ไม้เป็นวัสดุจากธรรมชาติที่มนุษย์รู้จักนำมาใช้นานแล้ว ในสมัยโบราณเมื่อยังไม้ยังมีปริมาณมากและมีราคาถูก มนุษย์จะนำไม้จากธรรมชาติมาสร้างที่อยู่อาศัยและเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ต่อมาเมื่อประชากรมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นก็ยิ่งมีการนำไม้จากธรรมชาติมาใช้ประโยชน์มากขึ้น ส่งผลให้ป่าไม้ถูกทำลายและปริมาณของไม้จากธรรมชาติลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม้จากธรรมชาติเป็นวัสดุที่หายากและมีราคาแพง มนุษย์จึงพยายามหาวัสดุอื่นๆ มาใช้แทนไม้ผ่านทางกรรมวิธีทางวิศวกรรม เช่น แผ่นไวนิล กระเบื้อง แผ่นลามิเนต ฯลฯ เป็นต้น แต่ความนิยมในการใช้ไม้จากธรรมชาติก็ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำไม้มาใช้ทำพื้นบ้าน
 

พื้นบ้านที่เป็นไม้ในปัจจุบันแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆได้ 2 ประเภทคือ พื้นไม้เนื้อแข็งหรือไม้จริง ซึ่งเป็นไม้ที่ได้มาจากธรรมชาติ ไม้ที่นิยมนำมาปูพื้นได้แก่ ไม้แดง ไม้มะค่า และไม้สัก โดยมีคุณสมบัติและข้อเด่นข้อด้อยที่แตกต่างกันคือ ไม้แดงเป็นไม้เนื้อแข็งที่ทนต่อการขีดข่วน แต่ไม่ค่อยมีลายไม้และมีการยืดหดตัวสูง จึงทำให้เกิดการแตกของเนื้อไม้ได้ง่าย สำหรับไม้มะค่านั้นเป็นไม้เนื้อแข็ง มีสีและลายสวย ทนต่อการรับน้ำหนักได้ดี ไม่ยืดหดหรือแตกตัวง่าย แต่มีราคาแพง ส่วนไม้สักนั้นจะมีลวดลายสวยงาม ปลวกมอดไม่ค่อยรบกวน แต่เนื้อไม้ไม่แข็งเหมือนไม้แดงและไม้มะค่า จึงทำให้รับน้ำหนักได้น้อยและทนต่อรอยขีดข่วนได้น้อยแต่มีราคาแพง สำหรับราคาของไม้แต่ละชนิดนั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของไม้ โดยไม้สักจะมีราคาระหว่าง 2,300-10,000 บาทต่อตารางเมตร ไม้มะค่ามีราคาประมาณ 2,700-3,000 บาทต่อลูกบาศ์กฟุต ส่วนไม้แดงจะมีราคาประมาณ 1.800-2,000 บาทต่อลูกบาศ์กฟุต

พื้นไม้จริงนี้เป็นพื้นไม้ที่ดูแลรักษาได้ไม่ยาก โดยการระมัดระวังไม่ให้น้ำหกลงพื้น ถ้ามีน้ำหกลงพื้นต้องรีบเช็ดให้แห้ง หมั่นทำความสะอาดโดยใช้ผ้านุ่มชุบน้ำเปียกพอหมาด หรือใช้ผ้าชุบน้ำยาชนิดอ่อนเช็ดถูพื้นเป็นประจำ เปิดประตูหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเท เพื่อการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิช่วยป้องกันการยืดหดตัวของไม้ และอาจจะเคลือบผิวไม้ด้วยน้ำยาเคลือบไม้ชนิดถาวร จะช่วยป้องกันผิวไม้จากหยดน้ำและคราบสกปรกได้

ส่วนพื้นไม้อีกชนิดหนึ่งนั้นเป็นพื้นไม้ที่ได้มาจากกรมวิธีทางวิศวกรรมที่นิยมใช้กัน ได้แก่พื้นไม้ปาร์เก้ต์และพื้นไม้ลามิเนต พื้นไม้ปาร์เก้จะมีประเภทที่ทำด้วยไม้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำมาติดกันด้วยกาวให้เป็นแผงหรือไสลิ้นด้านข้างแล้ววางเรียงกันปูพื้น หรืออีกชนิดหนึ่งเป็นพื้นปาร์เก้ต์สำเร็จ โดยนำชิ้นไม้มาติดกันเป็นแผง ขัดหน้ามาเคลือบทับหน้าไว้เรียบร้อยแล้ว เวลาจะติดตั้งก็ใช้ไม้อัดหรือแผ่นยางปูพื้นบนคอนกรีต การปูปาร์เก้ต์สำเร็จนี้จะทำได้เร็วกว่าการปูปาร์เก้ต์โมเสกหรือปาร์เก้เข้าลิ้น สำหรับพื้นไม้ลามิเนตนั้นได้มาจากการนำไม้ที่ป่นละเอียดมาอัดด้วยแรงอัดสูง จึงทำให้ได้ไม้ที่มีความแข็งแรงมาก ทนต่อแรงขีดข่วนได้ดีกว่าพื้นไม้ธรรมดา เพราะเคลือบด้วยเมลามีนเรซิ่นและมีราคาถูกกว่าไม้จริง

พื้นไม้ปาร์เก้ต์และไม้ลามิเนตนั้นมีคุณสมบัติที่เด่นๆหลายประการ เช่น พื้นไม้ปาร์เก้ต์เข้าลิ้นให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการปูพื้นด้วยไม้จริงแต่ราคาถูกกว่า ส่วนพื้นปาร์เก้ต์สำเร็จนั้นประหยัดเวลาในการปูได้มาก แต่มีราคาแพง สำหรับราคาของพื้นปาร์เก้ต์นั้นจะแตกต่างกันตามชนิดของเนื้อไม้ ขนาดของชิ้นไม้และเกรดของปาร์เก้ต์ สำหรับพื้นลามิเนตนั้นมีคุณสมบัติที่เด่นๆหลายประการคือ ป้องกันคราบฝังแน่น ทำความสะอาดง่าย สีไม่ซีดจางเพราะแสงอาทิตย์ ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี ทนต่อความร้อน เช่น ก้นบุหรี่และธูป รับน้ำหนักได้สูงถึง 450 กิโลกรัม/ตารางเมตร ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว

ในเรื่องการดูแลรักษาพื้นปาร์เก้ต์นั้นก็ทำได้ไม่ยาก โดยการทำความสะอาดด้วยผ้าหมาดๆ หากจะใช้น้ำยาทำความสะอาดต้องเป็นน้ำยาที่ใช้สำหรับพื้นปาร์เก้ต์โดยเฉพาะ และควรใช้ผ้าสักหลาดหรือยางที่มีคุณภาพดีรองขาเฟอร์นิเจอร์เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน ส่วนพื้นไม้ลามิเนตนั้นต้องการการดูแลน้อยมาก เนื่องจากมีการออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่เหมาะสมกับที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะ เพียงแต่ทำความสะอาดด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดเท่านั้น หรือหากมีรอยคราบที่ยากแก่การทำความสะอาดให้ใช้น้ำมันสนเช็ดทำความสะอาดเฉพาะจุดเท่านั้น

แม้จะมีการผลิตวัสดุขึ้นมาใช้แทนไม้และมีราคาถูก รวมทั้งมีความสะดวกในการใช้แต่ก็ยังคงมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ยังต้องการใช้ไม้จากธรรมชาติ โดยให้เหตุผลว่าไม้ธรรมชาติให้ความรู้สึกที่อบอุ่นนุ่มนวล การจะเลือกใช้พื้นชนิดใดนั้นคงขึ้นอยู่กับความชอบ ความพร้อมและความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละคนครับ

ผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายไม้พื้น
บ.ลีโอวูด อินเตอร์เทรด T.0-2744-8000
บ. คอนวูด จก. T. 0-2797-7444
บ. เคเอ พาวเวอร์ จก. T. 0-2435-1888
บ.สามธันวา จก. T. 0-2907-8140-2
บ.ไทย เอ็น จี เอส 1999 T. 0-2813-4171-2
ร้านสหการช่าง(โกวิท) T. 0-2224-8800