ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
นิตยสารบ้านสุขใจ
Line
08 ก.ย.2558

กรกฎาคม 2558

Line
  
     ผู้เขียน เหลียวมองภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านและผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ที่แข่งขันอยู่ ในธุรกิจนี้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายที่ตั้งหลักปักฐาน   แข่งขันอยู่เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล หากจะใช้คำว่า “สะบักสะบอม” ก็คงไม่ผิดนักแน่นอนว่าปัจจัยที่มีผลกระทบหลักๆ ก็คือ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศและกำลังซื้อที่หดตัวรุนแรงซึ่งนั่นคงเป็นปัจจัยภายนอกที่ผู้ประกอบการคงไม่สามารถควบคุมได้ แต่หากมองย้อนกลับเข้ามาถึงปัจจัยภายในธุรกิจและองค์กร ก็จะพบปัจจัยที่มีผลกระทบเช่นกัน ซึ่งมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละองค์กร เราอาจเรียกทั้งหมดนี้ว่า “อุปสรรค” และเจ้าอุปสรรคนี้เองที่ผู้ประกอบการ หรือผู้ประกอบการที่รวมตัวกันกันเป็นองค์กร เช่น ชมรม สมาคม สภาวิชาชีพ ฯลฯ จะต้องจิตนาการและนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีลำดับและมีเป้าหมายชัดเจน ซึ่งเราอาจเรียกว่า “วิสัยทัศน์” ภายใต้การนำของผู้นำองค์กรนั้นๆ 
     สำหรับ ผู้นำองค์กรเอสเอ็มอีอย่างเช่นธุรกิจรับสร้างบ้านนี้ ผู้นำองค์กรก็คงหมายถึงเจ้าของกิจการหรือผู้ลงทุนนั่นเอง เชื่อว่าคงไม่มีกิจการใดใช้วิธีการโหวตหรือการเลือกผู้นำ โดยพนักงานขององค์กรแน่ๆ แต่สำหรับผู้นำองค์กรที่เป็นองค์กรเช่น ชมรม สมาคม ฯลฯ นั้นโดยหลักการแล้ว “ผู้นำ” จะถูกโหวตหรือเลือกตั้ง หรือลากตั้งมาจากสมาชิกขององค์กรนั้นๆหมุนเวียนเปลี่ยนสลับกันไปตามวาระที่ตกลงกันไว้และแตกต่างกันไป เมื่อกล่าวถึงผู้นำแล้ว หากอยากจะรู้ว่าผู้นำที่ดีและเก่งกาจนั้นเป็นอย่างไร สำหรับผู้เขียนแล้วเห็นว่า “ผู้นำ” ที่มีแนวความคิดหรือมองไกล และนำพาองค์กรฝ่าอุปสรรคหรือวิกฤติไปได้ อย่างปลอดภัยหรือเติบโตสวนทางวิกฤติ นี่แหละคือ “ผู้นำที่ดีและเก่งจริง” 

     เช่นกันเมื่อมองย้อนกลับเข้ามาอีกครั้งสำหรับภาพรวมธุรกิจสร้างบ้าน ก็จะเห็นองค์กรที่มีผู้ประกอบการรวมตัวกันเป็นองค์กร “สมาคมธุรกิจการค้า” เมื่ออ่านแนวคิดและวิสัยทัศน์ของทั้ง 2 องค์กรก็จะมีความละม้ายคล้ายคลึงกัน หากมองแนวทางปฏิบัติและกิจกรรมต่างๆ ทีจัดขึ้นก็มีคล้ายๆ กัน เพียงแต่เมื่อพิจารณาลงลึกในแต่ละเรื่องที่                                                                              กล่าวมาจะมีวิธีปฏิบัติและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอยู่พอสมควร 
 
   ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละยุคแต่ละสมัยของผู้นำองค์กรที่หมุนเวียนเปลี่ยนกันเข้ามา ซึ่งอาจใช้มุมมองและแนวคิดของตัวเองมากำหนดบทบาทในการนำองค์กร โดยที่ไม่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์หลักขององค์กร หากผลลัพธ์ออกมาเป็นบวกก็สะท้อนภาวะ “ผู้นำที่ดีและเก่ง” แต่ทว่าถ้านำไปสู่ความล้มเหลวขององค์กร นั่นก็ย่อมสะท้อนความเป็น “ผู้นำยอดแย่” โดยเฉพาะผู้นำที่มีความคิดและสติปัญญาที่อุดมไปด้วย 3 ก. อันได้แก่ กลัว (เสื่อม) โกรธ (คำติติง) เกลียด (ความจริง) รวมถึงความอิจฉาริษยา ผู้เขียนเชื่อว่าอีกไม่นาน 3 ก. และความขี้อิจฉาก็จะนำองค์กรไปสู่ความเสื่อม สมาชิกก็จะล้มเหลว หากความคิดของผู้นำและผู้ตามยังติดกับดัก 3 ก. ติดตามกันต่อไปครับ


                                                                                                                                                              นายสิทธิพร สุวรรณสุต
                                                                                                                                                             ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร