เศรษฐกิจบุรีรัมย์เด้งรับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซูเปอร์ จีทีเรซ" เงินสะพัด 200 ล้าน โรงแรม ร้านอาหาร สถานบันเทิง ตลาดสดรับทรัพย์ถ้วนหน้า เจอศึกหนักห้องพักไม่พอ

ชัยภูมิ โคราช สุรินทร์รับอานิสงส์เต็มๆ ด้านการลงทุนหลั่งไหลไม่ขาดสาย ล่าสุดค่ายเบียร์ช้างเร่งรีโนเวตโรงแรมหรู มั่นใจ 3 ปี รายได้ท่องเที่ยวเพิ่ม 10% แรงงานคืนถิ่นเพียบ

นายนที เจียรพันธุ์ ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เศรษฐกิจจังหวัดบุรีรัมย์คึกคักมากในช่วงการแข่งขัน รถยนต์ทางเรียบบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซูเปอร์ จีที เรซ (Buriram United Super GT Race) ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ระหว่างวันที่ 2-5 ต.ค.ที่ผ่านมา โรงแรมที่พักกว่า 5,000 ห้อง อัตราเข้าพักเต็ม 100% และไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้เข้าร่วมงานและนักท่องเที่ยว ทำให้โรงแรม ร้านอาหารใน จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ ได้รับอานิสงส์ไปด้วย คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดแมตช์การแข่งขันละ 200 ล้านบาท ซึ่งจะมีการแข่งขันทั้งสิ้น 33 ครั้ง/ปี

ทั้งนี้ หากการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบตรงกับการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก จะทำให้มีเงินสะพัดมากถึง 400 ล้านบาท แต่ปัญหาที่ตามมา คือ ห้องพัก ไม่เพียงพอต่อความต้องการ แม้ว่าขณะนี้จะมีห้องพักเกิดใหม่กว่า 2,000 ห้อง นอกจากนี้ธุรกิจร้านอาหาร สถานบันเทิง และอื่นๆก็คึกคักเช่นกัน

ดังนั้น จะต้องมีการลงทุนโรงแรม รีสอร์ตเพิ่มรองรับการเติบโตทางด้านการท่องเที่ยว และบริการแบบก้าวกระโดด โดยในปี 2558 การลงทุนด้านโรงแรม รีสอร์ตจะคึกคักมาก ทั้งทุนท้องถิ่นและส่วนกลาง จะเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนายเจริญ สิริวัฒนภักดี กลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจ หรือเบียร์ช้าง ได้เทกโอเวอร์โรงแรมแสงรุ้งของกลุ่มทุนท้องถิ่นขนาด 14 ชั้น จำนวน 200 ห้อง โดยจะใช้เชนบริหารของโรงแรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว

นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มทุนจากกรุงเทพฯ เตรียมพัฒนาโครงการบูติค โฮเทล บริเวณตรงข้ามสนามนิวไอโมบาย สเตเดี้ยม ขณะที่ธุรกิจร้านอาหาร ภัตตาคารหรู สถานบันเทิงระดับไฮเอนด์ ปัจจุบันยังมีไม่พียงพอที่จะรองรับกลุ่มนักธุรกิจที่มีกำลังซื้อสูง

"การแข่งขันครั้งนี้ ทำให้เศรษฐกิจจังหวัดบุรีรัมย์คึกคักเป็นอย่างมาก ได้รับอานิสงส์กันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร สถานบันเทิง แม้แต่ตลาดสดยังคักคึก เพราะร้านอาหาร โรงแรมต่างเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้ามาสู่ระบบเศรษฐกิจของบุรีรัมย์ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น มีการจ้างงานมากขึ้น"

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตหากมีการลงทุนเพิ่มขึ้นบุรีรัมย์กลายเป็นเมืองสปอร์ตซิตี้ จะมีการจ้างงานสูงขึ้นตามมา ทำให้คนบุรีรัมย์ที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ หรือตามหัวเมืองใหญ่จะกลับมาทำงานยังภูมิลำเนามากขึ้น โดยเฉพาะหนุ่มสาวที่ทำงานอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรม จะกลับมาทำงานภาคบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร

นายนที กล่าวว่า การขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยวทำให้ปี 2556 ที่ผ่านมา มีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.2-1.3 พันล้านบาท มีนักท่องเที่ยว 1.3 ล้านคน ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 1.4-1.6 พันล้านบาท นักท่องเที่ยว 1.5-1.6 ล้านคน ในอนาคตวางเป้าเติบโตทั้งรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยว 20% ต่อปี และภายใน 3-5 ปี รายได้จะทะลุ 2 พันล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยว 2-2.5 ล้านคน

"ตั้งเป้าว่าภายใน 2-3 ปี รายได้จากการท่องเที่ยวและบริการ จะมีสัดส่วน 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) โดยปี 2554 จังหวัดบุรีรัมย์มีจีพีพีรวม 9.7 หมื่นล้านบาท ภาคการท่องเที่ยวและบริการ คิดเป็นสัดส่วน 2-4% ภาคเกษตรกรรมมีรายได้สูงสุดถึง 1.7 หมื่นล้านบาท ที่เหลือเป็นธุรกิจอื่นๆ" ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวและว่า หากเศรษฐกิจจังหวัดบุรีรัมย์เติบโตไปอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเมืองสปอร์ตซิตี้ ภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัวตามมา นอกจากนี้โรงไฟฟ้าชีวมวล จะมีการลงทุนสูงเช่นกัน

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์