ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
22 ม.ค.2561

สคบ.ตื่นคุมเข้มอสังหาฯหลังโดนร้องหนักสุด....

Line

             สคบ.เตรียมออก พ.ร.บ.ควบคุมอสังหาริมทรัพย์ด้านจรรยาบรรณผู้ประกอบการ หลังพบยอดร้องเรียนพุ่งต่อเนื่อง

             นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า จากปัญหาการร้องเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัยในปี 2560 ที่ผ่านมา ที่มีสูงถึง 826 เรื่อง ซึ่งถือเป็นการร้องเรียนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากกลุ่มสินค้าและบริการที่มีมากถึง 974 เรื่อง ทำให้สคบ.มีแนวคิดที่จะออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมอสังหาริมทรัพย์ด้านจรรยาบรรณผู้ประกอบการ เพื่อหวังจะควบคุมด้านจริยธรรมในการทำธุรกิจมากขึ้น

             ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2553 ธุรกิจอสังหาฯ ถูกร้องเรียนจนเกิดเป็นคดีความ 815 คดี แบ่งเป็นคดีมหาชน 211 คดี และสามารถดำเนินการบังคับคดีผู้กระทำความผิดได้เพียง 6 ราย อย่างไรก็ดี พ.ร.บ.ควบคุมอสังหาริมทรัพย์ด้านจรรยาบรรณผู้ประกอบการดังกล่าวยังเป็นเพียงแนวคิดของ สคบ. กำลังเร่งดำเนินการหาข้อสรุปใน พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการฯ หากผ่านที่ประชุมก็จะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อบังคับใช้ต่อไป

             "การทำ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว สคบ.จะเอาแนวทาง ISO20006 มาเป็นกรอบในการกำหนดคุณสมบัติของผู้ประกอบการ ซึ่งหากบริษัทใดทำความผิดก็จะมีการกำหนดกรอบในการลงโทษเป็นขั้นตอน เบื้องต้นก็อาจจะมีการประจาน ส่งให้หน่วยงานที่ดูแลพิจารณา และส่งให้สถาบันการเงินรับรู้ว่าบริษัทนี้กระทำความผิด เพื่อให้สถาบันการเงินพิจารณาในเรื่องของการปล่อยกู้" นายพิฆเนศ กล่าว

             นายพิฆเนศ กล่าวอีกว่า การออก พ.ร.บ.ควบคุมอสังหาริมทรัพย์ด้านจรรยาบรรณผู้ประกอบการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการร้องเรียนด้านอสังหาฯ จากผู้บริโภคเพิ่มขึ้น และสร้างมาตรฐานผู้ประกอบการด้านบริการ คุณภาพสินค้า นอกจากนี้ ยังถือเป็นการช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการซื้อที่อยู่อาศัย

             อย่างไรก็ดี ทาง สคบ.กำลังเร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จทันประกาศใช้ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเหลือระยะเวลาเตรียมการ 1 ปี สำหรับภาพรวมการร้องเรียนปี 2560 ราว 8,449 ราย ซึ่งธุรกิจอสังหาฯ ได้รับการร้องเรียน 826 ราย หรือสัดส่วน 27.4% เมื่อเทียบกับเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา มีการร้องเรียน 902 ราย หรือ 39% ของ เรื่องทั้งหมด

ที่มา : www.posttoday.com
(วันที่ 22 มกราคม 2560)