หน้าแรก / สาระน่ารู้ / เกร็ดความรู้
เกร็ดความรู้
หน้าแรก / เกร็ดความรู้

เทคนิคการทาสี

Line

เทคนิคการทาสี

Line
บ้านจะสวยงามและกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมได้ ต้องมีองค์ประกอบต่างๆที่เหมาะสม เช่น รูปทรง วัสดุและสี โดยเฉพาะสีนั้นนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญไม่แพ้องค์ประกอบอื่นๆ จึงจะเห็นได้ว่าสีของบ้านจะเปลี่ยนไปตามลักษณะภูมิประเทศ เช่น บ้านในเมืองหนาวที่มีต้นไม้ปกคลุมเป็นจำนวนมากจะใช้โทนสีขาว เขียว น้ำตาล เพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติรอบๆข้าง ส่วนบ้านชายทะเลมักจะใช้โทนสีฟ้า เพื่อให้กลมกลืนกับสีของฟ้าและทะเล เป็นต้นการทาสีอาจจะเป็นเรื่องยาก สำหรับความคิดของคนบางคน จึงยกเรื่องของสีให้เป็นหน้าที่ของช่างสีแล้วรอดูผลเมื่องานเสร็จ เมื่อมีการต่อเติมพื้นที่ใช้สอยของบ้าน หรือทาสีใหม่ก็ยังคงยกเป็นหน้าที่ของช่างสีอย่างเดิม ทั้งๆที่งานสีบางอย่างเป็นงานที่สมาชิกในครอบครัวสามารถทำด้วยตนเองได้ เพียงแต่เรียนรู้เรื่องเทคนิคการทาสีบ้างเท่านั้นเอง

ก่อนที่จะเรียนรู้เทคนิคการทาสีก็ควรจะทำความรู้จักประเภทของสีเสียก่อน สีแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆตามลักษณะพื้นผิวของวัสดุที่จะทาคือ สีน้ำอะครีลิคหรือสีน้ำพลาสติก เป็นสีที่ใช้ทาผนังคอนกรีต ฝ้าเพดาน ใช้ได้ทั้งทาภายนอกและทาภายใน โดยสีที่ใช้ทาภายนอกเป็นสีที่ทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศได้ดี สีน้ำมันเป็นสีที่ใช้สำหรับทาเหล็กและไม้ สีย้อมไม้เป็นสีสำหรับทำเนื้อไม้ให้เป็นสีที่เราต้องการ ใช้กับงานเฟอร์นิเจอร์ ส่วนแลคเกอร์หรือแชลแล็คเป็นสีเคลือบไม้ เพื่อรักษาเนื้อไม้และทำให้เห็นลายสวยงามตามธรรมชาติของไม้ วัสดุที่เป็นเหล็กจะทาสีกันสนิมเป็นสีรองพื้นก่อนทาสีจริง สำหรับผิวปูนทั้งเก่าและใหม่จะมีสีรองพื้นทากับผิวปูน เพื่อลดความเป็นกรด ด่างของผิวและช่วยให้สีที่ทาทับหน้ายึดเกาะผิวได้ดีขึ้น

เทคนิคการทาสีให้เรียบและสวยงามมีขั้นตอนสำคัญๆคือ เมื่อจะเริ่มทาสีต้องคนสีให้เข้ากันเสียก่อน เพราะสีที่ถูกทิ้งไว้นานๆจะนอนก้น ต่อจากนั้นให้เทสีจากกระป๋องลงในภาชนะผสมสีที่เตรียมไว้แล้ว ใช้น้ำมันสนผสมเล็กน้อยเพื่อให้มีความหนืดพอดี กวนสีและน้ำมันสนให้เข้ากัน ใช้แปรงทาสีจุ่มลงไปแค่ปลายๆแปรง แล้วเริ่มทาจากขอบชิ้นงานด้านใดด้านหนึ่ง โดยเมื่อทาแนวแรกแล้วให้ทาแนวที่สองให้เกยทับแนวแรกเล็กน้อยตลอดชิ้นงาน

แม้ว่าขั้นตอนของการทาสีจะดูเหมือนไม่มีอะไรที่ซับซ้อนยุ่งยาก แต่ก่อนลงมือทาสีต้องมีการวางแผนลำดับขั้นตอนในการทำงาน และเลือกชนิดของสีและเครื่องมือให้เหมาะกับลักษณะงาน  ศึกษาคู่มือการใช้งานและรายละเอียดต่างๆให้เข้าใจก่อนเริ่มต้นทาสี

