ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
นิตยสารบ้านสุขใจ
Line
23 พ.ย.2558

ตุลาคม 2558

Line
      ก้าวสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปีหรือไตรมาสสี่กันแล้ว โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนน้องๆ ทีมงานสรุปสถานการณ์ตัวเลขยอดขายบ้านในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาให้ทราบ ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดไว้ว่าความต้องการสร้างบ้านและกำลังซื้อน่าจะชะลอตัว เหตุด้วยเศรษฐกิจหดตัวประการหนึ่งล่ะ ฤดูกาล (ฝน) ที่ไม่เอื้อต่อการสร้างบ้านหลังใหม่อีกหนึ่งล่ะ และความเชื่อที่ว่าช่วงเข้าพรรษา (3 เดือน) ไม่ควรปลูกเรือนใหม่ เหตุและความเชื่อเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมๆ กันในปีนี้ จึงส่งผลสะเทือนต่อภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านมากกว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมา 
 

      แต่ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ เหตุอย่างอื่นที่ฉุดกำลังซื้อหมดไป หากกำลังซื้อฟื้นกลับมาได้ ก็แสดงว่าเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นเริ่มฟื้นแล้ว ซึ่งก็หวังให้เป็นดังเช่นที่กล่าวมา อย่างไรก็ดี รัฐบาลโดยทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่ ที่แม้ว่าจะเพิ่งเข้ามารับผิดชอบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ก็สามารถออกสตาร์ทได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในระยะสั้น-ระยะกลาง ซึ่งหนึ่งในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทุกรัฐบาลนำมาใช้ก็คือ มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ และก่อสร้างที่อยู่อาศัย ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ก็ไม่พลาดเช่นกัน
ข้อสังเกตประการหนึ่งของผู้เขียนก็คือ ทุกครั้งธุรกิจรับสร้างบ้านไม่เคยได้รับอานิสงค์ใดๆ โดยรัฐบาลมักจะมุ่งไปที่ภาคอสังหาฯ หรือบ้านจัดสรรและอาคารชุดเป็นสำคัญ แต่ครั้งนี้ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ มีนโยบายที่เน้นส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจร้อยละ 99 คือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายของรัฐบาลมากที่สุด

      แต่แล้ว เมื่อเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ประกาศออกมา แม้จะบอกว่าเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายและช่วยเหลือประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น แต่อานิสงค์ส่วนใหญ่ก็ตกอยู่กับธุรกิจบ้านจัดสรรและอาคารชุดมากกว่า ทั้งๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการที่เข้มแข็งและจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ในขณะที่ธุรกิจรับสร้างบ้านได้รับอานิสงค์แค่ผิวๆ เท่านั้น 

      เมื่อผลออกมาอย่างนี้แล้ว ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านก็คงต้องช่วยเหลือตัวเองกันเหมือนเดิมต่อไป ตั้งสมาธิกันใหม่หันมาพัฒนาสินค้าและบริการให้มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของลูกค้าและผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” นั่นแหละดีที่สุด

      กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ครั้งใดนับตั้งแต่รัฐบาลในอดีตจนถึงรัฐบาลปัจจุบัน ภาพของธุรกิจรับสร้างบ้านก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของภาครัฐ หากจะย้อนดูว่าสาเหตุคืออะไร หนึ่งในต้นเหตุสำคัญก็มาจาก กลุ่มผู้ประกอบการเองที่หลบเลี่ยงภาษีกันมาโดยตลอด จนภาครัฐมองไม่เห็นตัวเลขของภาพรวมธุรกิจนี้ว่าเป็นเท่าไร ที่กล่าวว่าหลบเลี่ยงนั้นมีทั้งประเภท ไม่จดทะเบียนนิติบุคคล และที่จดทะเบียนแต่ก็ไม่แสดงและส่งงบการเงิน มีทั้งประเภทส่งงบการเงินแต่หลบเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มและไม่ลงรายได้ตามจริง ฯลฯ สารพัดวิธีที่งัดออกมาใช้เพื่อจะไม่จ่ายภาษีให้รัฐ 

      เมื่อ 10 ปีก่อน ผู้เขียนเองเคยหารือและขอให้ผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจนี้หันมาปฏิบัติเรื่องภาษีให้ถูกต้อง พร้อมทั้งแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างว่าการเสียภาษี ไม่ได้เสียเปรียบเสมอไปในแง่ของการแข่งขัน และการเสียภาษีของบรรดาผู้ประกอบการ ก็จะสะท้อนตัวเลขที่เป็นจริงของภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ในวันข้างหน้า หากว่าจะมีการเสนอหรือเจรจากับภาครัฐเมื่อยามที่เศรษฐกิจมีปัญหา เหมือนเช่นภาคอสังหาฯ 

      ณ เวลานั้นก็มีการหารือและขอร้องกันว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมและขอเวลาปรับตัวก่อนระยะหนึ่ง แต่เชื่อหรือไม่ว่า วันนี้ ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการก็ยังหลบเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่เหมือนเดิม เช่นนี้แล้ว ท่านๆ จะออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยโน่นช่วยนี่โดยไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือ คิดใหม่ ทำใหม่ กันได้แล้วนะครับ

 
นายสิทธิพร สุวรรณสุต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร