ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
09 ม.ค.2562

เร่งสำรวจ-ฟื้นฟูพื้นที่เสียหายจากภัยพิบัติ

Line


 

            "ไทยพาณิชย์-กสิกรไทย-ธอส."ออกมาตรการเยียวยาผู้ประสบภัย"ปาบึก"ด้วยการลดดอกเบี้ย ยืดเวลาชำระหนี้รวมถึงเอสเอ็มอี ทั้งเป็นเจ้าของกิจการและผู้ประกอบการทางอ้อม ขณะที่"กกพ."ขอ กฟภ.อย่ารีบตัดมิเตอร์ไฟฟ้าคนประสบภัยหากชำระล่าช้าเกินกำหนด กระทรวงเกษตรฯเบื้องต้นพบพื้นที่การเกษตรประสบภัย 14จังหวัด พื้นที่ 148,925 ไร่ เกษตรกร 207,717 ราย

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)ได้ออกมาตรการพิเศษบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึก โดยลูกค้าบุคคลในกลุ่มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อรถยนต์สินเชื่อส่วนบุคคลได้รับความช่วยเหลือ อาทิ พักชำระหนี้เป็นเวลาสูงสุด 3 เดือน,ลดดอกเบี้ย หรือเบี้ยปรับช่วงพักชำระหนี้สูงสุด 50-100%,ขยายเวลาการผ่อนชำระสำหรับลูกค้าสินเชื่อบุคคล 2 เดือนลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ 3 เดือน ลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสูงสุดไม่เกิน 5 ปี เป็นต้น

            นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.ได้จัดทำมาตรการพิจารณาสินไหมเร่งด่วนสำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย สำหรับที่อยู่อาศัย ซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติรวมถึงกรณีน้ำท่วมหรือลมพายุ โดยจะให้กลุ่มพันธมิตรประกันภัยของธอส.จ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าที่เป็นผู้ประสบภัยเป็นกรณีพิเศษจำนวน 15,000 บาท และหากกลุ่มพันธมิตรประกันภัยของ ธอส.ประเมินความเสียหายของที่อยู่อาศัยแล้วพบว่าสูงกว่า 15,000 บาท ลูกค้ามีสิทธิ์ได้รับค่าสินไหมตามจริงแต่ไม่เกิน 20,000 บาท

            นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทยจำกัด(มหาชน)กล่าวว่า ธนาคารได้ออกมาตรการการช่วยเหลือลูกค้าประกอบด้วยการช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจ ด้วยการพักชำระเงินต้นนานสูงสุด 6 เดือนและธนาคารพร้อมสนับสนุนวงเงิน เพื่อซ่อมแซมสถานประกอบการ หรือฟื้นฟูกิจการโดยพักชำระเงินต้นนานสูงสุด 6เดือน ระยะเวลากู้สูงสุด 5 ปี

            นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต โฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)เปิดเผยว่า กกพ.ได้สั่งการให้สำนักงาน กกพ.ในจังหวัดที่ประสบภัยพิบัติดังกล่าวประสานงานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)เพื่อบรรเทาภาระผู้ใช้ไฟฟ้า โดยจะมีการผ่อนผันระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าในพื้นที่ประสบภัยหากล่าช้าเกินกำหนดที่ต้องชำระรวมทั้งให้งดตัดไฟฟ้าและเรียกเก็บค่าไฟฟ้าตามจริง เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน

            นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงได้เร่งสำรวจความเสียหายโดยเฉพาะความเสียหายต่อการประมง ทั้งประมงพาณิชย์ประมงพื้นบ้าน เพาะเลี้ยงชายฝั่งบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทยรวมทั้งจัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงสำรวจความเสียหายด้านพืชประมงปศุสัตว์เป็นรายอำเภอ เบื้องต้นพบพื้นที่การเกษตรประสบภัย 14 จังหวัด พื้นที่ 148,925 ไร่ เกษตรกรรวม 207,717 ราย ด้านประมง 11 จังหวัด ผู้เสียหาย 6,653 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำคาดว่าจะเสียหาย 22,364 ไร่ฯลฯ

            สำหรับจังหวัดที่มีสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ให้เร่งวางแผนฟื้นฟูรวมทั้งจัดทำชุดข้อมูลเพื่อประกอบการเสนอกองบัญชาการบรรเทาสาธารณภัย โดยคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ(ก.ช.ภ.อ.)จะพิจารณาประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้เกษตรกรได้รับการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ ยังให้เฝ้าระวังป้องปรามการจำหน่ายวัสดุทางการเกษตร เพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและกักตุนสินค้าวัสดุการเกษตร

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
(วันที่ 9 มกราคม 2562)