หน้าแรก / ถามตอบ
คำถามที่พบบ่อย
หน้าแรก / คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่พบบ่อย


ไขปัญหา ข้อข้องใจเกี่ยวกับบ้าน และขั้นตอนการก่อสร้าง ที่นี่เรามีคำตอบ ...

Line

ไขปัญหา ข้อข้องใจเกี่ยวกับบ้าน และขั้นตอนการก่อสร้าง ที่นี่เรามีคำตอบ ...

Line

หัวใจของเราคือ งานบริการ

“พีดีเฮ้าส์” เต็มใจและพร้อมให้บริการทุกขั้นตอน เพื่ออำนวยความสะดวกในการสร้างบ้านบนดิน ของท่าน โดยมีแบบบ้านไว้ให้ท่านเลือกหลายรูปแบบ และหลายรสนิยม เราดำเนินการโดยทีมงาน ผู้มีประสบการณ์มานานกว่ากันทุกหลังแล้วเสร็จตามเวลาแะลเป็นที่พึงพอใจของท่าน

  • Q ทำไม ค่าก่อสร้างบ้านต่อตารางเมตรของพีดีเฮ้าส์ ถึงราคาสูง เมื่อเทียบกับรายอื่น
    A

    หากเปรียบเทียบเป็นราคาต่อตารางเมตร อาจจะมองว่าราคาขายบ้านของพีดีเฮ้าส์สูงกว่า แต่หากท่านพิจารณาโดยละเอียดและรอบคอบก็จะทราบว่า คุณภาพหรือเกรดวัสดุก่อสร้างที่คัดสรรและนำมาใช้สร้างบ้าน, พื้นที่ใช้สอยหลักจริง ๆ หรือพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน, บริการก่อน-หลังการขาย, การรับประกัน-ซ่อมบำรุงภายหลังส่งมอบบ้าน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ผู้ให้บริการสร้างบ้านทั่วไปมีมาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เหมือนกับของเรา

    ด้วยมาตรฐานและคุณภาพของ “พีดีเฮ้าส์” ที่กำหนดไว้ดีกว่าในหลาย ๆ ด้าน แน่นอนว่าย่อมส่งผลทำให้ต้นทุนโดยรวมค่าก่อสร้างและราคาบ้านสูงกว่าผู้ให้บริการสร้างบ้านรายอื่น ๆ โดยเราเชื่อว่าผู้เป็นเจ้าของบ้านทุกท่าน ต้องการได้บ้านที่ก่อสร้างด้วยวัสดุที่ดีมีคุณภาพ รวมถึงการบริการทั้งก่อน-หลังการขายที่ดี ข้อสำคัญคือ ไม่มีปัญหาเรื่องงบบานปลายในภายหลัง จึงยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อแลกกับคุณภาพบ้านและบริการที่ดี ภายใต้การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนจะตัดสินใจ

  • Q ราคาปลูกสร้างบ้านในหน้าเว็บไซต์ พีดีเฮ้าส์ รวมทุกอย่างแล้วหรือไม่ หรือราคารวมอะไรบ้าง
    A

    ราคาบ้านที่แสดงบนหน้าเว็บไซต์ เป็นราคารวมค่าวัสดุ ค่าแรง ค่าดำเนินงานก่อสร้าง ครบทุกอย่างแล้ว สำหรับแบบบ้านมาตรฐานของบริษัทฯ ที่มีให้เลือกปลูกสร้าง ยกเว้น บางรายการที่ระบุไว้ (สามารถดูรายละเอียดได้จากหน้าเว็บไซต์ หัวข้อ “คุณภาพวัสดุสร้างบ้าน” และ “การให้บริการสร้างบ้าน”) และในที่นี้รวมถึงการให้คำปรึกษา การปรับเปลี่ยนขนาดและรูปทรงบ้านให้ตรงตามความต้องการ (ก่อนจะตกลงราคาและทำสัญญา) การขออนุญาตก่อสร้าง ขอติดตั้งสาธารณูปโภค (ไฟฟ้า ประปา) การขอสินเชื่อธนาคาร (ธอส. และ ธ.ไทยพาณิชย์) การตรวจและซ่อมบำรุงรักษา 1-2 ปี (ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้)

  • Q ราคาค่าก่อสร้าง หมายถึงอะไร รวมราคาอะไรบ้าง
    A

    ราคาค่าก่อสร้างที่ “พีดีเฮ้าส์” แจ้งให้ทราบหมายถึง ราคาค่าก่อสร้างที่ลูกค้าจะจ่ายจริงตามสัญญาว่าจ้างก่อสร้างบ้าน ซึ่งแบ่งชำระเป็นงวด ๆ เริ่มชำระงวดแรกในวันเซ็นสัญญาฯ จนกระทั่งก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จ โดยจะแบ่งชำระออกเป็นงวด ๆ ตามความคืบหน้าของงวดงานก่อสร้าง ท่านจึงสบายใจได้เพราะว่าสามารถควบคุมงบประมาณไม่ให้บานปลายและได้บ้านเสร็จตรงตามสัญญา (ไม่รวมการตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ สวนภายนอกบ้าน)

  • Q หากต้องการแก้ไขปรับแปลนบ้านให้ตรงตามต้องการสามารถทำได้หรือไม่
    A

    ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนเพิ่ม-ลด ทั้งรูปทรงภายนอกและพื้นที่ใช้สอยภายใน โดยมีทีมงานที่ปรึกษางานขายหรือสถาปนิกคอยให้คำแนะนำและให้คำปรึกษา โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ

  • Q หากต้องการให้ออกแบบบ้านใหม่ สามารถให้บริการได้หรือไม่ และมีค่าใช้จ่ายหรือไม่
    A

    ในกรณีที่ลูกค้ามีความต้องการแบบบ้านออกแบบพิเศษหรือเฉพาะเจาะจงมิให้แบบบ้านเหมือนใคร ท่านสามารถใช้บริการออกแบบบ้านใหม่ กับ บริษัท เฌอวาด อาคิเทค จำกัด ซึ่งเป็นในเครือของเราได้ โดยมีทีมงานสถาปนิกพร้อมให้บริการและคำปรึกษา สำหรับค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างออกแบบบ้านนั้นจะขึ้นอยู่กับขอบเขตของงานที่รับผิดชอบ (ตามตกลงกัน)

  • Q ต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการปลูกสร้างบ้านแต่ยังไม่ปลูกสร้างมีค่าใช้จ่ายหรือไม่
    A

    ในกรณีที่ลูกค้าต้องการคำปรึกษาในการปลูกสร้างบ้านหรือต้องการคำแนะนำทางบริษัทฯยินดีให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

  • Q มีแบบบ้านอยู่แล้วหรือนำแบบบ้านจากที่อื่น มาให้พีดีเฮ้าส์ปลูกสร้างได้หรือไม่
    A

    หากลูกค้ามีแบบที่ว่าจ้างออกแบบมาแล้ว เรายินดีรับสร้างตามแบบนั้น ๆ แต่หากว่าเป็นแบบบ้านของผู้ให้บริการรับสร้างบ้านรายอื่น จะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของแบบบ้านก่อน และต้องไม่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ แต่ทั้งนี้คุณภาพวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง บริษัทต้องขอสงวนสิทธิ์ยึดตามวัสดุมาตรฐานของบริษัทฯ

    สำหรับ แบบบ้านที่จะนำมาให้ พีดีเฮ้าส์ คำนวณราคาค่าก่อสร้างนั้น ควรเป็นแบบแปลนที่ใช้สำหรับก่อสร้าง มิใช่เป็นแค่เพียงโบชัวร์แบบบ้านหรือภาพทัศนียภาพจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ด้วยเพราะโบชัวร์แบบบ้านนั้นจะไม่มีรายละเอียดที่จำเป็นสำหรับใช้คำนวณราคาค่าก่อสร้าง เช่น ขนาด ระยะ ความกว้าง ความยาว และความสูงมิติต่าง ๆ

  • Q สามารถเปลี่ยนแปลงแบบระหว่างก่อสร้างได้หรือไม่
    A

    ในระหว่างทำการก่อสร้างลูกค้าสามารถร้องขอให้มีเปลี่ยนแปลงวัสดุ-อุปกรณ์ต่าง ๆ ได้โดยบริษัทฯ จะทำการเสนอราคางานเพิ่ม-ลดให้พิจารณาก่อนตัดสินใจ แต่สงวนสิทธิ์การขอเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหลัก เพราะจะมีผลกระทบกับงานวิศวกรรมและกฎหมายควบคุมอาคาร (ตามที่ได้รับขออนุญาตก่อสร้างจากหน่วยงานราชการ)

  • Q หากต้องการกู้เงินสร้างบ้าน บริษัทฯ ทำเรื่องยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารด้วยหรือไม่ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่?
    A

    พีดีเฮ้าส์ มีบริการติดต่อและยื่นขอสินเชื่อสร้างบ้านให้กับลูกค้าทุกท่านที่มีความต้องการ โดยบริษัทฯ ไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น (ยกเว้น ค่าใช้จ่ายที่ธนาคารเรียกเก็บ เช่น ค่าประเมินหลักทรัพย์ ฯลฯ)

  • Q มีงบประมาณจำกัด พีดีเฮ้าส์รับสร้างหรือไม่ หรือราคาเริ่มต้นอยู่ที่เท่าใด
    A

    ราคาบ้านตามแบบบ้านของบริษัทฯ ที่มีให้เลือก ราคาบ้านเริ่มต้นที่ 2.2 ล้านบาท อย่างไรก็ดี หากลูกค้ามีเงินออมไม่เพียงพอหรือมีเงิดสดจำกัด แนะนำว่าควรขอสินเชื่อกับธนาคาร เพื่อใช้เป็นค่าก่อสร้างบ้านให้เพียงพอ ดีกว่าจะสร้างบ้านขนาดเล็ก ๆ ไปก่อน จากนั้นจึงค่อยต่อเติมในภายหลังหรือในอนาคต เพราะอาจมีปัญหาในทางกฎหมาย หรืออาจมีปัญหาในเรื่องโครงสร้างทรุดและแตกร้าวได้

  • Q ถ้าต้องการใช้สินเชื่อ ลูกค้าจำเป็นต้องมีเงินสำรองด้วยหรือไม่ ประมาณเท่าไหร่?
    A

    ในกรณีที่ธนาคารอนุมัติวงเงินกู้ยืมต่ำกว่าค่าก่อสร้างบ้าน อาจเป็นเพราะว่าความสามารถในการผ่อนชำระของลูกค้าต่ำกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด (รายได้ประจำ) หรือหลักทรัพย์ค้ำประกันราคาประเมินต่ำมาก (ธนาคารจะประเมินความสามารถและหลักทรัพย์แจ้งให้ลูกค้าทราบ) ลูกค้าจำเป็นจะต้องมีเงินสำรองบางส่วน เพื่อสมทบจ่ายค่าก่อสร้างบ้านในแต่ละงวดตามสัญญา

  • Q ถ้าต้องการให้บริษัทรื้อถอนบ้านเก่าให้ได้หรือไม่
    A

    ทางบริษัทฯ ไม่ได้รับงานรื้อถอนบ้านเก่า แต่สามารถแนะนำผู้ให้บริการรื้อถอนบ้านเก่าให้ลูกค้าพิจารณาก่อนตัดสินใจใช้บริการ

  • Q ศูนย์รับสร้างบ้านสาขาอื่น ๆ หรือสาขาต่างจังหวัด สร้างบ้านได้มาตรฐานเหมือนกันหรือไม่
    A

    ระบบการบริหารจัดการของ พีดีเฮ้าส์ มีการออกแบบกระบวนการและมาตรฐานการปฏิบัติงานของพนักงานในทุก ๆ ตำแหน่งของบริษัทฯ เอาไว้ พร้อมทั้งมีการฝึกอบรมก่อนเริ่มปฏิบัติและระหว่างปฏิบัติงานอยู่เป็นระยะ ๆ เพื่อความเข้าใจตรงกันของผู้ปฏิบัติงาน สามารถให้การบริการและการควบคุมงานสร้างบ้านอยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ตลอดจนมีการตรวจสอบมาตรฐานต่าง ๆ ผ่านระบบสารสนเทศน์หรือการสื่อสารที่ทันสมัยบน Application ควบคุมงานก่อสร้างทุก ๆ วัน และการเข้าตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างจริง โดยผู้จัดการสาขาและผู้ตรวจสอบคุณภาพหรือผู้เชี่ยวชาญเป็นระยะ ๆ

  • Q หากหมดสัญญาการรับประกันแล้ว บ้านเกิดมีปัญหาพีดีเฮ้าส์ยังดูแลต่อหรือไม่
    A

    เรามีการรับประกันคุณภาพงานหลังรับมอบบ้าน

    - สำหรับวัสดุมาตรฐานรุ่น Smart, Luxury Series มีการรับประกันคุณภาพทั่วไป 2 ปี รับประกันโครงสร้าง 20 ปี
    - สำหรับวัสดุมาตรฐานรุ่น Standard, Exclusive Series มีการรับประกันคุณภาพทั่วไป 1 ปี รับประกันโครงสร้าง 20 ปี

    สำหรับ กรณีที่ครบระยะการรับประกันแล้วพบความชำรุดของวัสดุอุปกรณ์ใด ๆ ที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน เรายินดีให้บริการตรวจสอบหรือซ่อมบำรุง โดยมีค่าใช้จ่ายตามจริง

  • Q ไม่ทราบว่า พีดีเฮ้าส์ รับสร้างบ้านในต่างจังหวัดด้วยหรือไม่ ?
    A

    ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เรายินดีให้บริการรับสร้างบ้านทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขามากที่สุดเป็นอันดับ 1 และเปิดให้บริการแล้วกว่า 25 สาขาทั่วทุกภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ พิษณุโลก อุบลราชธานี ขอนแก่น นครราชสีมา สระบุรี ชลบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช ฯลฯ เป็นต้น

  • Q หากต้องการสร้างบ้านในต่างจังหวัด อยากทราบว่ามีค่าใช้จ่ายหรือค่าขนส่งเพิ่มหรือไม่
    A

    ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มค่ะ โดยพิจารณาจากระยะทางระหว่าง “สถานที่ก่อสร้างบ้านของท่าน” กับ “ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์” ที่มีสาขาตั้งอยู่ในจังหวัดนั้น ๆ ไม่เกิน 100 กิโลเมตร หากระยะทางมากกว่านั้น จะพิจารณาค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นกรณีไปค่ะ

  • Q โครงสร้างคอนกรีตสำเร็จรูป Multi-joint Lock System ของบริษัทฯ มีข้อดีและข้อแตกต่างอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้างสำเร็จรูปของบริษัทอื่น หรือหากเปรียบเทียบกับวิธีเทคอนกรีตโครงสร้างในที่
    A

    โครงสร้างคอนกรีตสำเร็จรูป Multi-joint Lock System นั้นได้พัฒนาการออกแบบด้านวิศวกรรม โดยเฉพาะด้านการยึดต่อและยึดเหนี่ยวโครงสร้างระหว่าง เสา คาน พื้น ในทุก ๆ จุดที่มีการยึดต่อกัน ด้วยการออกแบบจุดต่อเสาและคานเป็นแบบ Socket หรือเรียกว่า เบ้าและเดือย สามารถยึดต่อกันได้โดยไม่ต้องใช้วิธีเชื่อมต่อเหล็กแกนเสาหรือคานเหมือนโครงสร้างสำเร็จรูปแบบเดิม ๆ ความแตกต่างกัน อีกประการที่สำคัญคือ โครงสร้างสำเร็จรูป Multi-joint Lock System จะมีความแม่นยำมากในการผลิตชิ้นงานเสาและคาน ทั้งนี้เพราะว่าวิศวกรผู้ออกแบบและคำนวณโครงสร้าง มีการกำหนดจุดยึดต่อของเสา คาน และพื้นลงในแบบพิมพ์เขียวที่ใช้ทำการผลิตชิ้นงานเอาไว้โดยละเอียด หากว่าโรงงานผู้ผลิตชิ้นงานเสา คาน พื้น ผลิตคลาดเคลื่อนไปจากขนาดและระยะต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในแบบพิมพ์เขียว จะทำให้โครงสร้างไม่สามารถประกอบติดตั้งเข้าด้วยกันได้ ซึ่งสะท้อนถึงความแม่นยำของงานโครงสร้างบ้านได้เป็นอย่างดีว่าเป็นไปตามที่วิศวกรออกแบบและกำหนดไว้ หากเปรียบเทียบกับระบบโครงสร้างหล่อในที่ทั่ว ๆ ไป หากเป็นระบบโครงสร้างสำเร็จรูปทั่วไป จะยังคงจำเป็นต้องอาศัยทักษะช่างก่อสร้าง ทำหน้าที่ในการจัดแนว ระยะ และหาระดับควาามสูงของชิ้นงานเสา-คานสำเร็จรูป ที่นำมาประกอบ ณ ไซต์งานก่อสร้าง ก่อนจะใช้วิธีเชื่อมด้วยไฟฟ้าเหล็กแกนเสา-คานให้ยึดติดกัน ขอยืนยันว่าความแม่นยำของโครงสร้างสำเร็จรูป Multi-joint Lock System ในเรื่องของ ระยะ ขนาด ระดับ แนวดิ่ง และแนวฉากของโครงสร้างที่ทำการติดตั้งเสร็จแล้วนั้น จะได้มาตรฐานและคุณภาพเหนือกว่าระบบหล่อในที่อย่างชัดเจน นอกจากนี้ระยะเวลาก่อสร้างที่รวดเร็วกว่า 2-3 เท่าในสถานที่ก่อสร้างสำหรับงานโครงสร้าง ยังช่วยให้ท่านได้บ้านที่เสร็จสมบูรณ์เร็วกว่าระบบโครงสร้างคอนกรีตหล่อในที่

  • Q วัสดุปูพื้นชั้นล่างทั่วไปตามที่บริษัทฯ กำหนดไว้นั้นเป็นพื้นลามเนต เหตุใดจึงไม่กำหนดเป็นกระเบื้องเคลือบเซรามิคเหมือนบริษัทอื่น ๆ ในระยะยาวจะมีปัญหาหรือไม่ อยากทราบเหตุผลและความแตกต่างด้วยค่ะ
    A

    บริษัทฯ กำหนดวัสดุปูพื้นชั้นล่างทั่วไปเป็นพื้นลามิเนตนั้น เหตุผลได้แก่
    1) มีความสวยงามและคงทนไม่แตกต่างกับกระเบื้องเคลือบเซรามิค แต่ให้ความรู้สึกและอารมณ์การใช้งานอบอุ่นมากกว่ากระเบื้องเคลือบ
    2) การอยู่อาศัยโดยทั่วไป พื้นที่ชั้นล่างเป็นพื้นที่ที่สมาชิกในครอบครัวจะมีกิจกรรมร่วมกันมากกว่าชั้นบน รวมถึงสมาชิกที่เป็นเด็กและผู้สูงวัย โดยส่วนใหญ่จะอยู่อาศัยชั้นล่าง ซึ่งข้อนี้สถาปนิกผู้ออกแบบของบริษัทฯ ให้ความสำคัญและคำนึงถึงความปลอดภัย ขณะที่มีการใช้สอยในชีวิตประจำวัน ซึ่งไม้พื้นลามิเนตมีความยืดหยุ่นสูงกว่า หากว่าเด็กเล็กหรือผู้สูงวัยหกล้มแล้ว จะไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงเหมือนพื้นกระเบื้องเคลือบ

    คำถามที่ว่าทำไม ไม่กำหนดเป็นกระเบื้องเคลือบเซรามิคเหมือนบริษัทอื่นๆ เหตุผลส่วนหนึ่งก็เป็นดังกล่าวข้างต้น อีกประการคือ เราพิจารณาประโยชน์ใช้สอยของลูกค้ามากกว่าต้นทุนก่อสร้าง เพราะพื้นลามิเนตราคานั้นจะสูงกว่ากระเบื้องเคลือบเกือบ 2 เท่า ดังนั้นผู้ประกอบการรายอื่นๆ จึงนิยมนำมากำหนดไว้เป็นวัสดุมาตรฐานเพราะต้นทุนต่ำกว่า ในส่วนที่ท่านถามว่าในระยาวจะมีปัญหาหรือไม่นั้น ท่านไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะสินค้ามีการผลิตที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งผู้ผลิตมีการรับประกันสินค้าให้ด้วยค่ะ

  • Q พีดีเฮ้าส์ มีบริการหลังการขายหรือการรับประกันผลงานอย่างไร
    A

    งานโครงสร้างหลัก รับประกัน 20 ปี ในส่วนของงานก่อสร้างทั่วไปรับประกันนาน 1-2 ปี หากมีข้อบกพร่องหรือชำรุดเกิดขึ้นในช่วงการรับประกัน บริษัทฯ จะทำการซ่อมแซมและบำรุงรักษาให้ ฟรี พร้อมทั้งมีบริการเข้าตรวจทุก ระยะ 3 เดือนในปีแรก และทุก ๆ 6 เดือนในปีถัดไปตามโปรแกรมตามที่บริษัทกำหนดไว้

  • Q หากเงินสดไม่พอ และต้องการขอกู้ธนาคาร ไม่ทราบว่าบริษัทฯ มีบริการอย่างไรบ้าง
    A

    พีดีเฮ้าส์ ได้รับความไว้วางใจจากสถาบันการเงินหรือธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้าที่ต้องการปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเอง เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ฯลฯ ฉะนั้นลูกค้าไม่จำเป็นต้องมีเงินสดหรือออมเงินจนครบก่อน โดยท่านควรมีรายได้ประจำตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดไว้ (ประมาณ 2 เท่าของยอดเงินที่จะผ่อนชำระแต่ละเดือน) นอกจากนี้การขอสินเชื่อกับธนาคารผ่านการให้บริการรับสร้างบ้านกับพีดีเฮ้าส์ ยังช่วยท่านประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการของสินเชื่อกับธนาคาร เมื่อเปรียบเทียบกับการที่ท่านติดต่อขอสินเชื่อด้วยตนเอง เช่น ค่าตรวจงวดงาน ค่าประเมิน ค่าจดจำนอง ค่าจดนิติกรรม และเงื่อนไขพิเศษอื่น ๆ (ตามที่ธนาคารร่วมจัดกิจกรรม) รวมทั้งยังได้รับความสะดวกในเรื่องการตรวจสอบคุณภาพงานในแต่ละขั้นตอน และการเบิกจ่ายเงินในแต่ละงวดงานระหว่างธนาคารกับบริษัท ฯลฯ ซึ่งท่านไม่ต้องเดินทางไปรับเงินที่ธนาคารทุก ๆ งวด/ครั้ง เพื่อจะนำมาจ่ายให้แก่บริษัทฯ เพราะธนาคารมีวิธียืนยันการตรวจงานและอนุมัติจ่ายเงินที่ทันสมัย (รายละเอียดสอบถามเพิ่มได้ที่ฝ่ายขายทุกสาขาค่ะ)

  • Q พีดีเฮ้าส์ รับสร้างบ้านที่จังหวัดฉะเชิงเทราหรือไม่ และควรจะติดต่อกับสาขาใด
    A

    ฉะเชิงเทราอยู่ในพื้นที่ให้บริการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าขนส่งใด ๆ เพิ่มค่ะ ท่านสามารถติดต่อสาขาใกล้บ้านหรือสาขาที่ติดต่อได้สะดวกที่สุด เช่น ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขาชลบุรี โทร.038-745652, ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขานครนายก โทร.037-349-990, ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขารังสิต-ปทุมธานี โทร.0-2996-0940 ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขานวมินทร์ - รามอินทรา โทร. 0-2988-9216-7

  • Q อิฐมวลเบา ช่วยลดเสียงและความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้จริงหรือไม่
    A

    จริงค่ะ และดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับอิฐมอญหรืออิฐบล็อกทั่วไป เนื่องเพราะกระบวนการผลิตอิฐมวลเบา หรือคอนกรีตมวลเบาชนิดอบไอน้ำ ซึ่งทำให้เกิดฟองอากาศขึ้นในเนื้อวัสดุและทำหน้าที่เป็นฉนวนในตัว  ซึ่งคุณสมบัติเด่นของอิฐมวลเบาคือทนต่อสภาพอากาศ  สามารถป้องกันความร้อนได้ดี จึงช่วยทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถประหยัดค่าไฟจากการใช้เครื่องปรับอากาศได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยดูดซับเสียง ทำให้สามารถลดความดังของเสียงที่จะเข้ามาภายในห้องได้อีกด้วย

    โดยส่วนใหญ่อิฐมวลเบาที่นิยมใช้จะมีขนาดความหนาไม่น้อยกว่า 7.5 ซม. และ 9 ซม. หรือ 10 ซม. ซึ่งขนาดดังกล่าวสามารถรองรับการใช้งานร่วมกับผนังบ้านได้ทั้งหลัง นอกจากนี้ยังช่วยให้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดการแบกรับน้ำหนักของโครงสร้างอีกด้วย

  • Q ดูจากรายละเอียดการให้บริการ บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า-ประปา (ชั่วคราว-ถาวร) โดยมี ตัวเลขค่าใช้จ่ายระบุไว้ในวงเล็บรวมแล้วกว่า 30,000 บาท อยากทราบเจ้าของบ้านต้องจ่ายเองใช่หรือไม่
    A

    ฟรี ค่ะ ในส่วนของการขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า-ประชาชั่วคราว เพราะค่าใช้จ่ายดังกล่าวรวมอยู่ในงานบริการสร้างบ้านอยู่แล้ว ฉะนั้นเจ้าของบ้าน ไม่ต้องควักเงินจ่ายเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อเปรียบกับบริษัทรับสร้างบ้านรายอื่น ๆ อาจจะไม่รวมไว้และท่านจะต้องเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายนี้เองทั้งหมด

    สำหรับการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า-ประปาถาวร นั้นในส่วนของวัสดุรุ่น Smart Series และ Luxury Series บริษัทฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายติดตั้งมิเตอร์ฯไฟฟ้าและประปาทั้งหมด(ไม่รวมค่าขยายเขต) ส่วนวัสดุรุ่น Standard Series และ Exclusive Series ทางลูกค้าจะต้องเป็นผู้จ่ายเอง

  • Q หากสนใจจะสร้างบ้านในระดับราคา 2-4 ล้านบาท ตามรายละเอียดการให้บริการระบุไว้ว่าใช้ระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญา 9-10 เดือน ไม่ทราบว่าเริ่มนับตั้งแต่วันใด
    A

    สัญญามีผลหรือเริ่มนับตั้งแต่วันที่ท่านลงนามในสัญญาและชำระเงินงวดวันทำสัญญา (ตามวันที่ระบุในสัญญา) ทันทีค่ะ ซึ่งระยะเวลา 9-10 เดือนนั้น บริษัทฯ เผื่อไว้แล้วสำหรับการเตรียมงานก่อนจะเริ่มลงมือก่อสร้างบ้าน เช่น การขออนุญาตก่อสร้าง ขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า-ประปาชั่วคราว (ใช้ในงานก่อสร้าง) งานจัดซื้อวัสดุ งานตอกเสาเข็ม ฯลฯ หากว่าการเตรียมงานใด ๆ เกิดความล่าช้าก็ถือเป็นความรับผิดชอบของบริษัทฯ เอง และถ้าไม่แล้วเสร็จตามสัญญาก็จะถูกเจ้าของบ้านปรับเป็นรายวันตามสัญญา

  • Q เลือกบริษัทรับสร้างบ้านต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง
    A

    ปัจจุบันมีบริษัทรับสร้างบ้านเปิดให้บริการอยู่มากมาย แต่การที่จะเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่มีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ นั้นจำเป็นต้องพิจารณารายละเอียดให้ถี่ถ้วน ทั้งนี้ก็เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยหัวข้อหลัก ๆ ที่จะต้องนำมาพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการก็มีดังต่อไปนี้

    1.ดูประวัติและผลงาน ด้วยการตรวจประวัติและดูผลงานการก่อสร้างที่ผ่านมาด้วยการค้นหาข้อมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือสอบถามผู้ที่เคยใช้บริการ เพื่อประกอบการพิจารณาก่อนตัดสินใจ
     
