ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
04 พ.ค.2561

อสังหา"มีนบุรี"รุ่ง! ได้แรงส่งรถไฟสีส้ม-ชมพู

Line

 

          จากการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าส่งผลให้ย่าน “มีนบุรี” ช่วงบางชัน-คันนายาว ได้รับอานิสงส์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานีมีนบุรี

          จากแผนการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ได้ส่งผลให้ย่าน “มีนบุรี” ช่วงบางชัน-คันนายาว ได้รับอานิสงส์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานีมีนบุรี ซึ่งเป็นจุดตัดของรถไฟฟ้าทั้งสองสาย พื้นที่ดังกล่าวถูกกำหนดให้เป็นศูนย์ชุมชนชานเมืองในอนาคต ซึ่งจะเป็นอีกทำเลสำหรับการอยู่อาศัยใหม่ของคนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

          อัญชนา วัลลิภากร ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ย่านมีนบุรี ช่วงบางชัน-คันนายาว ถือเป็นพื้นที่น่าจับตามองอีกแห่งหลังจากที่รัฐบาลได้อนุมัติการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 2 สาย โดยสายสีชมพูกำหนดเปิดให้บริการในปี 2564 และสายสีส้มกำหนดเปิดให้บริการในปี 2567 ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงการเดินทางจากกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกเข้าสู่เมืองได้สะดวกยิ่งขึ้น และเป็นปัจจัยบวกต่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยตามมา

          ทั้งนี้ จากการสำรวจแนวเส้นถนนตั้งแต่ทางพิเศษกาญจนาภิเษกตัดกับถนนรามคำแหงและถนนหทัยราษฎร์ ปัจจุบันพบว่ามีที่อยู่อาศัยในพื้นที่ซึ่งเป็นโครงการแนวราบ ได้แก่ โครงการบ้านและทาวน์โฮมจำนวนทั้งสิ้น 127 โครงการ และเป็นโครงการที่ยังเปิดขายจำนวน 40 โครงการ

          สำหรับแนวโน้มราคาที่อยู่อาศัยนั้น พบว่าพื้นที่ที่ราคาสูงสุด 3 อันดับแรกล้วนเป็นบริเวณที่ติดกับทางพิเศษกาญจนาภิเษกทั้งสิ้น สำหรับพื้นที่หมายเลข 1 ติดกับถนนรามอินทราฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ชั้นใน ทำให้มีราคากลางของโครงการที่อยู่อาศัยสูงถึง 5.84 ล้านบาท และมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.9 หมื่นบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) สูงกว่าโครงการในพื้นที่หมายเลข 6 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนอยู่มาก โดยมีราคากลางสูงกว่าถึง 1.9 เท่า และราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงกว่าถึง 2.3 เท่า

          สำหรับพื้นที่หมายเลข 2 ที่มีทั้งสถานบริการสุขภาพ อย่าง โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี อีกทั้งเดินทางสะดวกด้วยถนนรามอินทรา ทำให้ราคากลางที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 4.77 ล้านบาท และราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.68 หมื่นบาท/ตร.ม.

          ส่วนโครงการในพื้นที่หมายเลข 3 ราคากลางที่อยู่อาศัยอยู่ที่ราว 4.41 ล้านบาท และราคาเฉลี่ยที่สูงกว่าพื้นที่หมายเลข 2 เล็กน้อยอยู่ที่ 2.3 หมื่นบาท/ตร.ม.

          อัญชนา กล่าวว่า ภาพรวมการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในพื้นที่ย่านมีนบุรี ช่วงบางชัน-คันนายาว มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นตามแนวถนนสายหลักในพื้นที่ เนื่องจากปัจจุบันในพื้นที่ยังคงไม่มีระบบขนส่งมวลชนทางราง ทำให้คนในพื้นที่ต้องพึ่งพาการเดินทางทางถนนเป็นหลัก แต่ในอนาคตเมื่อมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าแล้วเสร็จ จะมีโครงการที่เกิดขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก

          ทั้งนี้ จากข้อมูลราคาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ จะพบว่าค่ากลางราคาขายของโครงการในพื้นที่นี้มีแนวโน้มการเติบโตเฉลี่ย 0.54% ต่อปี เนื่องจากมีโครงการใหม่ในพื้นที่ที่มีราคากลางต่ำกว่าราคาเฉลี่ยเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น

          อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโครงการใหม่ที่เกิดขึ้นจะทำให้ราคากลางของโครงการบ้านและทาวน์โฮมมีการแปรผันแต่ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ราว 2.4 หมื่นบาท/ตร.ม. และมีการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 1.48% ต่อปี

ที่มา : posttoday.com
(วันที่ 4 พ.ค.61)