หน้าแรก / สาระน่ารู้ / เกร็ดความรู้
เกร็ดความรู้
หน้าแรก / เกร็ดความรู้

หัวหิน ร้อนนี้ที่ถวิลหา

Line

หัวหิน ร้อนนี้ที่ถวิลหา

Line
...ขอถอนหายใจยาวๆสักทีก็บรรยากาศเมืองไทยช่วงนี้มันช่างแสนร้อนระอุ ทั้งระอุกายกับหน้าร้อนแบบไทยๆที่แม้นั่งอยู่เฉยๆโดยไม่ขยับซ้ายขวาก็เหนียวตัวหนุบหนับไหนจะร้อนใจจากภาวะการเมืองแบ่งสีแบ่งข้างของประเทศผมเองในฐานะคนไร้สีก็ได้แต่อธิษฐานให้คนไทยรักกันเข้าไว้บ้านเมืองจะได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติสุขเสียที

 
ดังนั้นเรามาหนีอากาศกับอารมณ์ร้อนๆ ไปเที่ยวทะเลกันดีกว่า ด้วยสุดสัปดาห์ก่อนผมได้รับโอกาสให้พักผ่อนแบบ Long Weekend เพราะบู๊งานมาหนักตลอดหลายเดือน จึงเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะวางแผนไปเที่ยวทะเลหนีร้อน เมื่อแผนพร้อมการเดินทางของผมจึงเริ่มต้นขึ้น โดยมีจุดหมายปายทางอยู่ที่ อ.หัวหิน เอ้า...ออกเดินทาง

และไม่ว่าระยะทางใกล่ไกลขนาดไหน ผมก็ต้องเตรียมรถคู่ใจให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ซึ่งนอกจากการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์สภาพเบรก และเติมน้ำมันให้เต็มถังแล้ว การตรวจสภาพลมยางก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง เพราะลมยางที่อยู่ในระดับ 28-32 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว (PSI) จะสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่อีกทั้งยังทำให้ประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย

หัวหินเป็นอำเภอหนึ่งของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 232 กม. โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่าน จ.นครปฐม, จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี ก่อนจะเลี้ยวซ้ายที่แยก    กม. 201-202 ผ่าน อ.ชะอำ และตรงไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ได้เลย

แหม...คุยเพลิน เผลอแผลบเดียวเราก็มาถึง อ.หัวหิน กันแล้ว

หัวหิน สถานตากอากาศยุคแรกของไทย
หากถามถึงความเป็นมาว่าเหตุเมืองชายทะเลแห่งนี้จึงกลายมาเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมตลอดกาล ตั้งแต่รุ่นปู่ยังหนุ่มย่ายังสาว เรื่อยมาจนถึงรุ่นหลานอย่างเราๆ ก็ยังฮิตติดลมบนอย่างไม่เสื่อมคลายนั้น คงต้องย้อนไปในรัชสมัยของพระพุทธเจ้าหลวง(รัชกาลที่ 5) เมื่อระบบการบริหารบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ทันยุคสมัยอย่างชาติตะวันตก ซึ่งรวมไปถึงการกำหนดให้วันจันทร์ถึงศุกร์เปนวันปฎิบัติงาน ส่วนในวันเสาร์และอาทิตย์ได้รับการยกให้เป็นวันหยุดพักผ่อน

เมื่อมีวันหยุดงานอย่างเป็นสัดเป็นส่วน เจ้าขุนมูลนายและข้าราชการในสังกัดกระทรวงทบวงกรมทั้งหลายจึงนิยมใช้เวลาในช่วงนี้เดินทางไปยังต่างถิ่น เพื่อผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยจากภาระหน้าที่การงานที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ โดยมีเมืองชายทะเลเป็นจุดหมายอันดับต้นๆ ซึ่งในสมัยนั้นเชื่อกันว่าการได้ไปพักผ่อนยังชายทะเลที่มีทั้งอากาศบริสุทธิ์ ทิวทัศน์แสนงดงาม และบรรยากาศที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน จะช่วยให้สุขภาพกายและใจแข็แรง สามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอกครั้ง ซึ่งแนวความคิดนี้ก็รับมาจากชาติตะวันตกเช่นกัน

หัวหิน หรือชื่อเดิมว่า บ้านสมอเรียงถือเป็นสถานที่ตากอากาศแห่งแรกๆ ที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น และเมื่อกรมรถไฟหลวงได้เปิดเส้นทางรถไฟสายใต้ เพื่อไปเชื่อมต่อกับมลายู เมื่อราวปี พ.ศ. 2464 และได้ตัดเส้นทางผ่านตัวเมืองหัวหิน ก็ยิ่งทำให้การเดินทางมายังหัวหินสะดวกสะบาย ผู้คนจึงเริ่มรู้จักเมืองน่าเที่ยวแห่งนี้ ชื่อเสียงความงดงามของชายหาดสีขาวสลับกับโขดหินที่เรียงรายอยู่ริมฝั่งถูกบอกต่อกันไปแบบปากต่อปาก กระทั่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศน์เพื่อเป็นที่ประทับแรมในหัวหิน พร้อมกับเชื้อเชิญพระประยูรญาติมาสร้างบ้านพักตากอากาศไว้ที่นี่