    2.มีที่ตั้งเป็นหลักแหล่ง เพื่อช่วยยืนยันและมีอยู่จริงมีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เผื่อในกรณีที่มีปัญหาเกิดขึ้นสามารถเข้าไปติดต่อได้อย่างสะดวก
     
    3.การทำสัญญา เพื่อความมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถก่อสร้างบ้านให้แล้วเสร็จตามระยะสัญญา รวมถึงรายละเอียดของวัสดุก่อสร้าง การแบ่งงวดงาน การแจ้งตรวจงานและการชำระเงิน
     
    4.มีแบบบ้านให้เลือกหลากหลายสไตล์ในราคาที่เหมาะสม บริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำจะมีแบบบ้านให้เลือกอย่างหลากหลายรูปแบบอีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบฟังก์ชั่นหรือออกแบบให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้
     
    5.คุณภาพงานก่อสร้างเป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ความสนใจ ซึ่งคุณภาพของการก่อสร้างจะดีได้ก็ต้องมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องครบถ้วนสมบูรณ์  อันได้แก่ การออกแบบ การก่อสร้าง การควบคุมและตรวจสอบการก่อสร้าง และการเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้าง โดยทั่วไปบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำกับเจ้าของบ้าน เพื่อลดปัญหาและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
     
    6.ใส่ใจสิ่งแวดล้อม การเลือกวัสดุก่อสร้างที่ได้รับรองมาตรฐาน “ฉลากเขียว” ซึ่งเป็นวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนอกจากจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้วยังช่วยลดค่าใช้จ่าย และลดการใช้พลังงานได้ในระยะยาวอีกด้วย
     
    7.บริการหลังการขาย บริษัทรับสร้างบ้านที่ดีจะต้องมีบริการดูแล รักษาหรือแก้ไขข้อบกพร่องในภายหลังมีการรับประกันคุณภาพบ้านทั้งงานโครงสร้างและงานทั่วไปเพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจ

  • Q ในช่วงฤดูฝนสามารถปลูกสร้างบ้านได้หรือไม่
    A

    ช่วงฤดูฝนอาจจะเป็นอุปสรรคสำหรับการก่อสร้างบ้าน เนื่องจากอาจมีปัญหาในเรื่องของการขนส่ง การจัดเก็บวัสดุก่อสร้างหรือแม้แต่เรื่องของน้ำท่วมขัง แต่ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในงานก่อสร้างทำให้ พีดีเฮ้าส์ได้นำระบบโครงสร้างสำเร็จรูปหรือ Prefabrication & Multi-joint Lock System (MLS) ซึ่งเป็นโครงสร้างสำเร็จรูปที่มีการหล่อชิ้นส่วนโครงสร้างที่ได้มาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิตขนส่งมายังไซต์งานก่อสร้าง สำหรับการติดตั้งนั้นจะต้องใช้รถเครนยกประกอบติดตั้ง เมื่อนำชิ้นส่วนไปประกอบติดตั้งที่หน้างานจะมีจุดรอยต่อต่าง ๆ ซึ่งเราเรียกว่าเดือยล็อค (Socket) วิศวกรจะออกแบบโดยคำนวณการรับน้ำหนักของคานเสาต่าง ๆ เพื่อเลือกใช้ขนาด Socket ที่สามารถรับแรงได้เพื่อให้บ้านมีความมั่นคงแข็งแรง ซึ่งระบบโครงสร้างสำเร็จรูปนี้จะใช้จำนวนแรงงานที่น้อยกว่าระบบโครงสร้างแบบหล่อในที่ อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาขาดแคลนแรงงานและช่วยลดระยะเวลาในการก่อสร้างให้เร็วขึ้น ที่สำคัญยังสามารถสร้างได้แม้ในฤดูฝน

  • Q วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแตกต่างจากวัสดุทั่วไปอย่างไร
    A

    วัสดุก่อสร้าง เป็นวัสดุจำเป็นพื้นฐานสำหรับใช้ในงานก่อสร้าง การที่จะนำมาใช้นั้นเราต้องมีความรู้และความเข้าใจในการใช้งาน ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ ซึ่งวัสดุก่อสร้างที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดนั้นก็จะมีหลายเกรดและหลายระดับราคาตามความชอบและงบประมาณ แต่อย่างไรก็ตามด้วยกระแสรักษ์โลกในปัจจุบันได้สร้างความตื่นตัวในเรื่องของการรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น และสร้างความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของที่อยู่อาศัยโดยหันมาใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ถึงแม้จะมีราคาสูงกว่าวัสดุทั่วไปก็ตาม แต่ทั้งนี้ในระยะยาวความคุ้มค่าของวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจะมีความคุ้มค่ามากกว่า ทั้งในเรื่องของการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานและลดค่าใช้จ่าย

    ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ในกระบวนการผลิต เป็นการลดการ ใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลืองและสารที่เป็นพิษต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ทำให้มีผลต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยรวมรวมทั้งช่วยปลูกฝังค่านิยมให้สังคมร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปในตัว

  • Q จะรู้ได้อย่างไรว่าแบบบ้านที่เราเลือกจะสามารถปลูกสร้างได้บนที่ดินของเราได้หรือไม่
    A

    ในการเลือกแบบบ้านเพื่อปลูกสร้างบนที่ดินของเรา เบื้องต้นเลยจะต้องดูขนาดของแปลงที่ดิน เพราะการจะปลูกสร้างบ้านนั้นไม่ได้นับเพียงพื้นที่ก่อสร้างเท่านั้น แต่จะต้องคำนึงถึงระยะถอยร่นด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วแบบบ้านแต่ละแบบจะกำหนดขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้สอดคล้องกับพรบ.ควบคุมอาคาร ที่ได้กำหนดให้อาคารที่สูงไม่เกิน 9 เมตรต้องถอยร่นจากแนวเขตที่ดินไม่น้อยกว่า 2 เมตร หากอาคารสูงเกิน 9 เมตร ต้องห่างจากแนวเขตที่ดิน 3 เมตร ตัวอย่างเช่นในกรณีที่จะปลูกสร้างบ้าน 2 ชั้นบนที่ดินหน้ากว้าง 14 เมตร เมื่อเว้นระยะร่นทั้ง 2 ด้าน ๆ ละ 2 เมตร ตามพรบ.ควบคุมอาคารแล้วก็จะเหลือพื้นที่สำหรับปลูกสร้างขนาด 10 เมตร ซึ่งก็เพียงพอต่อการจัดผังสำหรับปลูกสร้างบ้าน หรือหากในกรณีที่แปลงที่ดินหน้าแคบมาก ก็จำเป็นต้องออกแบบให้ผนังด้านข้างปิดทึบไม่มีช่องแสงและต้องได้รับการยินยอมจากพื้นที่ข้างเคียงด้วย แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพได้มีการพัฒนาและออกแบบบ้านสำหรับที่ดินหน้าแคบเพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นและคลายความกังวลในกรณีที่แปลงที่ดินมีหน้าแคบหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ทุกสาขาทั่วประเทศ

  • Q การชำระเงินค่าปลูกสร้างบ้านต้องแบ่งจ่ายตามงวดงานและชำระเท่ากันทุกครั้งหรือไม่
    A

    หลายคนมักมีคำถามและข้อสงสัยว่าเวลาปลูกสร้างบ้านการชำระเงินที่แบ่งจ่ายออกเป็นงวด ๆ นั้น แบ่งออกเป็นกี่งวดและต้องชำระเท่ากันทุกงวดหรือไม่ การชำระเงินค่าก่อสร้างบ้านนั้นจะแบ่งออกเป็นกี่งวดงานและชำระงวดละเท่าไหร่นั้นส่วนใหญ่จะเป็นไปตามข้อกำหนดของแต่ละบริษัท แต่ในส่วนของพีดีเฮ้าส์จะมีการแบ่งชำระเงินตามความคืบหน้าของงวดงาน ระบบโครงสร้างและขนาดบ้าน  ตัวอย่างเช่น บ้านชั้นเดียวโครงสร้างสำเร็จรูปจะแบ่งการชำระออกเป็น 6 งวด บ้าน 2 ชั้นโครงสร้างสำเร็จรูปราคาไม่เกิน 6 ล้านบาท แบ่งการชำระออกเป็น 7 งวด หากเป็นบ้าน 2 ชั้น โครงสร้างสำเร็จรูปราคา 6 ล้านบาทขึ้นไป จะแบ่งการชำระออกเป็น 8 งวด โดยแต่ละงวดจะแบ่งจ่ายไม่เท่ากัน อย่างเช่น งวดทำสัญญาจะต้องจ่ายในเบื้องต้น 10% ของราคาบ้าน งวดงานที่ 1 จะต้องชำระเงิน 20% งวดงานที่ 2 ชำระเงิน 20% งวดงานที่3 ชำระเงิน10% งวดงานที่4 ชำระเงิน 10% งวดงานที่5 ชำระเงิน10% งวดงานที่ 6 ชำระเงิน 10% งวดงานที่ 7 ชำระเงิน 5% และงวดงานที่ 8 ซึ่งเป็นงวดงานสุดท้ายชำระ 5% อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงสร้างหล่อในที่ก็จะมีการแบ่งชำระเงินตามงวดงานโดยแต่ละงวดงานก็จะชำระเงินไม่เท่ากันเช่นเดียวกันกับโครงการสำเร็จรูป หรือดูรายละเอียดได้ตามนี้  https://www.pd.co.th/th/pages/service