ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยผลสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์อาเซียนว่า "ประเทศกัมพูชา" คาดว่าในปี 2556 นี้ จะมีอัตราเติบโต 7.3%  ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะเติบโตปีละ 7% อย่างน้อย 2 ปีถึงปี 2558  สำหรับราคาที่ดินในกรุงพนมเปญตกตารางวาละประมาณ 400,000 บาทในเขตศูนย์ธุรกิจโดยตรง ในปีที่ผ่านมาราคาเพิ่มขึ้น 15%
 

ตลาดอาคารสำนักงานชั้นดีมีความต้องการสูงมีอัตราว่างประมาณ 17% ขณะที่ค่าเช่าค่อนข้างสูงเฉลี่ยตารางเมตรละ 700 บาท  ส่วนศูนย์การค้ามีค่าเช่าตารางเมตรละ 1,000 บาท  ในด้านบ้านอยู่อาศัยราคาแพง ราคาขายที่ดิตตารางวาละ 130,000 บาท แต่มีอุปทานค่อนข้างจำกัด  ห้องชุดมีอุปทาน 2,200 หน่วยในปี 2556 และมีราคาขายประมาณ 45,000 บาทต่อตารางเมตร  จะเห็นได้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงพนมเปญยังค่อนข้างเล็ก
 
"ประเทศมาเลเซีย" มีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ 5.1% อัตราเงินเฟ้อ 1.6% อัตราว่างงาน 3.1%  ในปี 2555 มาเลเซียมีการซื้อขายบ้าน 272,669 หน่วย  หรือประมาณ 3.9% ของบ้านทั้งหมดประมาณ 7 ล้านหน่วยทั่วประเทศ รวมมูลค่าขาย 677,620 ล้านบาท เฉลี่ย 2.485 ล้านบาท โดยการซื้อขายบ้านเพิ่มจากปี 2554 เพียง 1.1% เท่านั้นแสดงถึงภาวะค่อนข้างชลอตัว  

"ประเทศฟิลิปปินส์" เศรษฐกิจเติบโตประมาณ 5.1% ในปี 2555 คาดว่าปีนี้จะเติบโต 7%  แต่มีอัตราการว่างงานสูง 7% แสดงว่าภาวะเศรษฐกิจยังไม่สู้ดีนัก มีนักท่องเที่ยวเดินทางประมาณ 400,000 คน ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับไทย มาเลเซียและสิงคโปร์ที่มีนักท่องเที่ยวประมาณ 15 - 25 ล้านคน  

ค่าเช่าสำนักงานชั้นดีใจกลางเมืองตก 750 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน พื้นที่ศูนย์การค้า 1,000 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน  ส่วนค่าเช่าพื้นที่อุตสาหกรรม เช่น โกดังตารางเมตรละ 100 บาท ขณะนี้กำลังมีการส่งเสริมการสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย (หลังละไม่เกิน 700,000 บาท)
 
"ประเทศเวียดนาม" มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำเพียง 4.64% ในปี 2556 คาดว่าไม่เกิน 5%  เงินเฟ้ออยู่ที่ 14%  แต่ก็มีการลงทุนจากต่างประเทศจำนวนมาก ได้แก่ เกาหลี ญี่ปุ่นที่ย้ายฐานมาจากประเทศไทยและประเทศจีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เป็นต้น  ขณะนี้เวียดนามมีทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ประมาณ 577,000 ล้านบาท เป็นผลจากการตกต่ำของเศรษฐกิจในช่วงปี 2555
 
เวียดนามมีพื้นที่สำนักงานชั้นหนึ่งประมาณ 400,000 ตารางเมตร ค่าเช่าเฉลี่ยตารางเมตรละ 1,000 บาท (แพงกว่าไทย แต่ก็ถือว่าลดราคาลงมามากแล้ว) มีอัตราว่างเฉลี่ย 20% สูงกว่ากรุงเทพมหานคร ณ 15%   การลงทุนในครั้งใหม่ของเวียดนามจะเป็นการสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย
 
"ประเทศอินโดนีเซีย" คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตถึง 6.3% ในปี 2556 โดยจะเพิ่มเป็น 6.4% และ 6.44% ในปี 2557 และ 2558 มีอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 6% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 11%  มีขนาดใหญ่กว่าไทย 3.5 เท่า ในส่วนห้องชุดพักอาศัยชั้นดีใจกลางเมืองซึ่งมีอยู่ 22,038 หน่วย มีค่าเช่าตารางเมตรละ 465 บาท มีราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 70,700 บาท  ค่าเช่าเพิ่มขึ้น 4.3% ส่วนราคาเพิ่มขึ้น 20.3% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา  อัตราผลตอบแทนจากการให้เช่ามีสัดส่วนต่อราคา 7.9% ซึ่งสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก  ทำให้มีคนสนใจลงทุนซื้อห้องชุดไว้เก็งกำไรในเขตใจกลางเมืองมากขึ้น

ที่มาจาก ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 16 ก.ค. 2556