บ้านแห่งความรักกับความลงตัวของ “LOFT”
บนเส้นทางการจราจรบนถนนพระราม 5 ที่ดูเจริญขึ้นผิดหูผิดตาเมื่อเทียบกับหลายๆปีที่ผ่านมา เพราะความเจริญได้ขยายออกสู่พื้นที่ดังกล่าวมากขึ้น เราจะเห็นโครงการที่อยู่อาศัยผุดขึ้นราวดอกเห็ด โดยเฉพาะโครงการที่มีราคาแพง ซึ่งนั่นก็เพราะความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวมีสูงมากนั่นเอง ดังนั้นเมื่อบ้านมีราคาแพงการตกแต่งก็คงต้องหรูหราสมกับราคาบ้านด้วย แต่วันนี้ต้องยอมรับครับว่าเราคิดผิด หลังจากที่เราได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสกับบ้านหลังนี้
คุณพรพิพัฒน์ เทียนชัยกุล เจ้าของธุรกิจส่วนตัวได้เล่าให้ฟังว่า เดิมทีอาศัยอยู่บ้านพ่อแม่แต่หลังจากที่ได้แต่งงานกับคุณจีรวรรณ์ วัฒนาพันธ์ ก็อยากมีบ้านสักหลังเป็นของครอบครัวก็เลยตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการ Q House พระราม 5 ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวสร้างบนพื้นที่ขนาด 174ตร.ว. และได้ย้ายเข้ามาอยู่ในเมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2556 ซึ่งมันเป็นบ้านหลักแรกของผมด้วย ก็อยากได้บ้านที่ตรงกับความต้องการของตนเองและภรรยาด้วย
“ผมอยากได้บ้านที่ตกแต่งในสไตล์ ลอฟท์(LOFT)เพราะเป็นความชอบส่วนตัว อีกอย่างผมเป็นคนชอบปาร์ตี้ด้วยจึงอยากได้บ้านในสไตล์นี้ ซึ่งอารมณ์จะแตกต่างจากปกติมันจะเป็นอารมณ์เป็นแบบดิบๆ ซึ่งตรงนี้เองมันเป็นความโชคดีของผมด้วยเพราะมีเพื่อนเป็นอินทีเรียก็เลยบอกความต้องการแล้วให้เพื่อนออกแบบให้”
ก้าวแรกที่เราได้เข้าไปเราจะสัมผัสถึงความร่มรื่นของต้นไม้ที่โอบล้อมบ้านเข้ากันได้ดีกับสีของตัวบ้านที่ออกมาในโทนสีฟ้า ขาว ประตูบ้านทำด้วยไม้สักสีทองสร้างความโดดเด่นยิ่งเมื่อเราได้เข้าไปสัมผัสภายใน เราจะเห็นถึงความแตกต่างจากบ้านหลังอื่นๆ เพราะภายในจะเป็นแบบเปลือย ที่ตกแต่งออกมาในสไตล์ Loft หรือแบบดิบๆ
เพดานไม่ใช้ฝ้าจะมองเห็นพื้นสำเร็จที่ลงตัวกับพื้นบ้านที่เป็นแบบปูนขัดไม่มีการปูพื้นซึ่งเข้ากันได้ดี ส่วนสายไฟจะร้อยใส่รางเหล็กสีดำ(ไวเวย์)ที่ส่วนใหญ่เราจะพบเห็นในโรงงานอุตสาหกรรมติดด้วยไฟดาวน์ไลท์ที่เพิ่มอารมณ์เหมือนอยู่ร้านอาหารสุดชิลล์
พร้อมโคมไฟที่ดีไซน์สะดุดตาบวกกับโซฟาที่ทำจากหนังสีน้ำตาลถูกจัดเข้ามุมปูด้วยพรหมขนแกะสีขาวตัดกันได้ดีแต่ลงตัวเป็นมุมสำหรับนั่งเล่นของครอบครัว ขยับขึ้นไปเป็นห้องอ่านหนังสือที่ถูกจัดวางอย่างลงตัวด้วยเก้าอี้กับพรหมสีเขียวเข้ากันดีกับธรรมชาติที่ติดอยู่
ข้างบ้านโดดเด่นด้วยตู้เหล็กสีแดงที่สะดุดตากับชั้นวางหนังสือที่เรียบง่าย ยิ่งตรงส่วนทานอาหารถูกออกแบบมารองรับกับงานปาร์ตี้โดยเฉพาะกับผนังที่ถูกก่อด้วยอิฐมอญสีแดงติดกระจกเงาที่ทำให้ดูมีมิติทำให้ดูพื้นที่กว้างขึ้น บวกกับโต๊ะทานอาหารที่ทำจากไม้ตะเคียนขาวกับขาเหล็กพร้อมเก้าอี้เหล็กที่มีดีไซน์ต่างสีต่างอารมณ์ผสานกับห้องครัวเป็นแบบโอเพ่นแบ่งเป็นครัวไทย-ฝรั่ง เพื่อรองรับการจัดงานปาร์ตี้กับเค้าเตอร์ที่ถูกจัดวางอุปกรณ์เครื่องครัวเพื่อสะดวกในการทำอาหารซึ่งถือเป็นมุมสำคัญของบ้านหลังนี้
คุณพรพิพัฒน์ เทียนชัยกุล เจ้าของธุรกิจส่วนตัวได้เล่าให้ฟังว่า เดิมทีอาศัยอยู่บ้านพ่อแม่แต่หลังจากที่ได้แต่งงานกับคุณจีรวรรณ์ วัฒนาพันธ์ ก็อยากมีบ้านสักหลังเป็นของครอบครัวก็เลยตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการ Q House พระราม 5 ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวสร้างบนพื้นที่ขนาด 174ตร.ว. และได้ย้ายเข้ามาอยู่ในเมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2556 ซึ่งมันเป็นบ้านหลักแรกของผมด้วย ก็อยากได้บ้านที่ตรงกับความต้องการของตนเองและภรรยาด้วย
“ผมอยากได้บ้านที่ตกแต่งในสไตล์ ลอฟท์(LOFT)เพราะเป็นความชอบส่วนตัว อีกอย่างผมเป็นคนชอบปาร์ตี้ด้วยจึงอยากได้บ้านในสไตล์นี้ ซึ่งอารมณ์จะแตกต่างจากปกติมันจะเป็นอารมณ์เป็นแบบดิบๆ ซึ่งตรงนี้เองมันเป็นความโชคดีของผมด้วยเพราะมีเพื่อนเป็นอินทีเรียก็เลยบอกความต้องการแล้วให้เพื่อนออกแบบให้”
ก้าวแรกที่เราได้เข้าไปเราจะสัมผัสถึงความร่มรื่นของต้นไม้ที่โอบล้อมบ้านเข้ากันได้ดีกับสีของตัวบ้านที่ออกมาในโทนสีฟ้า ขาว ประตูบ้านทำด้วยไม้สักสีทองสร้างความโดดเด่นยิ่งเมื่อเราได้เข้าไปสัมผัสภายใน เราจะเห็นถึงความแตกต่างจากบ้านหลังอื่นๆ เพราะภายในจะเป็นแบบเปลือย ที่ตกแต่งออกมาในสไตล์ Loft หรือแบบดิบๆ
เพดานไม่ใช้ฝ้าจะมองเห็นพื้นสำเร็จที่ลงตัวกับพื้นบ้านที่เป็นแบบปูนขัดไม่มีการปูพื้นซึ่งเข้ากันได้ดี ส่วนสายไฟจะร้อยใส่รางเหล็กสีดำ(ไวเวย์)ที่ส่วนใหญ่เราจะพบเห็นในโรงงานอุตสาหกรรมติดด้วยไฟดาวน์ไลท์ที่เพิ่มอารมณ์เหมือนอยู่ร้านอาหารสุดชิลล์
พร้อมโคมไฟที่ดีไซน์สะดุดตาบวกกับโซฟาที่ทำจากหนังสีน้ำตาลถูกจัดเข้ามุมปูด้วยพรหมขนแกะสีขาวตัดกันได้ดีแต่ลงตัวเป็นมุมสำหรับนั่งเล่นของครอบครัว ขยับขึ้นไปเป็นห้องอ่านหนังสือที่ถูกจัดวางอย่างลงตัวด้วยเก้าอี้กับพรหมสีเขียวเข้ากันดีกับธรรมชาติที่ติดอยู่
