พีดีเฮ้าส์ แปรนโยบาย ให้เป็นรูปธรรม
พีดีเฮ้าส์ แปรนโยบาย ให้เป็นรูปธรรม
สัปดาห์ที่แล้ว มีโอกาสเดินทางลงไปปฏิบัติหน้าที่ทางภาคใต้ เริ่มตั้งแต่ ไปร่วมแสดงความยินดีและเป็นประธานฯ เปิดสำนักงาน บริษัท แอล เอส โฮมบิลเดอร์ จำกัด หรือ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขาจังหวัดชุมพร ซึ่งบริหารงานโดย คุณวรุณธรณ์ ลิ้มสินสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการหนุ่ม ไฟแรงอีกท่านหนึ่ง ที่ตัดสินใจลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่ในชีวิตเพื่อก้าวสู่เส้นทางนักบริหารในธุรกิจรับสร้างบ้าน หลังจากทำงานสะสมประสบการณ์มาระยะหนึ่ง ซึ่งมาถึงวันนี้ มั่นใจว่า พร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนผ่านจากลูกจ้างมาสู่ความเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยมีคุณพ่อเป็นผู้คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
สำหรับผู้เขียนก็ต้องบอกว่า รู้สึกดีใจที่ได้เห็นคนรุ่นใหม่เก่งๆ สนใจ และจะเข้ามามีบทบาทในการที่จะร่วมกันพัฒนาและยกระดับธุรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและประชาชน อันจะนำไปสู่การขยายตัว และเติบโตอย่างเข้มแข็งของภาพรวมตลาดรับสร้างบ้าน โดยเฉพาะเป็นการขยายตัวของธุรกิจออกไปทั่วประเทศ อย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
หากท่านที่เคยติดตามอ่านบทความ หรือความเห็นของผู้เขียนมาบ้าง ก็จะทราบว่า ผู้เขียนย้ำมาตลอดกับประโยคที่ว่า “อย่างเป็นรูปธรรม” นั่นก็เพราะ ที่ผ่านมาเราเคยได้ยินผู้อยู่ในแวดวงธุรกิจรับสร้างบ้านหลายๆ ท่าน ท่องกันอยู่บ่อยๆ ว่า จะผลักดันให้ตลาดรวมรับสร้างบ้านเติบโต จากนั้นก็ประกาศตัวเลขมูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้านสูงขึ้นทุกปีๆ แต่ในทางปฏิบัติมักจะเห็นความร่วมไม้ร่วมมือ ก็เฉพาะชักภาพออกสื่อกันเท่านั้น เมื่อเสร็จแล้วก็แยกย้ายตัวใครตัวมัน หรือไม่ ก็คิดแค่เป็นหนึ่งในกิจกรรมการตลาดชั่วครั้งชั่วคราว เมื่อเผยแพร่ออกสื่อสู่สาธารณชนได้แล้ว ก็เป็นอันยุติโครงการทั้งๆ ที่ควรเป็นโครงการที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จึงจะบังเกิดเป็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน และเกิดประโยชน์ต่อภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
ผู้เขียนเองสวมหมวกใบหนี่งในฐานะ “นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน” และหมวกอีกใบหนึ่งในฐานะ “เจ้าของธุรกิจรับสร้างบ้าน”ที่ผ่านมา มีความพยายามจะผนึกรวมบทบาททั้งสองส่วน ให้สามารถขับเคลื่อนภารกิจด้านการพัฒนาบุคลากร ผู้ประกอบการ และตลาดรวมรับสร้างบ้านให้มีความเป็นมืออาชีพ พยายามหาแนวร่วมใหม่ๆ ที่มีแนวคิดและอุดมการณ์เดียวกันมาช่วยกัน เท่าที่จะสามารถกระทำได้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควร เพราะผู้ร่วมวงการธุรกิจเดียวกันรายเดิมๆ คิด และเห็นคนละทาง (ต่างความเห็น ก็ต่างฝ่ายต่างทำ) ดังนั้น จึงต้องขับเคลื่อนเดินหน้าอย่างโดดเดี่ยวมานานเกือบ 4 ปีแล้ว หากจะชี้ชัดให้เห็นเป็นรูปธรรม ก็มีอย่างเช่น การอบรมบุคลากรที่เข้ามาสู่ธุรกิจรับสร้างบ้านในระดับปฏิบัติการจำนวน 21 รุ่น, การสร้างผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ธุรกิจรับสร้างบ้าน และกระจายออกสู่ภูมิภาค หรือต่างจังหวัดมากกว่า 30 ราย ซึ่งมีทั้ง ผู้เคยเป็นลูกจ้างอยู่ในธุรกิจนี้มาก่อน และนักลงทุน หรือนักบริหารจากสาขาอาชีพอื่นฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียน และแนวร่วมใหม่ๆ ก็ไม่ลดความพยายาม ที่จะร่วมมือกันผลักดันแนวคิดและนโยบายให้แปรเป็นรูปธรรมต่อไป และมั่นใจว่า ก่อนประเทศไทยเปิดสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคม จะมีเครือข่ายที่เข้มแข็งและพร้อมจะ รุก-รับ คู่แข่งทั้งไทย-เทศ อย่างไม่เสียเปรียบ เพราะด้วยการผลักดันนโยบายต่างๆ ของสมาคมฯ สู่ การปฏิบัติจริงอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ในระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมานั่นเอง
ที่มา : เว็บไซด์ สยามรัฐ วันที่ 27 มกราคม 2557
http://www.siamrath.co.th/web/