ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
17 เม.ย.2560

THBA ชี้ตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัดขยายตัว 19% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขานรับประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่

Line
          THBA ประเมินตลาดบ้านสร้างเองไตรมาส 1/60 ขยายตัว 19% เเทียบกับไตรมาส 4/59 เผยกลุ่มรับสร้างบ้านตอดแชร์ 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น กทม.-ปริมณฑล 60% ตจว. 40% โดยแชร์ตลาดตจว.ขยายตัวต่อเนื่องรอบ 15 ปีที่ผ่านมา มองแนวโน้มการเมืองมีความชัดเจนเป็นปัจจัยบวก แนะผู้ประกอบการราคาไม่ใช่คำตอบเดียวที่ผู้บริโภคเลือก

          นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมคมไทยรับสร้างบ้าน (THBA) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดบ้านสร้างเองทั่วประเทศ ในช่วงไตรมาส1/60 ขยายตัวใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แต่เปรียบเทียบกับไตรมาส 4/59 ประเมินว่าเติบโต 18-19% ปัจจัยหลักมาจากการกระตุ้นตลาดและแข่งขันคึกคักของผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น 

          สำหรับตลาดบ้านสร้างเองทั่วประเทศปี 2560 คาดว่ามีมูลค่าตลาดรวม 8 หมื่นล้านบาท กลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านมีส่วนแบ่งตลาด 1.4 หมื่นล้านบาท ขยายตัวใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ 1.มูลตลาดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีสัดส่วน 55-60% มูลค่า 8 พันล้านบาท 2.มูลค่าตลาดในต่างจังหวัด 40-45% คิดเป็น 5.5-6 พันล้านบาท 


          หากเปรียบเทียบทั้ง 2 กลุ่มพบว่าตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดขยายตัวต่อเนื่องในระยะ 15 ปีที่ผ่านมา เหตุผลมีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ  ในต่างจังหวัดเข้ามาในธุรกิจรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้น รวมถึงการขยายสาขาของกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านชั้นนำ สามารถแชร์ส่วนแบ่งตลาดได้เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนการรับรู้และความเข้าใจของผู้บริโภคที่มีต่อธุรกิจรับสร้างบ้านดีขึ้นตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วง 10-15 ปีก่อนหน้านี้

          THBA ประเมินว่าตลาดรับสร้างบ้านไตรมาส 2/60 ยังคงแข่งขันรุนแรง กลยุทธ์หลักแบ่งได้ 3 ลักษณะ 1.กลยุทธ์ราคาต่ำ 2.กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และบริการที่แตกต่าง 3.กลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ประเมินว่าผู้ประกอบการ 90% ชูกลยุทธ์ราคาต่ำ อีก 10% เน้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง 

          "ตลาดรับสร้างบ้านมีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้ามาแข่งขันเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจอย่างอื่นอยู่ในท้องถิ่นมาก่อน แตกไลน์มาทำธุรกิจรับสร้างบ้าน เช่น กลุ่มผู้จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง สถาปนิกออกแบบ ผู้ประกอบการบ้านจัดสรร ผู้รับเหมาทั่วไป ฯลฯ ทั้งนี้ผู้ประกอบการมีการแข่งขันด้านราคา ผู้บริโภคต้องศึกษาวัสดุก่อสร้าง มาตรฐานการก่อสร้าง รายละเอียดบริการก่อนและหลังการขายอย่างรอบคอบ" 

          นายสิทธิพรกล่าวว่า แนวโน้มไตรมาส 2/60 ยอมรับว่ายังมีความกังวลอยู่บ้าง เพราะเป็นช่วงที่มีเทศกาลวันหยุดยาว ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวและการเมืองมีความชัดเจน ก็จะเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคและประชาชนมีความเชื่อมั่นตามมา พร้อมที่จะจับจ่ายใช้สอยและลงทุนเรื่องบ้านหรือที่อยู่อาศัยกันมากขึ้น ปัจจุบันราคาพืชผลทางการเกษตรที่เป็นพืชเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น เช่น ยางพารา ปาล์ม อ้อย กอปรกับเรามีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว และจะนำไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่ชัดเจน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีและเป็นปัจจัยบวกที่จะส่งผลต่อกำลังซื้อผู้บริโภคในช่วงไตรมาส 2 และปี 2560 นี้

          "ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่เป็นตัวจริง ควรเน้นวางกลยุทธ์แข่งขันให้สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ เพราะหากเลือกที่จะใช้ราคาต่ำแข่งขันไปตลอด สุดท้ายจะไม่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ก้าวทันเทคโนโลยี และตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคได้อย่างพึงพอใจ" นายสิทธิพรกล่าว

 
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
(10 เมษายน 2560)