 2 นิ้ว เตรียมไว้
2. ตั้งน้ำให้เดือด ใส่หอมเล็ก ตะไคร้ และข่าลงต้มจนหอม ใส่ตะลิงปลิงบี้พอแหลก ตามด้วยมะเขือเทศปรุงรสด้วยน้ำมะขาม น้ำปลา ชิมรสให้เปรี้ยวนำเร่งไฟแรงจนเดือดจัด ใส่เนื้อปลา รอจนเดือดอีกครั้ง ใส่ใบมะกรูด ผักชีฝรั่ง ยกลงจากเตา ตักใส่ชามโรยหน้าด้วยพริกแห้งคั่วบิพอแตก
 
 














 
แกงคั่วปลากรายใบชะพลู
ปลากรายเนื้อเหนียวหนึบปั้นเป็นลูกชิ้นลูกกลม นำมาแกงคั่วน้ำขลุกขลิก เลือกใช้กะทิธัญพืชแทนกะทิมะพร้าวเพื่อป้องกันคอเลสเตอรอล เพิ่มกลิ่นหอมชวนกินด้วยใบชะพลูและชะอม จานนี้จึงทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ
แกงคั่วปลากรายใบชะพลู
ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่)
เตรียม 25 นาที ปรุง 10 นาที
ปลากรายขูดปั้นพอดีคำต้มสุก           2        ถ้วย
ใบชะพลูฉีก                               1        ถ้วย
ใบชะอม                                   ½      ถ้วย
กะทิธัญพืช                                 3 ½   ถ้วย
น้ำเปล่า                                    3 ½   ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ                                 1        ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชเล็กน้อย
 
ส่วนผสมพริกแกง
พริกแห้งเม็ดใหญ่ไม่เอาเมล็ด
แช่น้ำจนนิ่ม                               7        เม็ด
หอมเล็ก                                    5        หัว
กระเทียม                                  2 ½    ช้อนโต๊ะ
รากผักชี                                    2        ราก
ผิวมะกรูด                                  1        ช้อนชา
ข่าซอย                                    2        ช้อนชา
ตะไคร้ซอย                                2        ช้อนโต๊ะ
เม็ดพริกไทยขาว                          1        ช้อนชา
กะปิ                                         2        ช้อนชา
เกลือ                                        1        ช้อนชา
 
วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสมเครื่องแกงให้เข้ากันจนเนียนพักไว้
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ใส่เครื่องแกงลงผัดให้หอม เติมกะทิธัญพืช รอจนเดือด ใส่ปลากราย ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ
3. เมื่อเดือดใส่ใบชะพลู ชะอม ยกลงจากเตา กินขณะร้อน
 
ข้าวคลุกน้ำพริกริมรั้ว
ผักนานาชนิดที่ขึ้นรอบรั้วบ้านจะลวกจิ้มน้ำพริก ผัด ต้ม นึ่ง หรือจะกินสดก็อร่อยได้ประโยชน์ไม่ต่างกัน เมนูนี้ดัดแปลงจากเมนูน้ำพริกทั่วไป โดยคลุกน้ำพริก ผักริมรั้ว และข้าวสวยเข้าด้วยกันกลายเป็นความอร่อยแบบไทยๆ ที่สัมผัสได้ในคำเดียว
ข้าวคลุกน้ำพริกริมรั้ว
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 15 นาที ปรุง 5 นาที
ข้าวสวย                           1 ½   ถ้วย
ปลาดุกย่าง                      1        ตัว
กะปิ                               1        ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้ง                             ¼      ถ้วย
มะอึกซอยบาง                     1        ช้อนโต๊ะ
กระเทียม                         1 ½   ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ                       1        ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว                         1 ½   ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูตามชอบ
น้ำปลาเล็กน้อย
น้ำมันพืชเล็กน้อย
ผักสดริมรั้ว เช่น กระถิน มะเขือพวง ขมิ้นขาว ผักลวก เช่น ดอกโสน ดอกขจร ตำลึง ดอกแค รวมกัน 1 ถ้วย
 
วิธีทำ
1. โขลกกุ้งแห้งให้ฟู ใส่กระเทียมลงโขลกจนแหลก ตามด้วยกะปิ แล้วโขลกพอเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ใส่พริกขี้หนูลงบุบพอแหลก
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ใส่น้ำพริกในข้อ 1 ลงผัดพอหอม ใส่มะอึก ผัดให้เข้ากัน ยกลงจากเตา ตักข้าวสวยร้อนๆลงคลุกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ ถ้ากะปิไม่เค็มเติมน้ำปลาได้เล็กน้อย
3. ก่อนเสิร์ฟใส่ผักคลุกให้เข้ากัน กินคู่กับปลาดุกย่าง
 
