"พาเนล พลัส" ในกลุ่มมิตรผล เปิดเกมรุกตลาดวัสดุทดแทนไม้ รับโครงการคอนโดขยายตัวสูง เปิดตัวไม้เคลือบเมลามีน คอลเลคชั่นใหม่ 11 ดีไซน์ เจาะไลฟ์สไตล์ใหม่คนเมือง หวังดันยอดขาย 3.3 พันล้าน
 
นายเศรษฐพงศ์ จันทนยิ่งยง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ประจำกลุ่มธุรกิจวัสดุทดแทนไม้ บริษัท พาเนล พลัส จำกัด บริษัทในเครือมิตรผล เปิดเผยว่า บริษัทจะเน้นทำตลาดเชิงรุกผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้เคลือบเมลามีน เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสและศักยภาพการเติบโตของตลาด ตามการเปลี่ยนแปลงสไตล์การอยู่อาศัยของคนเมืองที่นิยมอยู่คอนโดมิเนียมมากขึ้นระหว่างวันธรรมดา
 
ส่งผลให้ตลาดวัสดุทดแทนไม้ปาติเกิลบอร์ด เคลือบเมลามีนมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หรือเฉลี่ยปีละกว่า 10% ตามการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า เพราะเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานและดูแลรักษาง่าย
 
ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตไม้ปาติเคิลบอร์ด 300,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ไม้เอ็มดีเอฟ300,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี โดยสัดส่วนการขายในประเทศ แบ่งเป็นไม้ปาติเกิลบอร์ดและไม้เอ็มดีเอฟ 50% และไม้เคลือบกระดาษเมลามีน 50%
 
สำหรับการส่งออกไปยังต่างประเทศนั้น แบ่งเป็นสินค้ากลุ่มไม้ปาติเกิลบอร์ดและไม้เอ็มดีเอฟในสัดส่วน 80% และไม้เคลือบกระดาษเมลามีน 20% ตลาดเป้าหมายหลัก ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
 
ขณะที่ปีหน้ายังมีแผนขยายตลาดเพิ่มขึ้นอีกทั้งในฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งมองว่าเป็นตลาดใหญ่ จากฐานประชากรของทั้ง 2 ประเทศที่รวมกันแล้วเกินกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรในอาเซียน โดยจะเริ่มเข้าไปทำตลาดด้วยตัวเอง จากที่เคยทำผ่านตัวแทนจำหน่าย นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเข้าไปทำตลาดในประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจ หรือ เออีซี ในอีก 2 ปีข้างหน้าด้วย
 
ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้ปาติเกิลบอร์ด เคลือบเมลามีน ใหม่ 11 ดีไซน์ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเฟอร์นิเจอร์ และตลาดที่อยู่อาศัย โดยคาดว่าจะทำให้สัดส่วนการขายไม้เคลือบเมลามีนเพิ่มขึ้นจาก 50% เป็น 60%
 
"ทั้ง 11 ดีไซน์ มาจากการผสานกับเทรนด์การตกแต่งภายในจากนานาประเทศ ในโทนสีและลวดลายไม้ตามธรรมชาติ ของไม้แอช ไม้สน และไม้โอ๊ค ร่วมกับจุดเด่นของการนำโครงสร้างเส้นใยทักถอผ้าลินิน ผ้าฝ้าย และผ้าขนสัตว์ ตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ที่ชอบความแตกต่าง"
 
สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 3,300 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีที่ผ่านมาซึ่งทำได้ 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา บริษัททำยอดขายไปแล้ว 2,500 ล้านบาท และตั้งเป้าเติบโตในปี 2557 เพิ่มอีก 10%
 

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 2 ตุลาคม 2556