ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวประชาสัมพันธ์
Line
11 เม.ย.2559

พีดี เฮ้าส์ ชูบ้านโครงสร้างเหล็กรุกตลาด ยึดหัวหาดผู้นำนวัตกรรมรับสร้างบ้าน

Line
ความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศในปี 2558 ส่งผลกระทบต่อการธุรกิจต่างๆ ทั้งใหญ่และเล็ก  ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคการค้า  โดยในภาคธุรกิจรับสร้างบ้านนั้น สมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Builders Association : THBA) ได้เปิดเผยถึงปริมาณและมูลค่าตลาด “รับสร้างบ้าน” ทั่วประเทศในปี 2558 ว่าลดลงเหลือเพียง 1.3 หมื่นล้านบาท หรือกว่า 4.6 พันหน่วย (เฉลี่ยหน่วยละ 2.8-2.9 ล้านบาท) ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการประมาณการเมื่อช่วงต้นปี 2558 ที่ว่า ตลาดรับสร้างจะมีมูลค่าประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท โดยคิดเป็นมูลค่าที่ปรับตัวลดลงเกือบ 20%
 
เชื่อตลาดรับสร้างบ้านปี’59 ฟื้น
นายพิศาล  ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า แม้ตลาดรับสร้างบ้านในช่วงสองเดือนแรกปี 2559 นี้จะยังไม่คึกคักเท่าที่ควร แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวของตลาดต่างจังหวัด ตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2558 สืบเนื่องจากความชัดเจนของนโยบายภาครัฐ ด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบกับราคาวัสดุก่อสร้างไม่มีการปรับขึ้นราคา ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเองก็ไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาบ้าน ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นและกล้าตัดสินใจสร้างบ้านมากขึ้น หลังจากที่ชะลอการตัดสินใจมาพักใหญ่
ทั้งนี้ การฟื้นตัวดังกล่าวได้ส่งผลต่อเนื่องมาในปี 2559  ดูได้จากยอดขายของบริษัทฯ ในช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ. 59) ของไตรมาสแรก โดยบริษัทฯ มียอดขายประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งได้มาจากงานมหกรรมสร้างบ้านและวัสดุก่อสร้าง 2559 (THBF 2016) ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้  ณ อิมแพค เมืองทองธานี ประมาณ 200 ล้านบาท และเป็นยอดขายหลังงานอีกประมาณ 100 ล้านบาท ทำให้คาดการณ์ว่ายอดขาย ณ สิ้นไตรมาสแรกน่าจะอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท เจากเป้ายอดขายรวมทั้งปีที่ตั้งไว้ 1,400 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 400 ล้านบาทเศษต่อไตรมาส
สำหรับไตรมาส 2  คาดว่าตลาดรับสร้างบ้านจะยังคงมีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง หากไม่มีปัจจัยลบรุนแรงอย่างความไม่สงบทางการเมือง มาฉุดความเชื่อมั่นของประชาชน นอกจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อแล้ว บริษัทฯ เองก็ต้องมองหานวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยกระตุ้นตลาดและกำลังซื้ออีกทางหนึ่งด้วย
 
**“บ้านโครงสร้างเหล็ก” กลยุทธ์รุกตลาด  
หลังจากที่บริษัทฯ ได้ศึกษาและพัฒนา PD Steel House หรือระบบบ้านโครงสร้างเหล็กแบบ Wall Frame จนได้คุณภาพเป็นที่น่าพอใจแล้ว ก็จะเริ่มรุกตลาดอย่างจริงจังในปี 2559 นี้ เนื่องจากมองเห็นว่าแนวโน้มการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในอนาคต ระบบนี้จะได้รับความนิยมและเข้ามาแทนระบบก่อสร้างบ้านแบบเดิมๆ มากขึ้น ทั้งจากผู้บริโภคและผู้ประกอบการในแวดวงธุรกิจสร้างบ้าน เนื่องจากมีข้อดีหลายประการที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ทั้งนี้ระบบบ้านโครงสร้างเหล็กแบบ Wall Frame เป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ แต่คนไทยเพิ่งเป็นที่สนใจเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งก็ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เนื่องจากผู้ประกอบที่ผลิตและนำโครงสร้างเหล็กในระยะแรกๆ ขาดประสบการณ์และไม่มีบริการที่ครบวงจร ที่สำคัญไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการสร้างบ้านที่แท้จริง ส่งผลให้บ้านเกิดปัญหาในระยะยาว เช่น เกิดรอยแตกของวัสดุผนัง ฯลฯ  
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปีแรกนี้ไว้จำนวน 100-120 หลัง มูลค่าประมาณกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขที่ตั้งเป้ายอดขายไว้อาจไม่สูงมากนัก ด้วยเพราะเห็นว่าเป็นผลิตภัณฑ์หรือสินค้าใหม่           
 
**เปิดข้อดี PD Steel House
กล่าวถึง ระบบบ้านโครงสร้างเหล็กแบบ Wall Frame ของพีดีเฮ้าส์ นั้นเป็นเหล็กไฮเทนไซด์จากประเทศสวีเดน มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ  สามารถรับแรงดึงสูง ทำให้ปลอดภัยแม้เกิดแผ่นดินไหว พร้อมเคลือบสารป้องกันสนิม มีน้ำหนักเบากว่าบ้านโครงสร้างคอนกรีตถึง 20% แต่มีความแข็งแรงสูง สามารถรับน้ำหนักในแต่และจุดได้ประมาณ 7-8 ตัน แตกต่างจากบ้านโครงเหล็กที่ประกอบและวางขายอยู่ทั่วไป ซึ่งใช้เหล็กรูปพรรณที่เกิดสนิมได้ง่าย
ในส่วนของวัสดุที่นำมาใช้ก่อสร้างเป็นผนังบ้าน ร่วมกับโครงสร้างเหล็กมีชนิดและจำนวนวัสดุถึง 5 ชั้น เริ่มจากภายในออกสู่ภายนอก ประกอบด้วย แผ่นยิปซัมหนา 12 มิลลิเมตร ตามด้วยฉนวนกันความร้อนเส้นใยแร่ ของผู้ผลิตร็อควูล จากนั้นปิดด้วยแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ และหุ้มด้วยแผ่นป้องกันความชื้น ปิดด้วยแผ่นไฟเบอร์ซิเมนต์กรุผิวอีกชั้นหนึ่ง เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าบ้านจะมีความแข็งแรง และคงทนต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ในส่วนของขั้นตอนการประกอบโครงเหล็ก ทั้งหมดใช้สกรูยึดแทนการเชื่อมไฟฟ้า เพื่อป้องกันการเกิดสนิทอีกทางหนึ่ง ส่งผลให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยบริษัทฯ รับประกันโครงสร้างนานถึง 20 ปี ในส่วนของระยะเวลาการก่อสร้างก็ใช้เวลาเพียง 3-6 เดือน (ตามขนาดบ้าน) ช่วยลดจำนวนการใช้แรงงาน เนื่องจากเป็นระบบประกอบในสถานที่ก่อสร้างเช่นเดียวกับพรีแฟบ อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนแบบบ้านได้ตามความต้องการของลูกค้าอีกด้วย
ปัจจุบัน พีดีเฮ้าส์ ถือเป็นผู้ให้บริการสร้างบ้านที่มีระบบก่อสร้างถึง 3 ระบบคือ 1.ระบบบ้านโครงสร้างเหล็ก 2.ระบบพรีแฟบหรือเสา-คานสำเร็จรูป และ 3.ระบบคอนกรีตหล่อในที่ ซึ่งสามารถตอบสนองพฤติกรรมและรสนิยมของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ
 
พร้อมเดินหน้าพัฒนาต่อเนื่อง
บริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัว PD Steel House หรือระบบบ้านโครงสร้างเหล็กแบบ Wall Frame อย่างเป็นทางการในงาน THBF 2016 โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีลูกค้าสนใจและทำสัญญาจำนวน 4 หลัง มูลค่ารวมประมาณ 12 ล้านบาท โดยขนาดบ้านและพื้นที่ใช้สอยเฉลี่ยอยู่ที่ 80-180 ตร.ม.
นายพิศาลกล่าวว่า  ปัจจุบันบริษัทฯ มีแบบบ้านโครงสร้างเหล็กจำนวน 20 แบบ อยู่ระหว่างออกแบบใหม่เพิ่มอีก 8 แบบ ระดับราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ใช้สอย 60-100 ตร.ม. โดยกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ก็มีทั้งผู้บริโภคที่ต้องการสร้างไว้เพื่ออยู่อาศัยถาวร กลุ่มที่สร้างไว้เป็นบ้านพักผ่อนหลังที่ 2 ในต่างจังหวัด และกลุ่มนักลงทุนหรือเจ้าของรีสอร์ตที่ต้องการงานก่อสร้างที่รวดเร็ว โครงสร้างมั่นคงแข็งแรง และมีอายุการใช้งานยาวนาน โดยเฉพาะสถานที่ก่อสร้างที่อยู่ในเขตภูเขาสูง หรือเส้นทางขนส่งเป็นถนนลาดชันมากๆ ซึ่งระบบก่อสร้างของ “PD Steel House” เหมาะอย่างมาก เพราะน้ำหนักเบา ขนย้ายสะดวก ก่อสร้างหรือติดตั้งง่าย และประหยัดค่าใช้จ่าย โดยในอนาคตบริษัทฯ จะพัฒนาให้สามารถนำระบบสาธารณูปโภคอย่าง เช่น ระบบไฟฟ้าใส่สำเร็จและกรุผนังจากโรงงาน รวมทั้งติดประตูหน้าต่างไปจากโรงงาน เพื่อให้ทำงาน ณ สถานที่ก่อสร้างเสร็จรวดเร็วที่สุด
“ช่วงแรกของการนำ PD Steel House สู่ตลาดรับสร้างบ้าน อาจต้องพยายามสร้างการยอมรับจากผู้บริโภคพอสมควร แต่บริษัทฯ ก็จะมุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้ความรู้และทำความเข้าใจต่อผู้บริโภคให้มากที่สุด เนื่องจากเรามีความมั่นใจในตัวสินค้า เพราะเหล็กที่นำมาใช้ก่อสร้างเป็นเหล็กกล้ารับแรงสูง มิใช่เหล็กรูปพรรณเหมือนบ้านโครงสร้างเหล็กทั่วไป ที่มีผู้ประกอบขายอยู่ในท้องตลาด และเชื่อว่าด้วยจุดแข็ง หรือจุดเด่นของ “PD Steel House” ที่มีอยู่หลายๆ ด้านจะสามารถทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่น และยอมรับได้ไม่ยากนัก” นายพิศาลกล่าว

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์ ที่มีสาขาให้บริการ 40 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งตัวแทนทุกสาขาพร้อมที่จะให้ข้อมูลและตอบข้อสงสัยในทุกเรื่อง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่แท้จริงให้กับทุกท่าน

 
สัมภาษณ์พิเศษ
พิศาล ธรรมวิเศษ
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
สายงานออกแบบและวิศวกรรม
บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด