ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
09 พ.ค.2557

รับสร้างบ้าน กทม.หดตัวแรง แข่งขันสูง

Line
รับสร้างบ้าน กทม.หดตัวแรง แข่งขันสูง พีดีเฮ้าส์ ปิดสาขาหนี หันบุกต่างจังหวัดชดเชยรายได้
 

          รับสร้างบ้าน กทม.หดตัวแรง แข่งขันสูง พีดีเฮ้าส์ ปิดสาขาหนี หันบุกต่างจังหวัดชดเชยรายได้ รับสร้างบ้าน กทม. หืดจับ เหตุปัจจัยลบรอบด้าน เผยไตรมาส 2 ค่ายใหญ่แข่งเดือด ทุ่มโฆษณาอัดโปรโมชันลดแหลก 10-25%หวังกระตุ้นยอดขาย ด้านพีดีเฮ้าส์ เผยเจอพิษการเมืองเศรษฐกิจ ยอดขาย Q1 หดตัวร้อยละ 6 ล่าสุด ประกาศปิดสาขา กทม.เบนเข็มเปิดสาขา ตจว. โวยังมีงานสร้างบ้านตุน 300 หลัง มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ไม่หวั่นคู่แข่งตัดราคา เพราะบุกตลาดต่างจังหวัดแบบไร้คู่แข่ง เตรียมงบ 10 ล้านบาท ตอกทุ่มย้ำแบรนด์รับสร้างบ้านอันดับ 1 


       นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า แนวโน้มการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของประเทศไทยในไตรมาสแรกนี้ เติบโตต่ำกว่าที่เป้าที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และอีกหลายหน่วยงานคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศปีนี้ส่อแววหดตัว

             ทั้งนี้ ในส่วนของภาคธุรกิจรับสร้างบ้านเองพบว่า ความต้องการสร้างบ้านหลังใหม่ หรือกำลังซื้อในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว กอปรกับปัญหาขาดแคลนแรงงานก็ยังเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการรายเล็กแก้ไม่ตก ส่งผลให้รายที่ปรับตัวไม่ทันเริ่มเกิดอาการถอดใจ ในขณะที่คู่แข่งรายใหญ่ และรายผู้นำอาศัยความได้เปรียบที่สายป่านยาว หันมาทุ่มงบโฆษณา และจัดโปรโมชันลดกระหน่ำ 10-25% หวังดูดกำลังซื้อที่มีอยู่จำนวนจำกัด ส่งผลให้ปีนี้กลายเป็นปีทองของผู้บริโภคที่จะเลือกชอปบ้านราคาไม่แพง หลังจากในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาบ้านขยับขึ้นกว่าร้อยละ 15-20
      
       อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของพีดีเฮ้าส์ ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ยอมรับว่ายอดขายต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้กว่า 6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เชื่อว่าเป็นผลมาจากปัจจัยลบทางการเมือง และเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการชุมนุมประท้วงของประชาชน พบว่า ยอดขายของบริษัทฯ ปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
      
       ล่าสุด บริษัทตัดสินใจปิดสาขาใน กทม. ได้แก่ สาขาย่อยศูนย์ฯ สิริกิติ์ เหตุเพราะปริมาณลูกค้าที่เข้ามาติดต่อลดลงอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนๆ อย่างไรก็ดี บริษัทฯ เองก็ได้เร่งปรับตัวโดยหันไปขยายสาขาใหม่ๆ ในต่างจังหวัดแทน โดยในไตรมาสแรกเปิดสาขาจังหวัดชุมพรนำร่องเป็นแห่งแรก และเมื่อเร็วๆ นี้ เปิดสาขาจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นแห่งที่ 2 สำหรับสาขาที่ 3 และ 4 เตรียมเปิดสาขาจังหวัดร้อยเอ็ด และลำปาง ในช่วงไตรมาส 2 นี้ตามแผนการตลาดที่วางไว้ โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาด หรือยอดขายของบริษัทฯ มิให้ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจประเทศที่ชะลอตัว
      
       นายพิศาล กล่าวว่า ปัจจุบัน พีดีเฮ้าส์ และกลุ่มบริษัทในเครือมียอดขาย และงานสร้างบ้านค้างอยู่ในมือประมาณ 300 หลัง คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดย 80% ของยอดขายเป็นยอดขาย หรือก่อสร้างบ้านในต่างจังหวัด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า 1.พฤติกรรมและความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคใน ตจว.มีความอ่อนไหวต่อปัจจัยลบทางการเมืองน้อยว่า กทม. 2.ตลาดรับสร้างบ้านใน ตจว.มีขนาดใหญ่มากพอ 3.การแข่งขันไม่รุนแรงเพราะยังมีผู้ประกอบการที่มีมาตรฐาน และเป็นมืออาชีพน้อยราย
      
       “การที่บริษัทฯ รุกขยายตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัดในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา จึงถือได้ว่ามาถูกทางแล้วอย่างไรก็ดีในช่วงไตรมาส 2นี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ไว้จำนวน 10 ล้านบาทเศษ เพื่อจะสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ และสร้างการรับรู้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็น “ศูนย์รับสร้างบ้านอันดับ 1 ของประเทศ”

 

ที่มา : ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 6 พฤษภาคม 2557
http://goo.gl/yijnmB