พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร กล่าวว่า ภาพรวมการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวได้เพียง 2.8% โดยเป็นการขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ขยายตัวในระดับ 4.3% ต่อปี และต่ำกว่าประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ขยายตัวเฉลี่ยในระดับ 4-5%

ทั้งนี้ ปัจจัยกดดันเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันมาจากภาคการส่งออกที่ยังชะลอตัว เนื่องจากความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลงและเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าการส่งออกของไทยในปีนี้จะติดลบ 0.7% ลดลงจากปีก่อนที่ติดลบ 5.8% ขณะเดียวกันการบริโภคภาคเอกชนยังชะลอเป็นอีกปัจจัยกดดัน เพราะมีผลมาจากภาระหนี้สินครัวเรือนที่อยู่ไนระดับสูง และรายได้เกษตรกรที่ตกต่ำ รวมไปถึงผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง

ส่วนปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยที่สำคัญในปีนี้ มาจากภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุน คือการลงทุนและการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ด้านแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโนบายอยู่ที่ 1.5% ตลอดทั้งปี 2559 แต่หากภาวะเศรษฐกิจไทยแย่ลงไปกว่าที่คาดการณ์ไว้ ก็มีโอกาสที่ กนง.อาจจะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เพื่อพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ทรุดตัว

สำหรับปี 2560 มองแนวโน้มเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 3.2% โดยเป็นผลมาจากการลงทุนภาครัฐที่มีการลงทุนสูงขึ้น ขณะที่การส่งออกจะกลับมาเป็นบวกและขยายตัวได้ 0.5% ประกอบกับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวในประเทศ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็น 34.5 ล้านคน และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 2% ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ

ปิยศักดิ์ มานะสันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส หัวหน้าฝ่ายวิจัยอุตสาหกรรม ธนาคารเกียรตินาคิน กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าปีนี้จะมีการเติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว  ทั้งโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์  ปัจจัยหลักที่ทำให้โรงแรมมีการเติบโตเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น คาดว่าปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยไม่ต่ำกว่า 32 ล้านคน ส่วนปี 2560 จะเพิ่มขึ้นเป็น  34 ล้านคน และไม่ต่ำกว่า 36 ล้านคนในปี 2561 ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเลือกพักอาศัยในกลุ่มโรงแรมราคาประหยัดหรือบัดเจ็ตโฮเต็ล

ด้านจังหวัดที่มีศักยภาพในการทำธุรกิจโรงแรม คือ จังหวัดท่องเที่ยวหลักเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ ได้แก่ ภูเก็ต ชลบุรี (พัทยา) เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ตราด พังงา จังหวัดรองด้านการท่องเที่ยว เป็นที่นิยมของชาวไทย ได้แก่ นครราชสีมา เลย สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม  จังหวัดที่ได้รับแรงสนับสนุนจากกิจกรรมการค้าชายแดน ได้แก่ หนองคาย บึงกาฬ อุบลราชธานี จังหวัดที่ได้รับแรงสนับสนุนจากกิจกรรมการค้าและการผลิต ได้แก่ สระบุรี สมุทรสาคร ลำปาง ลำพูน
 
จังหวัดที่มีแนวโน้มเติบโตจากการขยายตัวของสังคมเมือง ได้แก่ พัทลุง ชัยภูมิ ลพบุรี กำแพงเพชร พะเยา พิจิตร หนองบัวลำภู ขณะที่ค่าใช้จ่ายต่อหัวต่อคนของนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 นั้น หากคิดเป็นเงินบาทต่อคนต่อวัน  โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่ที่ 5,748 บาท นักท่องเที่ยวตะวันออกกลางอยู่ที่ 5,679 บาท กลุ่มประเทศโอเชียเนีย 5,463 บาท เอเชียยกเว้นจีน  5,457 บาท  แอฟริกา 5,203 บาท สหรัฐอเมริกา 4,600 บาท ยุโรป 4,089 บาท

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการโรงแรมจะต้องระมัดระวังธุรกิจผิดกฎหมาย คือ คอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์ให้เช่าที่ผันตัวมาเป็นโรงแรม เพราะราคาเสนอขายอาจจะถูกกว่าแต่ไม่ได้มีการจดทะเบียนให้ถูกต้อง

นอกจากนี้ นโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เช่น รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ทำให้กลุ่มอพาร์ตเมนต์สำหรับพนักงานบริษัททั่วไปตามแนวรถไฟฟ้าขยายตัวดีขึ้น เช่น รัชดาฯ-พระราม 9 อนุสาวรีย์ เป็นต้น รวมทั้งการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ทำให้ธุรกิจขยายตัวและนักลงทุนจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ที่ใช้ไทยเป็นฐานในการขยายการลงทุน ความต้องการอพาร์ตเมนต์ของชาวต่างชาติมากขึ้น

ขณะที่ตลาดเช่าที่ต้องระมัดระวัง คือ หอพักนักศึกษา เพราะแนวโน้มจำนวนนักศึกษามีจำนวนลดลงตามโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไป แต่จังหวัดที่ยังขยายตัวได้ คือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยขอนแก่น และในกรุงเทพฯ ย่านสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ รังสิต ส่วนย่านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ถือว่าซัพพลายเยอะและค่อนข้างมีการแข่งขันสูง

เช่นเดียวกับหอพักคนงานที่ปัจจุบันอุตสาหกรรมมีการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ความจำเป็นการใช้แรงงานลดลง การย้ายฐานการผลิตความต้องการแรงงานลดลง อาจจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มหอพักคนงาน แต่ยังมีโอกาสในจังหวัดศักยภาพ เช่น ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และนครราชสีมา เป็นจังหวัดที่คนงานและพื้นที่โรงงานยังขยายตัวต่อเนื่อง

จากภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ เพื่อเช่า จึงยังมีแนวโน้มโตทั้งในแหล่งงานและแหล่งท่องเที่ยว

 

ที่มา : posttoday.com
( วันที่ 25 พฤกษภาคม 2559 )