ผู้คนที่อาศัยอยู่ในแต่ละท้องที่ต่างก็มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ทั้งในด้านวิถีชีวิต อาชีพการงาน ฯลฯ ความต้องการสิ่งอุปโภคบริโภคกับปัจจัยหลักในการดำรงชีพก็แตกต่างกันด้วย ที่อยู่อาศัยก็เช่นเดียวกัน พิษณุโลกเป็นจังหวัดที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับพืชผลทางการเกษตรเป็นหลัก ผู้คนที่นี่ส่วนมากประกอบอาชีพเกษตรกรรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องเช่น การแปรรูปสินค้าเกษตร การส่งออก การผลิตและจำหน่ายปุ๋ย เคมีเกษตร และเครื่องมือทำการเกษตร อีกกลุ่มที่ถือเป็นอาชีพหลักของที่นี่เช่นกันก็คือรับราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ

 

          “ลูกค้าที่นี่ส่วนใหญ่จะใช้เงินสด เงินกู้จะน้อยมาก เพราะถ้าพูดถึงตลาดที่นี่ กลุ่มข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ พวกนี้เขาจะค่อนข้างรู้จักผู้รับเหมาในพื้นที่อยู่แล้ว โดยเฉพาะรายที่ทำมานาน โครงการงบ 2-3 ล้านบาท ถ้าเขาไปทำกับผู้รับเหมาเขาจะค่อนข้างได้ขนาดบ้านตามที่เขาต้องการ โดยที่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องวัสดุหรือการรับประกัน กลุ่มนี้จะเป็นลูกค้าที่ใช้เงินกู้ เวลาที่เราไปเสนอบ้านขนาดพื้นที่เดียวกันราคามันขยับไปจากผู้รับเหมาค่อนข้างเยอะ บางรายเขาเอื้อมไม่ถึง เขาก็อยากสร้างกับเราแต่เขาไม่สามารถหาคนมากู้ร่วมเพื่อเพิ่มงบได้ ส่วนกลุ่มที่ใช้เงินสดก็จะเป็นนักธุรกิจ หรือบางทีอาจจะมีอาชีพที่รายได้สูงอย่างคุณหมอ โครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นนักธุรกิจหมดเลย ทำฟาร์มปลา ทำส่งออก เจ้าของรีสอร์ต เจ้าของโรงสี”

 

          นี่คือข้อมูลจาก คุณสราวุติ เกิดแพ หรือ คุณแป๋ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท พิษณุโลก รับสร้างบ้าน จำกัด หรือ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ พิษณุโลก ด้วยความที่พีดีเฮ้าส์ถือเป็นผู้ให้บริการสร้างบ้านที่แตกต่างจากผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อยอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการที่ครบวงจรตั้งแต่ให้คำปรึกษา ติดต่อสินเชื่อ ติดต่อหน่วยงานราชการ ไปจนถึงบริการหลังการขาย การรับประกันโครงสร้างและการรับประกันทั่วไป ทั้งยังใช้วัสดุตามที่กำหนดมาตรฐานไว้อย่างชัดเจน จึงเลี่ยงไม่ได้ที่เมื่อเปรียบเทียบราคากับผู้รับเหมารายย่อยแล้วจะสูงกว่า แต่ในเมื่อจังหวัดพิษณุโลกไม่มีบริษัทรับสร้างบ้านในระดับเดียวกันเป็นคู่แข่งเพื่อเปรียบเทียบ บางครั้งการจะทำให้ผู้บริโภคที่มีงบประมาณจำกัดตัดสินใจเลือกราคาที่สูงกว่าเช่นนี้ก็เป็นสิ่งที่ยากอยู่ไม่น้อย แต่คุณแป๋งบอกกับเราอีกว่าทางพีดีเฮ้าส์เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อจะให้คนพิษณุโลกได้เข้าถึงบริการสร้างบ้านที่ดีและมีมาตรฐานในวงกว้างขึ้น และเพื่อพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจให้กับพีดีเฮ้าส์ พิษณุโลกเองด้วย

 

          “แบบบ้านใหม่ที่ทางพีดีเฮ้าส์เพิ่งออกมาหลายแบบอยู่ในงบประมาณที่ใกล้เคียงกับกลุ่มลูกค้าที่เรามีคือ ประมาณ 2-4 ล้านบาท  ซึ่งถือว่าลูกค้าให้การตอบรับดี เพราะแบบใหม่ชุดนี้ค่อนข้างจะเป็นสไตล์โมเดิร์น ทำให้ลูกค้าสามารถจับต้องบ้านสไตล์โมเดิร์นด้วยราคาที่ไม่แพง เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น เพราะว่าบางทีลูกค้าเห็นแบบบ้านเราแล้วชอบ แต่เขาสู้ราคาไม่ไหว เดิมเราก็มีแบบบ้านราคา1.5-3 ล้านบาท อยู่แล้วประมาณ 20 แบบ ยิ่งมีแบบใหม่ที่หน้าตาทันสมัยเข้ามาเพิ่มก็ยิ่งช่วยดึงความสนใจของลูกค้า เพราะลูกค้ากลุ่ม 5-10 ล้านบาท เรามีแบบให้เลือกเยอะอยู่แล้ว ซึ่งที่จริงกลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มลูกค้าของเรามาตลอด แต่ตลาด 2-4 ล้านบาท เราเจาะยากมาก เราเลยอยากจะลงมาเป็นผู้เล่นในตลาดนี้เพราะเป็นตลาดที่มีความต้องการอยู่เยอะ โดยการเอาแบบบ้านใหม่ ๆ วัสดุใหม่ ๆ หรือโปรโมชันใหม่ ๆ เข้าไปเสนอ แล้วภายใน 3-5 ปีถ้าเศรษฐกิจดีก็คิดว่ายอดขายของสาขาพิษณุโลกน่าจะดีขึ้น ตั้งเป้าไว้สัก 50 ล้านบาทต่อปี”

 

          การทำธุรกิจกับการปรับตัวเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่คู่กัน ธุรกิจที่ไม่มีการปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคมหรือสิ่งแวดล้อมนับว่ายากที่จะอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน แต่ไม่ว่าจะปรับตัวอย่างไรสิ่งที่ต้องคงไว้เสมอก็คือความมีมาตรฐานของ คุณภาพ ที่มอบให้กับลูกค้าเพื่อแลกกับเงินที่ลูกค้าจ่ายกลับมานั่นเอง