หัวหินมาเจริญสูงสุดก็เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวังไกลกังวล ไว้เป็นสถานที่เสด็จแปรพระราชฐานส่วนพระองค์ เมื่อปี พ.ศ.2469 นับตั้งแต่นั้นมา หัวหินได้พัฒนามาเป็นชุมชนขนาดใหญ่เพื่อรองรับความเป็นเมืองท่องเที่ยว มีตลาดขนาดใหญ่เพื่อรองรับความเป็นเมืองท่องเที่ยว มีตลาดขนาดใหญ่อย่างตลาดฉัตรไชยให้จับจ่ายสินค้าทุกชนิด เกิดธุรกิจโรแรมที่พักเล็กใหญ่มากมาย จนบรรยากาศของหัวหินได้ปรากฎฉากเมืองอยู่ในนวนิยายรักโรแมนติกหลายต่อหลายเรื่อง

มาหัวหินวันนี้ ต้องไม่พลาด Kite boarding

เวลาเปลี่ยนทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา กิจกรรมริมชายหาดหัวหินก็หนีไม่พ้นเช่นกัน ในการรับรู้ของหนุ่มสาวรุ่นเลขสามเลขที่นำหน้าคงมีภาพจำจากเมืองหลายสิบปีก่อนอยู่ในใจ การได้ขี่ม้าแกลบตัวเล็กน่ารักเดินฉุยฉายอยู่ริมหาดอาจทำให้ใครบางคนดูเท่สุดๆหรือการได้นั่งบานาน่าโบ้ทกับเพื่อนๆ อาจจะสนุกสนานหาใดเปรียบแต่หากเป็นหัวหินในยุคนี้ คุณต้องไม่พลาดความสนุกจากKite boarding หรือแปลเป็นไทยสไตล์ผมว่า “เซิร์ฟว่าว”นั่นเอง

กีฬาใหม่สุดมันส์ชื่อแปลกหูนี้ เกิดขึ้นจากการผสมผสานกีฬาสองชนิดเข้าไว้ด้วยกัน นั่นคือ กีฬาว่าวกับการเล่นวินเซิร์ฟ พูดง่ายๆก็คือ แทนที่เราจะกางใบเรือเพื่อรับลมออกไปโต้คลื่นในทะเล เราก็เอาเจ้าว่าวตัวโตซึ่งได้รับการออกแบบมาพร้อมกับอุปกรป้องกันพาเราออกไปเซิร์ฟคลื่นมันส์ๆ กันได้ นอกจากนั้นแรงลมที่ตัวว่าวรับอยู่นั้นก็สามารถพาคุณลอยคว้างกลางอากาศได้สูงนับสิบเมตรนักกีฬาหลายคนจึงออกลีลาท่าทางกลางอากาศกันสุดเหวี่ยง ชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียว

Kite boarding เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 แต่ปัจจุบันยังเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น อาจเป็นเพราะค่าใช้จ่ายในการเรียนนั้นแพงถึง 20,000 กว่าบาทต่อคอร์ส หรือหากต้องการเช่าอุปกรณ์ออกไปลุยเมื่อคุณเรียนจบคอร์สแล้วก็ยังอยู่ที่ 2,000 บาทต่อสองชั่วโมง จึงทำให้ยังไม่เป็นที่นิยทในหมู่คนไทยมากนัก แต่หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักแล้วอยากลองความสนุกแบบใหม่ๆก็ขอเชิญกันได้ที่ KBA : Kite boarding School หัวหินซอย 75/1นะครับ รับรองว่ามันส์สุดเหวี่ยงแน่นอน
 

ชม ชิม ช็อป แบบสุดเก๋สุดเท่ ที่เพลินวาน

แม้ในช่วงหนึ่งเมืองหัวหินจะซบเซาไปจากความทรงจำของนักท่องเที่ยวชาวไทย จนต้องไปหลบอยู่ข้างหลังเมืองน่าเที่ยวชายทะเลหน้าใหม่ (ในตอนนั้น) อย่างพัทยา ภูเก็ต กระบี่ หรือหมู่เกาะน้อยใหญ่ในทะเลไทย แต่ในวันนี้หัวหินกลับมาโด่งดังอย่างสง่างามอีกครั้ง นักท่องเที่ยวชาวไทยต่างหลั่งไหลเข้ามาเยือนเมืองหัวหิน ซึ่งต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานที่เที่ยวแห่งใหม่หน้าตาเก๋ไก๋อย่างเพลินวาน

เพลินวาน คือ ตลาด(บก) ท่องเที่ยวที่รวบรวมเอาความเก่าแบบมีสไตล์ไว้ในที่เดียวกัน เป็นความเก่าในยุค 2499 ที่จิ๊กโก๋จิ๊กกี๋ดิ้นเพลงเอลวิสกันทั้งบ้านทั้งเมือง หยิบยกมา Renovate กับสถาปัตยกรรมเรือนไม้แนวคิดใหม่ได้อย่างลงตัว ราวเก้าโมงเช้าเรื่อยไปจนเที่ยงคืนร้านรวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของชำ ร้านของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า ร้านถ่ายรูป ร้านแผ่นเสียงเพลงเก่า บาร์เหล้า และอีกมากมายหลายร้านค้าในเพลินวาน จะพาคุณย้อนวันวานกลับไปหาความสุขเช่นนั้นอีกครั้งซึ่งวัยสะรุ่นอย่างคุณและผมเห็นแล้วก็ต้องตื่นตาตื่นใจ เห็นอะไรก็อยากเก็บภาพไว้เสียหมด เหตุเพราะไม่เคยเห็นของแปลกตาอะไรอย่างนี้ แหม...ถ้าคุณพาคุณลุงคุณป้าไปด้วยแล้วละก็ รับรองท่านๆ ต้องร้องกรี๊ดกร๊าด แล้วบอกกับคุณว่า “นี่แหละ...สมัยของชั้น!” อย่างแน่นอน

นอกจากการช้อปปิ้งของกินและของที่ระลึกแล้ว ในช่วงค่ำทางเพลินวานยังได้จัดให้มีการฉายภาพยนตร์ ซึ่งเป็นภาพยนตร์แบบหนังกลางแปลงขายยาในยุคก่อน โดยเริ่มฉายกันตั้งแต่ช่วงทุ่มครึ่งเป็นต้นไป ใครไปก่อนจับจองที่ดีๆ นั่งกับพื้นนี่แหละครับได้บรรยากาศสุดๆ นั่งๆ นอนๆ ดูหนังไปกับลมเย็นๆ เคี้ยวข้าวโพดคั่วหวานอร่อย ไหนจะได้ยินเสียงหวูดรถไฟปู้นๆ ที่วิ่งผ่านเพราะรางวางอยู่ข้างๆ จอหนัง บรรยากาศแบบนี้ไม่ม่ที่ไหนอีกแล้ว ต้องที่เพลินวานที่เดียว

อิ่มอร่อยพุงกาง ที่ตลาดโต้รุ่งหัวหิน
มาทะเลหัวหินทั้งที มีหรือที่ผมจะพลาดการลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ พร้อมกับของอร่อยอีกมากมายหลายอย่าง ผมเชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักร้านดีร้านเด่นในหัวหินที่ไม่ควรพลาดทั้งร้านของกินจริงหรือกินเล่น แต่ผมชอบแบบอยู่ที่เดียวจบ ไม่ต้องตระเวนไปที่ไหนๆ ให้เมื่อยน่อง  

ผมขอแนะนำตลาดโต้รุ่งหัวหินที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองหัวหินนี้เอง ยามย่ำค่ำคืน ซอยหัวหิน 72 หรือ ถ.เดชานุชิต ข้างตลาดฉัตรไชย จะได้รับการเนรมิตให้กลายเป็นตลาดโต้รุ่งขนาดใหญ่ ซึ่งได้รวบรวมเอาของคาวของหวานเลิศรสมาไว้ในที่เดียวกัน ของคาวก็มีอย่างกุ้งเผาตัวโต๊โต หมึกสดรสหวาน หรือจะเป็นปูนึ่งก้ามใหญ่ ที่กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดแซบๆ ซึ่งมีร้านให้คุณเลือกมากมาย สนใจนั่งร้านไหนก็ตามสะดวก

ส่วนของหวานก็ต้องไม่พลาดไอศกรีมกะทิที่คอนเฟิร์มความอร่อยด้วยจำนวนคนต่อคิวซื้อยาวไปจนสุดตลาดในบางวันเลยก็มี ส่วนใครอยากหาผลไม้ล้างปากขอแนะนำมะม่วงจิ้มน้ำปลาหวานรสเด็ด และหากต้องการของฝากติดไม้ติดมืออาทิ เสื้อยืดพิมพ์ลายหัวหิน แม่เหล็กติดกระดาษโน้ตเก๋าๆ และอีกสารพัดของกุ๊กกิ๊ก ทั้งหมดหาซื้อได้ในตลาดโต้รุ่งหัวหินจ้า

เป็นอย่างไรกันบ้างกับการหนีร้อนมาหัวหินในครั้งนี้ อาจติติงว่าไหนมาทะเลแล้วไม่โดนน้ำทะเลเลยสักหยด ก็ตอบได้ทันทีเลยว่าการมาทะเลในบางครั้งผมก็ไม่จำเป็นต้องลงไปเล่นน้ำทะเลเสมอ แค่เพียงได้ทอดกายนอนอยู่ริมหาดทรายเงี่ยหูฟังเสียงคลื่นซัดฝั่ง มองดูความเป็นไปของทุกชีวิตริมหาดเพียงเท่านี้ก็ถือเป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่งแล้ว ^_^
ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์
เราสร้างบ้านเพื่ออนาคต

Line