ขาดคนงานขั้นโคม่าอสังหาฯหวั่นแผน 2.4 ล้านล้านซ้ำเติมปัญหาลุ้นไฟเขียวนำเข้าคนเวียดนามเสริมทัพ
ห่วงลงทุน 2.4 ล้านล้านทำแรงงานอสังหาฯ ขาดหนัก สถาบันก่อสร้างลุ้นนำเข้าแรงงานเวียดนาม
นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 8 ปี มูลค่ารวม2.4 ล้านล้านบาท ย่อมส่งผลกระทบให้แรงงานในภาคอสังหาริมทรัพย์ขาดแคลนในระยะยาว เนื่องจากแรงงานต้องเข้าไปทำงานโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคมากขึ้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หรือรัฐบาลที่จะเข้ามาดำเนินงานต่อจากนี้ จึงต้องเตรียมมาตรการรองรับเช่น การหารือกับประเทศเพื่อนบ้านเรื่องแรงงานในประเทศไทย เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
"ปัจจุบันคาดว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ขาดแคลนแรงงานประมาณ 3 แสนคน ซึ่งในปี 2558 ที่ลงทุนประมาณ 1.2 แสนล้านบาท คงยังไม่กระทบมากนัก เพราะน่าจะเป็นโครงการต่อเนื่องแต่หลังปี 2559 น่าจะมีปัญหารุนแรงขึ้น" นายอิสระ กล่าว
ทั้งนี้ ควรมีการทบทวนนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวด้วย เช่นการเปิดศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว(วันสต็อปเซอร์วิส) ที่หลายจังหวัดจำกัดโควตาการลงทะเบียน 650 คน/วัน อีกทั้งยังมีบริษัทนายหน้าเข้าไปจองโควตาอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างยังไม่ได้คิวลงทะเบียนแรงงานกระทรวงแรงงานและผู้ที่เกี่ยวข้องจึงควรทบทวนนโยบายให้สอดคล้องกับการปฏิบัติ เพื่อให้ทุกฝ่ายดำเนินการได้อย่างถูกต้อง
ด้าน นายจักรพร อุ่นจิตต์ ผู้อำนวยการสถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทยกล่าวว่า สถาบันเคยเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาแรงงานขาดแคลนให้กระทรวงแรงงานตั้งแต่สมัยนายเผดิมชัยสะสมทรัพย์ เป็น รมว.แรงงาน 2 เรื่องได้แก่ 1.เปิดให้มีแรงงานจากประเทศอื่นเข้ามาทำงานในไทยได้มากกว่า 3 สัญชาติเช่น แรงงานเวียดนาม เนื่องจากเป็นชาติ
อาเซียน มีวัฒนธรรมคล้ายคลึงกับไทย น่าจะปรับตัวทำงานร่วมกับคนไทยและคนต่างด้าวชาติอื่นได้ไม่ยาก2.เปิดให้แรงงานต่างด้าวสามารถทำงานข้ามเขตได้ ซึ่งล่าสุดภาคเอกชนได้เสนอทั้งสองเรื่องให้คสช.พิจารณาแล้ว
ที่มา : นสพ.โพสต์ทูเดย์ (31 กรกฎาคม 2557)