 



















 
ปลาช่อนทอดผัดมะเขือยาว
ปลาช่อนเผาเกลือกินกับน้ำพริกผักลวกและมะเขือย่างเสียจนชิน ลองดัดแปลงแล่เนื้อปลาช่อนให้บาง ทอดจนเหลืองกรอบ กินกับผัดมะเขือรสจัดแทน ช่วยเปลี่ยนความจำเจจากเมนูเดิมๆ ให้เป็นเมนูใหม่อร่อยไม่แพ้กัน
ปล่าช่อนทอด ผัดมะเขือยาว
ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่)
เตรียม 20 นาที ปรุง 15 นาที
เนื้อปลาช่อนหั่นบาง                  2        ถ้วย
มะเขือยาว                                 2        ลูก
หอมเล็ก                                    3        หัว
กระเทียม                                  10      กลีบ
พริกชี้ฟ้าแดง                             1        เม็ด
พริกชี้ฟ้าเหลือง                          2        เม็ด
กะปิ                                      1        ช้อนชา
ใบโหระพา                                  ¼      ถ้วย
น้ำปลา                                     1 ½   ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ                                 ½      ช้อนโต๊ะ
เกลือเล็กน้อย
น้ำมันพืชสำหรับทอด
 
วิธีทำ
1. ย่างมะเขือยาวจนสุกแล้วลอกเปลือกออก หั่นเป็นชิ้นพอคำเตรียมไว้
2. โขลกพริกชี้ฟ้า หอมเล็ก กระเทียม และกะปิกันจนละเอียด พักไว้
3. โรยเกลือลงบนเนื้อปลาช่อนเล็กน้อย เคล้าพอเข้ากัน นำลงทอดในน้ำมันร้อนจัดจนเหลืองกรอบ ตักใส่จานเตรียมไว้
4. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ผัดพริกแกงที่เตรียมไว้จนหอม ปรุงรสด้วยน้ำเปล่า น้ำตาลปี๊บ ชิมรสจตามชอบ ใส่มะเขืออย่างลงผัดพอเข้ากันก่อนปิดไฟใสใบโหระพา
 
 
ผัดพริกขิงปลาดุกผักบุ้ง
ปลาดุกนาเนื้อเหลืองทอดจนสุกกรอบ นำมาผัดกับเครื่องแกงกลิ่นหอมเพิ่มความกรุบกรอบด้วยผักบุ้งไทยอวบน้ำในหน้าฝน ผัดด้วยไฟแรงจนน้ำพริกซึมเข้าเนื้อปลา กินกับข้าวสวยร้อนๆ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม
ผัดพริกขิงปลาดุกผักบุ้ง
ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่)
เตรียม 25 นาที ปรุง 10 นาที
ปลาดุกหั่นแว่น                 300    กรัม
ผักบุ้งไทย หั่นเฉียง           1 ½   ถ้วย
น้ำปลา                          2        ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ                       ½      ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับทอด
น้ำเปล่าเล็กน้อย
 
ส่วนผสมพริกขิง
พริกแห้งเม็ดใหญ่ไม่เอาเมล็ด
แช่น้ำจนนิ่ม                               5        เม็ด
หอมเล็กหั่นหยาบ                      1½    ช้อนโต๊ะ
กระเทียม                                  2        ช้อนโต๊ะ
กะปิ                                         1        ฃ้อนชา
ผิวมะกรูด                                  ½      ช้อนชา
ข่า                                            1½    ช้อนชา
ตะไคร้                                        1½    ช้อนโต๊ะ
เกลือ                                        ½      ช้อนชา
 
วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสมพริกขิงจนละเอียด พักไว้
2. ทอดปลาดุกในน้ำมันท่วมด้วยไฟกลางจนกระทั่งกรอบ นำขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย นำพริกขิงลงผัดจนหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ เติมน้ำเล็กน้อยแล้วเร่งไฟให้แรง ใส่ปลาดุกทอดและผักบุ้งลงผัดเร็วๆ จนส่วนผสมเข้ากันดีตักใส่จานกินกับข้าวสวยร้อนๆ
ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์
เราสร้างบ้านเพื่ออนาคต

Line