ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
21 ส.ค.2556

อสังหาฯเสี่ยงชะลอตัว แบงก์เข้มปล่อยกู้

Line

"แสนสิริ"เผยศก.ชะลอตัว กระทบภาคอสังหาไม่มาก แบ็คล็อกยังแน่น เชื่อไตรมาส 4 โตสุดในรอบปี ปรับกลยุทธ์เพิ่มเงินดาวน์ ป้องกันลูกค้าเก็งกำไร

นายวันจักร์ บุรณศิริ กรรมการ บริษัท แสนสิริ หรือ SIRI เปิดเผยว่า ทิศทางของธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มชะลอลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยังถือว่าเป็นช่วงดีที่สุดของปี และจากกรณีจีดีพีไตรมาส 2 ปรับลดลงกว่าคาดไว้ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจะกระทบบริษัทเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์รับมือสถานการณ์แล้ว
 
"ครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะไตรมาส 4 ยังเชื่อว่าเป็นช่วงดีที่สุดของปี แต่อาจชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงไปบ้าง สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ เชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะสถาบันการเงินยังเชื่อมั่นและสนับสนุน แต่ผู้ประกอบการรายย่อยจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการพิจารณาสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กต้องปรับตัวมากขึ้น"
 
จากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อรับมือสถานการณ์ โดยจะไม่เน้นการขายเพิ่มขึ้น หลังจากไตรมาส 1 บริษัทเร่งปิดโครงการมาก ส่งผลให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายดำเนินการสูง ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์ เน้นลดต้นทุนและปรับราคาขายขึ้นเฉลี่ย 1-3 % นอกจากนี้ยังเพิ่มกลยุทธ์โดยเพิ่มเงินดาวน์จากขั้นต่ำของลูกค้าระดับล่าง 5-6% เป็น 12% เพื่อคัดกรองลูกค้ามากขึ้น
 
นอกจากนี้บริษัทยังมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ค่อนข้างสูง โดยปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ทั้งหมด 61,867 ล้านบาท โดยรับรู้รายได้ในปีนี้ 15,307 ล้านบาท และในปีหน้าอีก 21,089 ล้านบาท
 
นายวันจักร์ กล่าวด้วยว่าผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกนั้น บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 27 โครงการ มูลค่ารวม 3.8 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมาย 47 โครงการ มูลค่ารวม 6 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทมียอดขายรวม 34,325 ล้านบาท คิดเป็น 72% ของเป้าหมายทั้งปีของบริษัทที่ 4.8 หมื่นล้านบาท มียอดขายในต่างจังหวัด 44 % และยอดขายในกรุงเทพ 56%
 
ขณะที่ นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย หรือ SPALAI เปิดเผยว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจนั้นโดยภาพรวมของสถานการณ์ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันนั้น ในกรุงเทพฯยังคงมีความต้องการต่อเนื่อง แต่ในภูมิภาคนั้น มีหลายจังหวัดที่เริ่มมีจำนวนที่พักอาศัยเกินความต้องการแล้ว เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้บริษัทขนาดเล็กทำธุรกิจได้ยากขึ้น แต่ในทางกลับกันกลับเป็นโอกาสของบริษัทขนาดใหญ่ ที่จะเข้าไปซื้อที่ดิน โดยจะได้ในราคาที่ถูกลงเพื่อการแข่งขันเริ่มลดลง
 
สำหรับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจต่อบริษัทน้อยมาก เนื่องจากนโยบายของบริษัทนั้นให้ลูกค้าวางเงินดาวน์ขั้นต่ำอยู่ที่ 20% เพื่อเป็นการกรองระดับหนึ่ง แต่เริ่มมีสัญญาณว่าลูกค้าบางรายเริ่มขอกู้จากธนาคารไม่ผ่านเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีภาระหนี้สินการผ่อนรถยนต์ตามนโยบายรถยนต์คันแรกอยู่
 
นายไตรเตชะ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้ 13,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10% โดยในครึ่งปีแรกมีกำไรแล้ว และตั้งเป้ายอดขายที่ 26,000 ล้านบาท โดยปีนี้เปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่แล้ว 8 โครงการ ตั้งเป้าจะเปิดคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ 10 แห่ง และตั้งเป้ามีจำนวนโครงการเปิดใหม่ทั้งหมดปีนี้ 22 โครงการ มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ทั้งหมด 37,294 ล้านบาท โดยรับรู้รายได้ปีนี้ 13,500 ล้านบาท และรับรู้รายได้ในปีหน้าอีก 13,662 ล้านบาท
 
นอกจากนี้บริษัทยังได้ลงทุนซื้ออาคารสำนักงานให้เช่าในประเทศฟิลิปปินส์ 1 แห่ง มูลค่า 770 ล้านบาท ซึ่งจะสร้างรายได้ประมาณปีละ 65 ล้านบาท โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ในเดือนกันยายนนี้นอกจากนี้บริษัท โดยในปีหน้านั้นบริษัทคาดว่าจะมีการเติบโตจากปีนี้อีก 30%

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 21 สิหาคม 2556