ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
25 ก.พ.2557

'เชียงของ' ขึ้นชั้นเมืองค้าชายแดนแห่งใหม่

Line

แม่โจ้ โพลล์ ชี้ประชาชนอำเภอเชียงของ  83.16% เชื่อการเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4  จะทำให้เชียงของเป็นแหล่งการค้าชายแดนแห่งใหม่ได้ เชื่อเป็นจุดที่สามารถเชื่อมไปได้ทั้งลาวและจีน 54.46% แนะให้กำหนดการพัฒนาที่หลากหลายด้าน ทั้งการค้า การลงทุน และท่องเที่ยว
     ดร.วราภรณ์ งามสมสุข  รองผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า หลังเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 (ห้วยทราย-เชียงของ)อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2556ที่ผ่านมา ซึ่งมีการประเมินกันว่า ในปี 2560 หลังเปิดใช้สะพานดังกล่าวและเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี การค้าด้านอำเภอเชียงของจะเติบโตขึ้นกว่าร้อยละ 10 หรือมากกว่า 17,000 ล้านบาทต่อปี และเนื่องจากสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 4  ได้เปิดให้มีการใช้มาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการตรวจสอบถึงประโยชน์และผลกระทบที่เกิดจากการเปิดสะพานดังกล่าว ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร (แม่โจ้โพลล์) จึงได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนในอำเภอเชียงของ ในหัวข้อ "เชียงของ...ศักยภาพและความพร้อมต่อการเป็นแหล่งการค้าชายแดนแห่งใหม่" เพื่อให้ทราบถึงความคิดเห็นของประชาชนชาวอำเภอเชียงของต่อผลที่ได้รับจากการพัฒนา จำนวน 386 ราย ระหว่างวันที่  25 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2557 สรุปผลได้ดังนี้  
    จากการสอบถามด้านความพร้อมของอำเภอเชียงของต่อการเป็นแหล่งการค้าชายแดน พบว่า ส่วนใหญ่ 83.94% เห็นว่ามีความพร้อม โดยให้เหตุผลว่าเป็นเมืองหน้าด่านที่สามารถเชื่อมต่อกับประเทศสปป.ลาวและประเทศจีนได้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น การขยายและปรับปรุงถนนให้สามารถเดินทางได้สะดวกมากขึ้น มีเพียง 16.06% ที่เห็นว่ายังไม่มีความพร้อม โดยให้เหตุผลว่าระบบการบริหารจัดการเพื่อรองรับด้านการค้าการลงทุนยังไม่มีความพร้อม เช่น ตลาดกลางสินค้า ระบบภาษีและศุลกากร
    สำหรับความคิดเห็นด้านการได้รับประโยชน์ของประชาชนในอำเภอเชียงของจากการจะเป็นแหล่งการค้าชายแดน พบว่า 83.16% เห็นว่าจะได้รับประโยชน์ โดยให้เหตุผลว่า เกิดการลงทุนในอำเภอเชียงของมาก ทั้งด้านอสังหาริมทรัพย์ การค้า ทำให้เศรษฐกิจของอำเภอเชียงของดีขึ้น มีเพียง 5.70% ที่เห็นว่าจะไม่ได้รับประโยชน์ โดยให้เหตุผลว่า ทิศทางการพัฒนายังไม่ถูกต้อง ซึ่งทำให้อำเภอเชียงของกลายเป็นแหล่งแสวงหาผลประโยชน์ของนายทุนไป และ 11.14% บอกว่าไม่ทราบ
    เมื่อสอบถามว่าการเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 ที่ผ่านมาจะทำให้อำเภอเชียงของเป็นแหล่งการค้าชายแดนแห่งใหม่ได้หรือไม่นั้น พบว่า ส่วนใหญ่ 83.16% เห็นว่าได้ โดยให้เหตุผลว่า เป็นจุดที่สามารถเชื่อมโยงกับหลายประเทศ เช่น ลาวและจีน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้าเกิดการค้ากับต่างประเทศมากยิ่งขึ้น มีเพียง 4.92% ที่เห็นว่าไม่ได้ ให้เหตุผลว่าการพัฒนาขาดความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและประเทศจีน และไม่ทราบ 11.92% และเมื่อสอบถามว่าอำเภอเชียงของจะมีโอกาสในการพัฒนาเป็นแหล่งค้าชายแดนในด้านใดบ้างนั้น พบว่า 77.46% เห็นว่าจะเป็นจุดแลกเปลี่ยนสินค้าที่ระหว่างประเทศที่สำคัญ และ67.10% จะเกิดการลงทุนและพัฒนาด้านการท่องเที่ยว มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ 58.83% เกิดเป็นศูนย์รวมด้านการค้า การลงทุนและมีการจ้างงานในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น และจำนวน 40.93% เกิดการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ และอื่นๆ อีก 2.78% 
    ส่วนข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาด้านอำเภอเชียงของนั้น 54.46% แนะให้กำหนดการพัฒนาที่หลากหลายด้าน เช่น ด้านสาธารณูปโภค การค้าการลงทุนและการพัฒนาด้านแหล่งท่องเที่ยว โดยจำนวน 25.74% แนะภาครัฐควรมีการวางแผนพัฒนาการบริหารจัดการในระยะยาว เช่น อำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน เช่น ลดภาษีการค้าระหว่างประเทศ การประชาสัมพันธ์ด้านข้อมูลข่าวสารต่างๆ ให้แก่นักท่องเที่ยว และ9.90% ควรให้การสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจในท้องถิ่นก่อน ขณะที่ 5.94% แนะควรเร่งให้ความรู้ความเข้าใจแก่เด็กเยาวชนและประชาชนในพื้นที่ต่อการทิศทางการพัฒนาและการเตรียมความพร้อมต่างๆ และ 3.96% แนะควรเร่งพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อการพัฒนาที่ควบคู่กันไป
    จากผลการสำรวจทำให้ทราบถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับความพร้อม ตลอดจนประโยชน์ที่ประชาชนชาวเชียงของจะได้รับ แต่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านพื้นที่ วิถีชีวิต และแนวทางนโยบายการพัฒนา ซึ่งจะมีทั้งผลดีและผลเสียนั้น ถือเป็นความท้าทายของหน่วยงานภาครัฐและประชาชนในพื้นที่ว่าจะมีการเตรียมพร้อมและรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอย่างไร ทั้งด้านการบริหารจัดการการค้าการลงทุน และการจะเป็นประตูเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 ตามยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาค ภารกิจต่างๆ เหล่านี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนชาวอำเภอเชียงของต้องร่วมกันวางแผนและหาแนวทางการพัฒนาให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง เพื่อให้การพัฒนาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาวอำเภอเชียงของอย่างแท้จริง

 

ที่มา : เว็บไซด์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 23 - 26   กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
http://www.thannews.th.com