ข้างบ้านโดดเด่นด้วยตู้เหล็กสีแดงที่สะดุดตากับชั้นวางหนังสือที่เรียบง่าย ยิ่งตรงส่วนทานอาหารถูกออกแบบมารองรับกับงานปาร์ตี้โดยเฉพาะกับผนังที่ถูกก่อด้วยอิฐมอญสีแดงติดกระจกเงาที่ทำให้ดูมีมิติทำให้ดูพื้นที่กว้างขึ้น บวกกับโต๊ะทานอาหารที่ทำจากไม้ตะเคียนขาวกับขาเหล็กพร้อมเก้าอี้เหล็กที่มีดีไซน์ต่างสีต่างอารมณ์ผสานกับห้องครัวเป็นแบบโอเพ่นแบ่งเป็นครัวไทย-ฝรั่ง เพื่อรองรับการจัดงานปาร์ตี้กับเค้าเตอร์ที่ถูกจัดวางอุปกรณ์เครื่องครัวเพื่อสะดวกในการทำอาหารซึ่งถือเป็นมุมสำคัญของบ้านหลังนี้
ด้านทางขึ้นชั้นสองถูกปิดด้วยประตูบานสไลต์สีดำที่เตรียมพร้อมไว้สำหรับให้ลูกๆอย่างน้องว่างๆและน้องนิ่งๆ ได้ขีดเขียนส่วนบันไดทางขึ้นทำจากไม้จริงเสริมความเป็นลอฟท์เพิ่มยิ่งขึ้น ส่วนชั้นสองนั้นถูกจัดสรรพื้นที่ออกเป็นห้องนอนใหญ่และเล็ก โดยห้องนอนใหญ่ถูกตกแต่งด้วยม่านสีขาวสีเทาสำหรับปิดแสงที่ทอดผ่านกระจกส่วนผนังคงคงเป็นแบบเปลือย
เตียงนอนขนาดใหญ่ที่ยังคงมีความเป็นไม้ โดดเด่นด้วยโคมไฟที่วาววับสร้างอารมณ์สุนทรีย์ยามค่ำคืนบวกกับเปลเจ้าหนูน้อย 2 คนที่ถูกวางอยู่ด้านข้าง ส่วนห้องน้ำสร้างความแตกต่างถูกออกแบบให้เป็นแบบเปิดโล่งให้สัมผัสกับธรรมชาติด้วยแมกไม้สีเขียวที่ถูกนำเข้ามาตกแต่งเหมือนอาบน้ำอยู่กลางธรรมชาติ ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับเจ้าหนูน้อยทั้งสองคน
ด้วยความกล้าที่จะออกแบบให้ตรงกับความชอบของตนเองทำให้บ้านหลังนี้สร้างความสุขในทุกๆวันแต่กับอีกหลายคนที่มีบ้านแต่ไม่กล้าที่จะออกไอเดียใหม่เพื่อตอบโจทย์ของตนเอง แต่พออยู่ไปสักพักก็จะรู้สึกเหมือนไม่ค่อยมีความสุขเท่าไรนัก ซึ่งนั่นเราเองก็คงต้องกลับมานั่งคิดทบทวนแล้วครับว่าเราจะกล้าที่จะฉีกกรอบความคิดแบบเดิมๆลองไอเดียใหม่สร้างจินตนาการเพื่อทำให้บ้านที่เราอยู่เป็นสวรรค์ของครอบครัวเราในทุกๆวันหรือยัง….
ที่มา : นิตยสารโฮม แอนด์ รีสอร์ต
Home Style
ทอสคาน่าในฝัน
บนดินแดนแห่งขุนเขาที่รู้จักกันในนามเขาใหญ่ มีหมู่บ้านมากมายเรียงรายโอบล้อม มีชุมชนดั้งเดิมอยู่คู่ผืนป่ามาช้านานส่วนชุมชนใหม่เป็นชุมชนรีสอร์ต
บ้านแห่งความรักกับความลงตัวของ “LOFT”
เราจะสัมผัสถึงความร่มรื่นของต้นไม้ที่โอบล้อมบ้านเข้ากันได้ดีกับสีของตัวบ้านที่ออกมาในโทนสีฟ้า ขาว
Stone House บ้านหินทรายบนเนินเขา
บนเนินเขากว้างที่ถูกปกคลุมด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้า ที่เหมือนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง