ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
10 ก.พ.2557

CBRE เผยดีมานด์ที่ดินซีบีดีล้น ระบุ 12 ปี ทำเลสุขุมวิทราคาพุ่ง 480%

Line

CBRE เผยดีมานด์ที่ดินซีบีดีล้น ระบุ 12 ปี ทำเลสุขุมวิทราคาพุ่ง 480%


CBRE ระบุความต้องการที่ดินย่านซีบีดียังล้น แม้การเมืองระอุ เผยผลสำรวจราคาที่ดินรอบ 12 ปี นับจากปี 45 ถึงปัจจุบัน ย่านสุขุมวิทปรับขึ้นสูงสุด 480% อยู่ที่ 1.5 ล้านบาท/ตร.ว. รองลงมาสีลม/สาทร 1.4 ล้านบาท/ตร.ว.ขึ้น 400% ส่วนที่ดินแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ราคาปรับขึ้น 30-50% ต่อปี
      
       นางกุลวดี สว่างศรี หัวหน้าแผนกการลงทุนและที่ดิน บริษัท ซีบี ริดชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด หรือซีบีอาร์อี เปิดเผยว่า แม้ในปัจจุบันจะมีความวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้น แต่ความต้องการที่ดินเพื่อการลงทุนในย่านใจกลางธุรกิจ หรือซีบีดีของกรุงเทพมหานคร ยังคงมีอยู่มาก ซึ่งซีบีอาร์อีเห็นว่า ปัญหาทางการเมืองในขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อราคาที่ดินในย่านดังกล่าว เพราะที่ดินแบบมีกรรมสิทธิ์สมบูรณ์ หรือฟรีโฮลด์ในทำเลใจกลางกรุงเทพฯ นั้นมีจำนวนจำกัด
      
       ในด้านซัปพลาย มีเจ้าของที่ดินเพียงไม่กี่รายที่ต้องการจะขาย ทั้งนี้ ที่ดินโดยส่วนใหญ่ถือครองโดยเจ้าของที่มีฐานะซึ่งได้รับที่ดินเป็นมรดกตกทอดมาจากครอบครัว และค่าใช้จ่ายในการถือครองที่ดินก็อยู่ในระดับที่ต่ำมาก เพราะที่ดินส่วนใหญ่เจ้าของมิได้มีภาระในการชำระหนี้ ตามความเป็นจริงแล้วแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีค่าใช้จ่าย หรือแม้แต่ภาษีในการถือครองที่ดิน และไม่มีภาษีมรดก ซึ่งหมายความว่า เจ้าของที่ดินโดยส่วนใหญ่แทบจะมิได้มีความจำเป็นที่จะต้องขายที่ดิน ตามปกติแล้วธุรกรรมการซื้อขายจะเกิดขึ้นเมื่อเจ้าของที่ดินได้รับข้อเสนอด้านราคาในระดับที่ตนพึงพอใจ
      
       ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินได้ปรับตัวสูงขึ้นมาโดยตลอด โดยมีแรงขับเคลื่อนมาจากความต้องการของผู้ประกอบการที่ซื้อที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ทั้งนี้ เพราะผู้ประกอบการในตลาดคอนโดมิเนียมสามารถเสนอซื้อได้ในระดับราคาที่สูงกว่าผู้ประกอบการในตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น อันเป็นผลมาจากสัดส่วนผลกำไรจากการพัฒนาคอนโดมิเนียมอยู่ในระดับที่สูง และได้รับผลตอบแทนในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น
      
       นางกุลวดี กล่าวต่อว่า จากอดีตที่ผ่านมาการลงทุนในที่ดินย่านซีบีดีของกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่สูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ หรือคิดเป็นเฉลี่ยราว 15% ต่อปี สำหรับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลตอบแทนในระดับที่น่าสนใจมากพอที่ทำให้ครอบครัวผู้มีฐานะลงทุนซื้อที่ดิน และพัฒนาโครงการเพื่อก่อให้เกิดรายได้แม้ว่าจะได้รับผลตอบแทนในช่วงแรกๆ ในระดับที่ต่ำก็ตาม เพราะให้ความสนใจในมูลค่าของที่ดินที่เพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปมากกว่า
      
       ทั้งนี้ ราคาที่ดินที่มีรูปแปลงเหมาะสมในการพัฒนาโครงการที่ตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิทได้ปรับตัวสูงขึ้นมาถึง 480% นับจากปี 2545 มาอยู่ที่ 1.5 ล้านบาทต่อตารางวา ซึ่งเป็นย่านที่ราคาที่ดินปรับเพิ่มในอัตราที่สูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับทำเลชั้นดีอื่นๆ ในกรุงเทพฯ ตามมาด้วย ย่านสีลม/สาทร ซึ่งราคาเพิ่มสูงขึ้นราว 400% มาอยู่ที่ 1.4 ล้านบาทต่อตารางวา และย่านเพลินจิต/ลุมพินี ราคาเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 320% มาอยู่ที่ 1.5 ล้านบาทต่อตารางวา
      
       นอกจากนี้ ราคาที่ดินในย่านรอบนอกกรุงเทพฯ ได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมากในทำเลที่การก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนสายใหม่ๆ มีความคืบหน้า ซึ่งมีส่วนกระตุ้นให้มีความต้องการที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากยิ่งขึ้น เช่น ย่านรัตนาธิเบศร์ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ราคาที่ดินในย่านนี้ได้พุ่งสูงขึ้น 30-50% ต่อปี นับตั้งแต่เริ่มการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซีบีอาร์อี คาดการณ์ว่า การขยายตัวของระบบขนส่งมวลชนจะส่งผลต่อราคาที่ดินในทำเลอื่นๆ ของย่านรอบนอกกรุงเทพฯ ในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน
      
       อย่างไรก็ตาม ซีบีอาร์อีเชื่อว่า ย่านซีบีดีจะยังคงเป็นทำเลที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดอยู่ต่อไปสำหรับผู้ประกอบการในการพัฒนาโครงการชั้นดี ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน โรงแรม ศูนย์การค้า และที่พักอาศัย แม้ที่ดินที่เหมาะสมกับการพัฒนาในทำเลนี้จะมีปริมาณจำกัดก็ตาม
      
       “ความต้องการที่ดินในทำเลใจกลางซีบีดีของกรุงเทพฯ ยังมีอยู่มาก แต่ผู้ขายในปัจจุบันมักจะบอกขายในลักษณะที่เป็นราคาขายในอนาคต เพราะไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องรีบเร่งขายที่ดิน เชื่อว่าตลาดซื้อขายที่ดินจะยังคงเป็นตลาดที่มีความเคลื่อนไหวตลอดในปีนี้หากผู้ขายยินดีที่จะขายตามราคาตลาดในปัจจุบัน” นางกุลวดีกล่าว

 

ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 กุมภาพันธ์ 2557
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000015887