21 ส.ค.2560
กรกฎาคม 2560
กิจกรรมและข่าวประชาสัมพันธ์ / เก็บมาเล่า

ครึ่งแรกปี 2560 ผ่านพ้นไปแล้ว หากมองย้อนสถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้าน ในช่วงสามเดือนแรกกับสามเดือนหลัง พบว่าแทบจะเป็นหนังคนละม้วน นั่นเพราะช่วงต้นและกลางไตรมาสสอง กำลังซื้อผู้บริโภคแผ่วลงค่อนข้างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรก ยังดีที่ว่าท้ายๆ ไตรมาสสองกำลังซื้อเริ่มกลับมาดีขึ้นบ้าง และยังส่งสัญญาณดีต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน แต่ครั้นเมื่อลองส่องกล้องสำรวจความเคลื่อนไหว ของบรรดาผู้ประกอบการและปัจจัยต่างๆ กลับไม่พบว่ามีปัจจัยบวกใดๆ ที่มาสนับสนุนให้ตลาดรับสร้างบ้านขยายตัว นอกเสียจากการปรับตัวของบรรดาผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่ที่ต่างต้องดิ้นรน เพื่อเอาตัวรอดกับสถานการณ์กำลังซื้อผู้บริโภคถดถอยมานานกว่า 2-3 ปี และทำให้ตลาดรับสร้างบ้าน ณ เวลานี้กลายเป็นสมรภูมิรบด้านราคากันดุเดือดที่สุดในรอบ 10 ปี
อย่างไรก็ดี แม้จะเกิดสงครามราคาดุเดือดเพียงใดก็ตาม แต่สิ่งที่สะท้อนให้เห็นชัดเจนประการหนึ่งก็คือ “ตลาดบ้านสร้างเอง” ชัดเจนว่าเป็นเรียลดีมานด์ที่เกิดจากความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งมีทั้งประเภทใช้ “เงินออมหรือเงินสด” และ “สินเชื่อหรือเงินกู้ธนาคาร” เพื่อชำระเป็นค่าก่อสร้างบ้านหลังใหม่ โดยเฉพาะผู้บริโภคกลุ่มที่ใช้สินเชื่อธนาคารที่ความต้องการมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ชะลอตัวต่อเนื่องมานาน ดังนั้นหากสถาบันการเงินหรือธนาคารผู้ให้บริการสินเชื่อ หันมาปล่อยสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้านให้แก่ผู้บริโภคและประชาชนมากขึ้น เชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนให้ตลาดรับสร้างบ้านขยับเติบโตได้ในครึ่งปีหลัง (ก็ได้แต่หวังว่าเสียงกระซิบเบาๆ นี้คงจะเข้าหูผู้บริหารสถาบันการเงินบ้างนะครับ)

โดยเฉพาะผู้บริโภคหลายๆ รายที่เลือกเปรียบเทียบราคาต่อตารางเมตร แล้วตัดสินว่าผู้ประกอบการรายใดรับสร้างบ้านราคาถูก-แพง ขอยืนยันว่าวิธีนี้ไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกต้องแน่นอน และด้วยวิธีเปรียบเทียบเช่นนี้ทำให้ผู้ประกอบการหัวใส หันมาเอาใจด้วยการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยที่ต้นทุนต่ำ เช่น พื้นที่ทางเดินข้างบ้าน ฯลฯ เพื่อให้ค่าเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำลง แต่ข้อเท็จจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ ขอย้ำว่า ศึกษารายละเอียดและเปรียบเทียบคุณภาพกับราคาที่ต้องจ่าย ก่อนตัดสินใจคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดครับ
นายสิทธิพร สุวรรณสุต
ซีอีโอ พีดีเฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล