ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
21 มิ.ย.2556

ธุรกิจรับสร้างบ้าน ต้องไม่จำกัดแค่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล

Line

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่อยากจะเห็นตลาดรับสร้างบ้านเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในต่างจังหวัด แทนการแข่งขันกันเอง เพื่อแย่งชิงลูกค้าในตลาดกรุงเทพฯ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดิเวลลอป จำกัด

จึงขอนำร่องบุกตลาดต่างจังหวัดเป็นเจ้าแรกในนาม ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์ (PD House) ภายใต้รูปแบบแฟรนไชส์รับสร้างบ้านในปี 2552 ปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศ 30 สาขา และตั้งเป้าที่จะขยายสาขาในประเทศให้ครบ 50 สาขา ในขณะเดียวกันก็เล็งพื้นที่การค้าชายแดนอย่าง แม่สอด สะเดา และอรัญประเทศ เปิดสาขาเพิ่ม เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558

ทั้งนี้ การดำเนินงานให้ได้ตามแผนงานที่ตั้งไว้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต่อเรื่องนี้ นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของและผู้บริหารสิทธิ์แฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ และเอคิวโฮม ได้บอกเล่าถึงแผนการขยายธุรกิจให้ฟังอย่างเป็นกันเอง

++แก้ปัญหาแรงงาน/ ให้บริษัทลูกซัพพอร์ตวัสดุ
ปัญหาขาดแคลนแรงงานในปัจจุบัน ยอมรับว่าได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน แต่ไม่มากนัก เหตุก็เพราะบริษัท เตรียมพร้อมและปรับตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว ด้วยการนำโครงสร้างเสา-คาน-พื้นสำเร็จรูปที่เรียกว่าMLS (Multi-joint Lock System) มาใช้ในการสร้างบ้านทุกหลัง ข้อดีของ MLS ได้แก่ 1.ลดระยะเวลาก่อสร้างในสถานที่ลง 2.ใช้แรงงานจำนวนน้อยกว่า 3.ควบคุมคุณภาพได้แม่นยำกว่าระบบก่อสร้างแบบเดิม แต่ก็มีจุดอ่อนคือ มีต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งสูงกว่า ทำให้เสียเปรียบอยู่บ้างกับคู่แข่งที่เน้นราคาต่ำแต่ไม่เน้นคุณภาพและความรวดเร็ว

แต่บริษัทก็มีแผนบริหารจัดการด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยให้บริษัท พีดี สยาม ซัพพลายแอนด์ เซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่เป็นตัวแทนจัดซื้อวัสดุก่อสร้างให้แก่แฟรนไชส์ของพีดี เฮ้าส์ เนื่องจากการเจรจาซื้อสินค้าในปริมาณมากๆ จะได้รับส่วนลดที่มากกว่า ทำให้สมาชิกสามารถซื้อสินค้าถูกกว่าท้องตลาด 3-10% ซึ่งในปีที่ผ่านมา พีดี สยาม มียอดขาย 150 ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้ายอดขายที่ 220 ล้านบาท

ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ผลการดำเนินงานในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายได้กว่า 600 ล้านบาท จากเป้ายอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 1.4 พันล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2555 ที่มียอดขายกว่า 500 ล้านบาท โดยสัดส่วนยอดขาย 78% มาจากต่างจังหวัด ส่วนที่เหลือมาจาก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล หากภายในสิ้นปีสามารถปิดยอดขายได้ตามเป้า ก็จะถือว่าเป็นบริษัทที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจรับสร้างบ้าน จากมูลค่าตลาดรวมธุรกิจรับสร้างบ้านเฉพาะ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล คาดการณ์ไว้ที่ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท

++ขยายสาขาเขตเศรษฐกิจชายแดน
สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทในครึ่งหลังปี 2556 บริษัทตั้งเป้าที่จะเปิดสาขาแฟรนไชส์เพิ่มอีก 4 แห่ง รวมเป็น 34 สาขา ได้แก่ ชุมพร ร้อยเอ็ด สงขลา และบุรีรัมย์ จากเป้าหมายทั้งปีเปิดไม่เกิน 9 สาขา เหตุที่ต้องลดการเปิดสาขาก็เนื่องมาจากต้องการเซตระบบภายในให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเปิดเออีซี ซึ่งในครึ่งปีหลังเตรียมเปิดเพิ่มที่กาญจนบุรี ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างเจรจา โดยตั้งเป้าเปิดให้ครบ 50 สาขาในปี 2558

ในอนาคตมีแผนที่จะขยายแฟรนไชส์ไปยังเมืองหน้าด่านที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อาทิ แม่สอด สะเดา และอรัญประเทศ ซึ่งที่ผ่านมามีลูกค้าสนใจเปิดที่แม่สอด และสะเดา โดยคาดว่าจะสามารถเปิดสาขาได้ในปี 2558

++สัมพันธภาพ & มาตรฐาน หัวใจแฟรนไชส์
การทำให้ธุรกิจรับสร้างบ้าน ภายใต้ระบบแฟรนไชส์ประสบความสำเร็จ หัวใจสำคัญคือเรื่องของสัมพันธภาพระหว่างผู้ร่วมธุรกิจและมาตรฐานด้านการบริการและการก่อสร้าง โดยที่ผ่านมาบริษัทใช้รักษาความสัมพันธ์ระหว่างกันโดยการไปเยี่ยมบริษัทแฟรนไชส์เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง พร้อมทั้งเชิญประชุมผู้จัดการสาขาไตรมาสละ 1 ครั้ง พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้และรับฟังปัญหาต่างๆของสาขา เพื่อสร้างมาตรฐานให้อยู่ในระดับเดียวกัน ในส่วนของงานบริการและการก่อสร้าง บริษัทจะส่งผู้ตรวจสอบเข้าไปประเมินผลงาน นำผลที่ได้มาสรุปเป็นคะแนน โดยสาขาที่ได้คะแนนสูงสุดจะได้รับเงินสด 1 แสนบาท สำหรับการก่อสร้างก็จะใช้ระบบ MLS ช่วยลดระยะเวลาการก่อสร้าง พร้อมทั้งยังได้มาตรฐานในระดับเดียวกัน

 

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,854 วันที่  20 - 22  มิถุนายน พ.ศ. 2556