ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
28 มิ.ย.2560

ธอส.ทุ่ม 4 หมื่นล้าน ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ

Line

          ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นอีกธนาคารหนึ่งที่ยังคงปล่อยแคมเปญปล่อยกู้บ้านออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในเดือน ส.ค.นี้ ได้เตรียมเงินไว้ถึง 4 หมื่นล้านบาท เพื่อเปิดตัวโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำขึ้นมาอีกโดยเฉพาะ

          ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า โครงการเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษตัวใหม่นี้ ธอส.ต้องการปล่อยกู้ให้กับประชาชนทั่วไป แบบไม่จำกัดวงเงินปล่อยกู้ต่อราย โดยจะพิจารณาบนพื้นฐานที่มาของรายได้ของผู้กู้เป็นหลัก และผลจากการคิดดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี แบบมีส่วนลดในช่วง 3 ปีแรก ทำให้ค่าเฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปี น่าจะอยู่ที่ระดับไม่เกิน 3% ซึ่งจะ ช่วยผ่อนเกณฑ์การจ่ายค่างวด ส่งผลให้การพิจารณาขอสินเชื่อได้วงเงินที่มากขึ้น

          สำหรับวัตถุประสงค์ของการออกสินเชื่อครั้งนี้ นอกจากเพิ่มโอกาสให้กับประชาชนมีบ้านเป็นของตัวเอง แล้ว ยังเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้มีความคึกคักมากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา ธอส.ได้ออกโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยมาหลายโครงการ

          เช่น โครงการสินเชื่อบ้าน FOR HOME วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1-2 เท่ากับ 2.90% ปีที่ 3 ดอกเบี้ย 4.50% เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปี อยู่ที่ 3.43% วงเงินให้กู้ต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 3 ล้านบาท เริ่มเปิดให้กู้ตั้งแต่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา และคาดว่าจะปล่อยกู้หมดทั้งวงเงินภายในเดือนเดียว หรือภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้

          "เป้าหมายปล่อยกู้ครั้งนี้ ธอส. ต้องการทำหน้าที่เป็นผู้กระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่สอง จึงเปิดให้คนที่ต้องการกู้ซื้อบ้านทำได้แบบไม่จำกัดวงเงิน ถ้ามีความพร้อม รวมถึงรายที่ถูกแบงก์พาณิชย์ปฏิเสธการปล่อยกู้ โดยธนาคารยังคงดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยลูกค้าในกลุ่มทั่วไปบ้าง เพราะ ธอส.ได้ช่วยกลุ่มผู้มีรายได้น้อยมาหลายโครงการแล้ว" ฉัตรชัย กล่าว

          อย่างไรก็ตาม เป้าหมายปล่อยสินเชื่อปีนี้อยู่ที่ 1.78 แสนล้านบาท โครงการที่จะออกมาใหม่ เป็นโครงการดอกเบี้ยต่ำ มีวงเงิน 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการธนาคารเห็นชอบแล้วคาดว่าจะเริ่มโครงการได้เดือน ส.ค.นี้ ภาพรวมโครงการนี้อาจกระทบต่อรายได้ของธนาคาร เพราะเป็น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ แต่ธนาคารจะไม่เสนอขอกระทรวงให้ชดเชยให้โดยจะขอใช้วิธีการปรับลดเป้าหมายในการประเมิน หรือเคพีไอ ของธนาคารลงบางตัวเท่านั้น


ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
(วันที่ 28 มิถุนายน 2560)