ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
13 มี.ค.2560

ธุรกิจรับสร้างบ้านส่อฟื้น ราคา3-5ล้านมาแรง

Line

          2 สมาคมรับสร้างบ้าน ประสานเสียง ตลาดเริ่มฟื้น ตั้งเป้าเติบโตราว 10-15 % ดันมูลค่าตลาดรวมเพิ่มเป็น 1.2 หมื่นล้านบาท หลังผู้บริโภคเชื่อมั่น
​          แม้โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่อยู่อาศัยจะยังคงชะลอตัว จากปัญหาสถาบันการเงินปฏิเสธให้สินเชื่อ แต่สำหรับธุรกิจรับสร้างบ้าน กลับพบว่า ตลาดในปีนี้เริ่มฟื้นตัวจากความมั่นใจผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจเริ่มกลับมา เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้คือกลุ่มที่มีกำลังซื้อ แต่ชะลอการใช้จ่ายเงินในช่วงที่ผ่านมา

​          นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ประเมินภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในปีนี้ ว่าจะมีทิศทางดีขึ้น เป็นผลมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจค) ทำให้คาดว่าตลาดรับสร้างบ้านจะกลับมาเติบโต ราว 10 -15% หรือมีมูลค่าตลาดรวมที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท

​          อย่างไรก็ดี ในปีนี้ยังคงมีปัจจัยลบ โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคก่อสร้าง ทำให้เกิดการแย่งตัวแรงงาน ยิ่งหากการลงทุนเมกะโปรเจคของภาครัฐเข้ามา ก็อาจจะใช้แรงงานกลุ่มเดียวกับแรงงานสร้างบ้าน ทั้งยังค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันแรงงานในธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้รับค่าแรงเฉลี่ยขึ้นไปอยู่ที่ 350-450 บาทคนต่อวัน เมื่อรวมกับราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้นกว่า 3% แต่ผู้ประกอบการยังไม่ได้ปรับราคาก่อสร้าง เพราะการแข่งขันในธุรกิจค่อนข้างสูง

​          "ตอนนี้ต้นทุนรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้น กว่า 3% เป็นไปตามอัตราการปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 3-5% โดยผู้ประกอบการหลายรายพูดถึงเรื่องต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่กล้าปรับขึ้นราคา ทำให้มาร์จิ้น (กำไรต่อหน่วย) ลดลง”

“วัสดุทดแทนไม้”มาแรง

​          ขณะที่ภาพรวมราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะวัสดุไม้ อีกทั้งใช้เวลาสั่งนานกว่าวัสดุอื่นๆ ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวโดยหันมาใช้วัสดุสังเคราะห์ทดแทนวัสดุธรรมชาติมากขึ้น เช่น ไม้สังเคราะห์ต่างๆที่นำมาติดวงกบ ประตู หรือใช้วัสดุ UPVC โดยในปัจจุบันประเมินว่า การนำวัสดุสังเคราะห์มาใช้ในตัวบ้าน คิดเป็นสัดส่วน 30% ของตัวบ้าน 
“ผู้บริโภคยุคนี้มองการสร้างบ้านที่ความสวยงาม แข็งแรง คงทน ไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องใช้เฉพาะวัสดุธรรมชาติเท่านั้น ผนวกกับเทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมเข้ามาเสริม จึงไม่ได้เน้นว่าจะต้องใช้วัสดุธรรมชาติมากนัก ยกเว้นกลุ่มบ้านระดับลักชัวรี่ที่ยังนิยมใช้วัสดุธรรมชาติ”

บ้านยอดนิยมราคา3-5ล้าน

​          สำหรับระดับราคาสร้างบ้านที่ได้รับความนิยม คือ ระดับราคาบ้าน 3-5 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่เพิ่มขึ้นจากในช่วง 2 ปีก่อน ที่ส่วนใหญ่เป็นระดับราคา 2-3 ล้านบาท ส่วนกลุ่มบ้านหลังใหญ่ ราคา10 ล้านขึ้นไป หรือมีพื้นที่ประมาณ 600 ตร.ม.ขึ้นไปยังมีสัดส่วนไม่มากนัก ราว 5 -10%ของตลาด
 
​          ส่วนทำเลรับสร้างบ้านยอดนิยมในกรุงเทพฯจะกระจายอยู่ทั่วไป ทั้งโซนรามอินทรา และบางนา ที่เป็นกลุ่มตลาดค่อนข้างสูง รวมถึงตอนเหนือของกรุงเทพฯ เช่น รังสิต และบางบัวทอง เป็นต้น

แนวโน้มบ้าน“ฟังก์ชันนอล”ฮิต

​          นายพิชิต ยังกล่าวว่า ในปีนี้เทรนด์รับสร้างบ้านจะเป็นลักษณะฟังก์ชันนอลมากขึ้น โดยเป็นบ้านที่มีพื้นที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้อยู่อาศัยหลากหลาย เช่น บ้านสำหรับผู้สูงวัย บ้านประหยัดพลังงาน ซึ่งกลายเป็น 1 ในมาตรฐานการสร้างบ้านในยุคนี้ไปแล้ว

​          ส่วนงาน “รับสร้างบ้าน Home Builder Focus 2017” ซึ่งรวบรวมบริษัทรับสร้างบ้านกว่า 20 บริษัท ถือเป็นอีกกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและขายให้กับสมาชิกในสมาคมฯ คาดว่างานปีนี้จะมียอดขายภายในงานกว่า 1,000 ล้านบาท จากการจัดงานรวมระยะเวลา 7 วัน และมียอดขายต่อเนื่องหลังจากจบงานอีกราว 20-30% เมื่อเทียบจากปีก่อนใช้ระยะเวลาการจัดงานรวม 4 วัน ทำยอดขายอยู่ที่ 950 ล้านบาท ทั้งนี้ งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-15 มี.ค.นี้ ณ เซ็นทรัล ลาดพร้าว

ปรับคาดการณ์ตลาดปีนี้ดีขึ้น

​          นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ทิศทางตลาดรับสร้างบ้านปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน หลังจากที่เคยประเมินว่าตลาดในปีนี้จะยังคงชะลอตัว เนื่องจากยอดขายภายในงาน“มหกรรมบ้านและวัสดุก่อสร้าง ที่จัดเมื่อช่วงปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่า สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงเป็น 1 ในตัวแปรที่สะท้อนสถานการณ์ธุรกิจรับสร้างบ้านว่าเริ่มดีขึ้น

​          ทั้งนี้ ภายในงานดังกล่าว ยังพบว่า สัดส่วนลูกค้ามากถึง 70% ที่ใช้เงินสด หรือเงินออม เพื่อก่อสร้างบ้าน สะท้อนภาพตลาดในเชิงบวก โดยเฉพาะความมั่นใจของกลุ่มลูกค้าที่กล้ากลับมาใช้จ่ายกันมากขึ้น ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีเงินออมอยู่แล้ว เพียงแต่ในปีก่อนยังไม่ค่อยใช้จ่าย ผนวกกับภาพรวมตลาดต่างจังหวัดที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น จากราคาพืชผลเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น

​          “แม้เศรษฐกิจจะยังไม่เอื้อ แต่กลุ่มลูกค้าธุรกิจรับสร้างบ้านก็พร้อมด้านการเงิน สามารถสร้างบ้านได้ตลอด ยิ่งช่วงเศรษฐกิจไม่ค่อยดี พวกเขาก็อาจมองว่ายิ่งมีอำนาจต่อรองกับผู้ประกอบการมากขึ้น”

​          ขณะที่ แผนการกระตุ้นตลาดและยอดขายของสมาชิกสมาคมฯในปีนี้ มีแผนจะจัดงานมหกรรมรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดครั้งแรก ที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งจะจัดในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ โดยจะเข้าไปปลุกกำลังซื้อตลาดต่างจังหวัด โดยเฉพาะอุบลฯ ที่มองว่าเป็นเมืองสำคัญของอีสานตอนใต้ เป็นประตูการค้าเพราะมีทำเลใกล้กับประเทศลาว


ที่มา : bangkokbiznews.com
(วันที่ 13 มีนาคม 2560)