ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
24 มิ.ย.2557

ค้าวัสดุพลิกโฉมสู่ร้านสะดวกซื้อ

Line

ร้านค้าวัสดุตื่นพลิกโฉมจากห้องแถวสู่ร้านสะดวกซื้อ รองรับผู้บริโภคปรับพฤติกรรมนิยมซื้อสินค้าชิ้นเล็กเพื่อการซ่อมแซมบ้าน รวมทั้งรับมือการรุกของโมเดิร์นเทรด "สาธิต" เผยร้านค้าวัสดุแนวใหม่มีครบทั้งสินค้าซ่อมบ้านและตกแต่ง
alt    แหล่งข่าวระดับสูงจากกลุ่มเซ็นทรัล  ผู้บริหารร้านค้าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ต่อเติมบ้าน ภายใต้ชื่อ โฮมเวิร์ค, ไทวัสดุ และบ้าน แอนด์ บียอนด์  เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปัจจุบันธุรกิจร้านค้าปลีกวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างและต่อเติมบ้านหรือโฮมรีเทล ซึ่งจัดเป็นร้านค้าปลีกประเภทสเปเชียลตี สโตร์ยังคงเป็นที่นิยม เห็นได้จากสัดส่วนการเติบโต 18% ในปีที่ผ่านมา  และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ ส่งผลให้ในอนาคตตลาดอาจจะมีการแบ่งเซ็กเมนต์ใหม่ที่ชัดเจนขึ้น โดยขณะนี้ตลาดสามารถแบ่งออกเป็น 3 เซ็กเมนต์ได้แก่ กลุ่มค้าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างขนาดใหญ่ อาทิ ไทวัสดุ สยามโกลบอลเฮ้าส์ และเมกาโฮม, กลุ่มค้าวัสดุเฟอร์นิเจอร์ และกระเบื้อง  สุขภัณฑ์ ฯลฯ เช่น โฮมเวิร์ค กับโฮมโปร  และกลุ่มวัสดุซ่อมแซม ต่อเติมบ้าน อาทิ  บ้าน แอนด์ บียอนด์

  "กลุ่มค้าวัสดุเฟอร์นิเจอร์ เป็นกลุ่มที่มีการแข่งขันที่รุนแรง ส่งผลให้แบรนด์ที่ไม่สามารถควบคุมต้นทุน หรือมีระบบการบริหารจัดการที่แข็งแกร่ง จะไม่สามารถทำตลาดได้ เช่นเดียวกับโฮมเวิร์ค ซึ่งอยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง และคู่แข่งมีความแข็งแรง ทำให้โอกาสขยายสาขาเพิ่มขึ้นของโฮมเวิร์คมีน้อยมากจนถึงปัจจุบันมีเพียง 7 สาขา ทั้งที่เปิดดำเนินการมานานถึง 13 ปี"   
    ขณะเดียวกันจะพบว่า แนวโน้มร้านค้าปลีกกลุ่มวัสดุซ่อมแซม ที่มีลักษณะคล้ายร้านสะดวกซื้อ จะมีการขยายตัวต่อเนื่อง จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาเลือกซื้อสินค้าชิ้นเล็กเพื่อการซ่อมแซมบ้าน จากเดิมที่นิยมเลือกซื้อจากร้านค้าวัสดุห้องแถวก็จะปรับเปลี่ยนหันมาซื้อในร้านค้าวัสดุแบบสมัยใหม่แทน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการเติบโตของร้านสะดวกซื้อ ที่จากเดิมผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าในร้านโชวห่วย ก็ปรับเปลี่ยนมาใช้บริการร้านสะดวกซื้อ
    "ในอนาคตกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่จะหันมาลงทุนและพัฒนาร้านค้าปลีกวัสดุซ่อมแซมแบบสมัยใหม่มากขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค แต่การจะทำให้ประสบความสำเร็จจำเป็นจะต้องมีจำนวนสาขาที่มากและมีสินค้าที่หลากหลาย"
    ด้านนายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากอิทธิพลการขยายตัวของโมเดิร์นเทรดค้าวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ที่รุกคืบเปิดสาขาทุกพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการ ทำให้ร้านค้าวัสดุรายย่อยมีความตื่นตัวที่จะปรับโฉมจากร้านห้องแถวให้ดูทันสมัย มีชั้นวางสินค้าเป็นหมวดหมู่เหมือนร้านสะดวกซื้อ โดยสินค้าที่จำหน่ายมีครบทั้งวัสดุเพื่อการซ่อมแซมบ้าน และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ทั้งนี้ หากไม่มีการปรับตัวก็อาจจะอยู่ยาก โดยที่บริษัทได้เข้าไปสนับสนุนร้านค้าด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับการนำเสนอสินค้าเพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้า

    สำหรับตลาดวัสดุในช่วงครึ่งปีแรกกำลังซื้อยังไม่กระเตื้องมากนัก ถึงแม้จะมีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาบริหารและสั่งจ่ายเงินจำนำข้าวที่ค้างชาวนาแล้วก็ตาม เนื่องจากเม็ดเงินออกมาพอดีกับฤดูกาลทำนา อย่างไรก็ตาม หวังครึ่งปีหลังสถานการณ์จะดีขึ้น สำหรับผลิตภัณฑ์ตราเพชรในปีนี้คาดการณ์จะรักษาระดับยอดขายเท่ากับปีก่อนคือ 4,400 ล้านบาท โดยเร่งขยายตลาดต่างประเทศมาเสริมรายได้
    ขณะที่นายธีรัช จึงกานต์กุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท จาร์ตัน แอนด์ ซันส์ จำกัด ผู้ผลิตอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ประตูและหน้าต่างครบวงจร แบรนด์ JARTON กล่าวว่า ขณะนี้ร้านค้าวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านในต่างจังหวัดมีเปิดใหม่เพิ่มขึ้นค่อนข้างคึกคัก โดยเปิดในลักษณะของร้านค้าสมัยใหม่ที่มีชั้นวางสินค้าแยกเป็นหมวดหมู่แบบเดียวกับโมเดิร์นเทรด ทั้งนี้เจ้าของร้านจะเป็นทายาทของร้านค้าวัสดุแบบดั้งเดิมที่แยกตัวมาเปิดกิจการ จึงทำร้านให้รองรับกับพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ที่นิยมซื้อสินค้าในโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อ

ที่มา : จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,959  วันที่ 22 - 25  มิถุนายน  พ.ศ. 2557
http://www.thanonline.com