เทคนิคของการทาสี เพื่อให้ได้งานที่เรียบร้อยสวยงาม นอกจากจะต้องฝึกฝนให้เกิดความชำนาญแล้ว ยังมีรายละเอียดอื่นๆที่ต้องคำนึงถึงอีกด้วย เช่น เมื่อทาสีภายในบ้านควรเปิดประตู หน้าต่าง เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ควรทาสีในสภาพอากาศที่ร้อนจัด แดดจัด เพราะทำให้ทำงานไม่สะดวก หลีกเลี่ยงการทาสีในวันที่มีลมแรง เพราะจะทำให้มีฝุ่นผงต่างๆมาเกาะติดผิวสีที่ทาไว้ หลีกเลี่ยงการทาสีหลังฝนตก เพราะความชื้นในอากาศจะทำให้คุณภาพการยึดเกาะของสีกับพื้นผิวต่ำลง ควรทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาด ปราศจากฝุ่นและสิ่งสกปรกก่อนทาสี หากต้องใช้สีเหมือนๆกันหลายกระป๋อง ควรผสมสีทุกกระป๋องให้เข้ากันก่อนนำไปใช้งาน ในการทาสีแต่ละครั้งควรทิ้งระยะให้สีแต่ละชั้นแห้งสนิทก่อนจะทาทับเที่ยวต่อไป
สำหรับการทาสีผนังภายในให้เริ่มจากด้านบนลงล่าง และให้ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ปูบนพื้นใต้ผนังให้ทั่ว การทาสีตัดขอบผนัง เพดาน บัว ปลั๊กไฟ หน้าต่างหรือประตู ควรใช้แปรงทาสีที่มีขนาดเหมาะสม ส่วนการทาสีผนังพื้นไม้ก็ต้องขัดแต่งไม้ด้วยกระดาษทรายเสียก่อน แล้วใช้น้ำยารักษาเนื้อไม้ชนิดใสทาทับก่อน 1 เที่ยว จึงใช้สีย้อมไม้ทาทับ

เมื่อมีปัญหาสีที่ทาไว้ไม่เรียบก็ต้องดูว่าลักษณะของสีที่ไม่เรียบนั้นเป็นอย่างไร ถ้าสีเป็นขุยแสดงว่าผสมทินเนอร์ลงไปในสีน้อยเกินไป ให้หยดทินเนอร์เพิ่มลงไปแล้วคนใหม่ หากสีที่ทาเป็นวงๆจ้ำๆ เกิดจากการหยดทินเนอร์ลงมากเกินไป ให้ทิ้งสีไว้สักระยะหนึ่งเมื่อสีค่อยๆแห้งตัว จึงทาทับใหม่ หากทาสีผิดพลาดถ้ายังสดๆอยู่ให้ใช้ทิชชูหรือสำลีเช็ดออก ถ้าสีเริ่มแห้งแต่ยังไม่แห้งสนิทให้ขูดออก แต่ถ้าสีแห้งสนิทแล้วให้ใช้สำลีชุบ Acrylic Flo เช็ดออก

เทคนิคการทาสีที่กล่าวมาเป็นเพียงหลักการขั้นพื้นฐาน ที่จะทำให้งานสีดูเรียบร้อยสวยงามเท่านั้น ยังมีเทคนิคในการสร้างลวดลายบนผนังอีกมาก ที่จะใช้สีบ่งบอกถึงความรู้สึก หรือเหมาะกับสถานที่และโอกาสต่างๆกัน  เช่น โทนสีชมพู-ม่วงสื่อถึงความรักและความอบอุ่น โทนสีเหลือง-ฟ้า-น้ำเงิน บ่งบอกถึงความอิสรเสรี  โทนสีเขียว-ครีม-น้ำตาลทองสื่อถึงการเฉลิมฉลอง และโทนสีหวานๆเหมาะสำหรับสถานที่สำหรับเด็ก นอกจากนั้นยังมีเทคนิคในการทำผนังให้เป็นลวดลายสายน้ำ ลายกลีบกุหลาบหรือลายคลื่น ซึ่งเป็นเทคนิคง่ายๆที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง
ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์
เราสร้างบ้านเพื่ออนาคต

Line