นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากความชัดเจนโครงการลงทุนของภาคเอกชนและภาครัฐ ทำให้คาดการณ์ว่าในช่วง 3 ปีจากนี้ ทั้งราคาที่ดินและที่อยู่อาศัยย่านบางนา-ตราด จะมีการปรับราคาขึ้นปีละ 7-10%

             ทั้งนี้ เป็นผลมาจากโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นโครงการแบงค็อกมอลล์ โครงการเมกาซิตี้บางนา มิกซ์ยูสเดอะฟอเรสเทียส์ เฉพาะแค่ 3 โครงการนี้ก็มีมูลค่าลงทุนรวมกว่า 1.77 แสนล้านบาท

             นอกจากนี้ ยังมีแผนลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายบางนา-สุวรรณภูมิ รวมทั้งการกำหนดให้บริเวณบางนา-ตราด ช่วง กม.19-23 เป็นที่ตั้งของศูนย์กระจายสินค้า ซึ่งจะกลายเป็นโลจิสติกส์ฮับที่สำคัญ ทำให้ย่านนี้ในอีกช่วง 5 ปีข้างหน้าจะเติบโตมาก สามารถพัฒนาอสังหาฯ ได้ทุกรูปแบบ เพื่อรองรับแหล่งงานและที่อยู่อาศัย รวมทั้งต่อเนื่องจากอีอีซี

             ด้านราคาที่ดินพบว่าปัจจุบันมีดีเวลอปเปอร์รายใหญ่ซื้อที่ดินสำหรับรอการพัฒนาไปค่อนข้างมากโดยเฉพาะติดถนนหลัก โดยต้นถนนบางนาราคาอยู่ที่ 4 แสนบาท/ตารางวา (ตร.ว.) และถัดออกไปอยู่ที่ราว 2-3 แสนบาท/ตร.ว. ส่วนในซอยอยู่ที่ 5-6 หมื่นบาท/ตร.ว.

             ทั้งนี้หากเมกะโปรเจกต์เหล่านี้เกิดขึ้น จะทำให้ราคาที่ดินปรับขึ้นอีกไม่ต่ำกว่าเท่าตัว ซึ่งสะท้อนจากหลายทำเลที่รถไฟฟ้าเปิดให้บริการ ราคาที่ดินจะปรับขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 5-10%

ที่มา : posttoday.com
( วันที่ 7 พฤศจิกายน 2561 )