ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์

เกี่ยวกับเรา

กิจกรรมและข่าวประชาสัมพันธ์

สาระน่ารู้

ถามตอบ

ร่วมงานกับเรา

ติดต่อเรา

หน้าแรก / สาระน่ารู้ / เกร็ดความรู้

เกร็ดความรู้

หน้าแรก / เกร็ดความรู้

การดูแลรถยนต์หลังน้ำท่วม

หลังจากที่พายุ “โพดุล” ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยก็ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างก่อให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ บางครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่สูงก็อาจขนย้ายสิ่งของทันก็ได้รับความเสียหายน้อย แต่สำหรับบางครัวเรือนอาจจะต้องยอมรับความเสียหายเพราะกระแสน้ำมาแรงและเร็วจนขนย้ายข้าวของไม่ทันก็คงได้แต่เอาตัวเองให้รอดปลอดภัยก่อน และรอให้น้ำลดแล้วค่อยจัดการซ่อมแซมสำหรับข้าวของเสียหาย แต่หากเป็นเรื่องของยานพาหนะอย่างรถยนต์และรถมอเตอร์ไซด์ที่ถูกน้ำท่วมเราจะทำอย่างไร วันนี้เรามีคำแนะนำเบื้องต้นในการดูแลรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมมาบอกกัน

ถอดแบตเตอรี่ออกหนึ่งข้างจะเป็นด้าน บวก หรือ ลบ ก็ได้เพื่อไม่ให้ไฟไปเลี้ยงระบบต่าง ๆ ภายในรถยนต์นอกจากนี้ยังป้องกันไฟลัดวงจร

ถ่ายรูปตอนที่น้ำท่วมสูงสุดไว้จะได้รู้ว่าถึงจุดไหนของรถ เพื่อตรวจเช็คความเสียหาย

หลังจากที่น้ำลดลงให้โทรตามประกันมาเพื่อประเมินความเสียหาย เมื่อประกันมาดูรถห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์เด็ดขาด เพราะน้ำอาจเข้าท่อไอดี ไปอยู่ที่หัวลูกสูบ หากมีการสตาร์ทเครื่อง น้ำก็จะอัดในห้องเครื่องทำให้ก้านสูบคด งอ หรือพังในที่สุด ทีนี้ก็อาจจะได้ซ่อมใหม่ หลายหมื่นเลยทีเดียว

แจ้งให้ประกันลากรถเข้าศูนย์บริการ พร้อมทำหนังสือว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง ให้เหมือนเดิม แล้วเซ็นต์เอกสารเพื่อยืนยัน

ส่วนคนไหนที่ไม่มีประกันและพอจะมีความรู้ด้านเครื่องยนต์ก็สามารถทำตาม ดังนี้

5.1 ถอดแบตเตอรี่ออก

5.2 เอาลมเป่า ตามปลั๊กไฟทุกจุด และถอดกล่อง ECU มาเป่า ใช้ลมเป่า เบา ๆ หรือไดเป่าผมก็ได้ แล้วตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีเพื่อให้แห้งสนิท (กล่องจมน้ำไม่พัง แต่ถ้าเป่าลมแรง ๆ อาจพังเลย กล่องพวกนี้เขามีน้ำยาเคลือบมาแล้ว จมน้ำเลยไม่เสีย แต่อาจต้องระวังเรื่องใส่แบตเตอรี่อย่าใส่ผิดเพราะอาจจะเสียและต้องเปลี่ยนใหม่เท่านั้น ซึ่งราคาก็หลักหมื่น)

5.3 ถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้ายทิ้ง และเติมใหม่

5.4 สำหรับรถยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน ให้ถอดหัวเทียนออก ติดเครื่อง 3 วินาที ทำแบบนี้ 3 ครั้ง ครั้งแรกน้ำจะพุ่งออกรูหัวเทียน มาก ห้ามลืมถอดหัวเทียน เพราะอาจทำให้ก้านสูบคด และต้องเสียเงินหมื่น

5.5ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล ให้ถอดหัวฉีด หรือหัวเผาก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วติดเครื่อง 4 วินาที ทำ 4 ครั้ง

5.6 หลังจากนั้นประกอบคืน ล้างถังน้ำมันเชื้อเพลง เติมใหม่ แล้วติดเครื่องได้เลย เครื่องติดแล้วทำตามที่บอก อย่าข้ามขั้นตอน แค่นี้ ก็ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น

5.7 เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว แต่เข้าเกียร์ไม่ได้ วิ่งไม่ได้ เพราะ ผ้าครัชติดกับหวีครัช ไม่ต้องยกเกียร์ให้ลำบาก ทำง่าย ๆ นาทีเดียวก็ดีเยี่ยม โดยเข้าเกียร์ 2 ติดเครื่อง 8 วินาที ก็ใช้ได้เลย เมื่อใช้ได้ 2,000 กิโลเมตร ก็เปลี่ยนลูกปืนครัชใหม่ ราคาไม่ถึงพันบาท

ส่วนใครที่มอเตอร์ไซค์จมน้ำก็ไม่ต้องกังวลเพียงให้ทำทุกอย่าง เหมือนข้อ5.1 ถึง5.6 ก็สามารถใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ได้ตามปรกติเพราะมอเตอร์ไซด์มีข้อดีอย่างหนึ่งก็คือ แบตเตอรี่ จมน้ำไม่เสียเพราะเป็นแบตเตอรี่แห้ง

ขอบคุณเนื้อหาข้อมูล : Anucha Junthon (ช่างจันทร์)