ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
01 เม.ย.2562

สศอ.เตือนภัยเอกชนรับมือ 3 อุตหลักขาลง เร่งประสานผู้ผลิต-ลุ้น รบ.ใหม่กระตุ้น

Line
           สศอ.มอนิเตอร์ 9 อุตฯสำคัญของไทย เตือนภัยเอกชนรับมือ 3 อุตหลักขาลง เร่งประสานผู้ผลิต-ลุ้นรบ.ใหม่กระตุ้น


           นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.วิเคราะห์ทิศทางอุตสาหกรรมปี 2562 จำนวน 9 อุตสาหกรรมหลักของไทยมีอันดับการส่งออกสูงสุด และส่วนแบ่งการตลาดของโลกสูง พบว่ามี 3 อุตฯที่ต้องจับตาว่าอาจอยู่ในช่วงขาลงหากไม่รีบปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีปัจจุบันและแนวโน้ม นั่้นคือ อุตฯการผลิตรถยนต์ อุตฯการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตฯผลิตภัณฑ์ยาง


           “ผลการศึกษาชี้ชัดว่า 3 อุตฯจะต้องเร่งปรับตัว อย่างอุตฯรถยนต์พบว่าเทรนด์รถยนต์แห่งอนาคต ทั้งไฮบริด ปลั๊กอิน ไฮบริด และไฟฟ้า(อีวี)กำลังเป็นทิศทางของโลก ซึ่งภาครัฐเองก็สนับสนุนการผลิตแต่พบว่ายังมีบางจุดที่เป็นอุปสรรคจึงพยายามผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด(อีโคอีวี) แต่ค่ายรถไม่อยากทำจึงต้องพับโครงการไว้ก่อน ขณะที่อุตฯไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ แม้ไทยจะมีความแข็งแกร่ง แต่ก็ผู้ประกอบการต้องปรับตัวเพื่อให้สินค้าตอบสนองความต้องการของโลก และอุตฯผลิตภัณฑ์ยาง ที่ไทยยังเน้นผลิตแต่ต้นน้ำ ยังไม่มีการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่ามากนัก โดยความกังวลดังกล่าวสศอ.จะประสานกับผู้ผลิต และจะเสนอรัฐบาลชุดใหม่เพื่อพิจารณาและออกมาตรการผลักดันต่อไป” นายณัฐพลกล่าว

           นายณัฐพล กล่าวว่า อย่างไรก็ตามพบว่า มี 3 อุตฯที่เป็นดาว คือ มีการเติบโตสูง สินค้าเป็นที่ต้องการของตลาด ได้แก่ อุตฯการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม เพราะไทยเป็นฐานการผลิตของโลก มีวัตถุดิบด้านการเกษตรที่สำคัญหลายชนิด ทั้งข้าว ปาล์ม อ้อย ยางพารา มันสำปะหลัง ขณะที่อาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานได้รับความนิยมเช่นกัน อย่างไรก็ตามสศอ.อยู่ระหว่างนำเสนอยุทธศาสตร์อาหาร20ปี เพื่อผลักดันการผลิตอาหารที่มีความหลากหลาย อาทิ อาหารทางการแพทย์ ซึ่งยุทธศาสตร์นี้จะทำให้ผู้ผลิตของไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ได้ประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีอุตฯปิโตรเคมี ที่เติบโตอย่างมากเพราะผู้ผลิตของไทยมีความโดดเด่นขึ้นอันดับโลก อาทิ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) และอุตสาหกรรมที่โดดเด่นอีกประเภท คือ พลาสติก เพราะมีฐานผลิตที่แข็งแรงและมีการพัฒนาไปสู่สินค้านวัตกรรม ประกอบกับไทยมีพืชพลังงานที่รองรับเพื่อมุ่งสู่ไบโอพลาสติก

           นายณัฐพล กล่าวว่า ทั้งนี้พบว่ามี 3 อุตฯที่ภาครัฐและเอกชนต้องพิจารณาว่าควรจะเดินไปในทิศทางใด เพราะตลาดโลกมีความต้องการแต่ผลิตภัณฑ์ยังไม่มีทิศทางชัดเจน บางอุตสาหกรรมผู้ผลิตปรับตัวแต่นโยบายรัฐยังไม่สอดรับเพียงพอ คือ เคมีภัณฑ์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และเหล็ก

           นายณัฐพล กล่าวว่า สำหรับ 9 อุตฯหลัก ประกอบด้วย อุตฯการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม สัดส่วนส่งออกรวมปริมาณและมูลค่า 19.93% และส่วนแบ่งการตลาด 2.6% อุตฯการผลิตรถยนต์ 13.89% ส่วนแบ่งการตลาด 2.2% อุตฯการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 11.96% ส่วนแบ่งการตลาด 2.1% อุตฯการผลิตปิโตรเคมี เคมีภณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี 8.01% ส่วนแบ่งการตลาดเฉพาะปิโตรเคมี 3.8% และส่วนแบ่งการเฉพาะเคมีภัณฑ์ 0.9% อุตฯการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง 5.36% ส่วนแบ่งการตลาด 9.2% อุตฯการผลิตเหล็ก 3.59% ส่วนแบ่งการตลาด 0.5% อุตฯการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติก 3.54% ส่วนแบ่งการตลาด 1.3% และอุตฯการสิ่งทอและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย 3.52% ส่วนแบ่งการตลาด 1.0%

 
ที่มา : มติชนออนไลน์
(วันที่ 1 เมษายน 2562 )