29 ส.ค.2559
สิงหาคม 2559
สวัสดีครับ แฟนๆ ผู้อ่านทุกท่าน สำหรับในเดือนสิงหาคมปีนี้ มีเหตุการณ์หลายๆ เรื่องที่มีทั้งลุ้นแบบตื่นเต้นและลุ้นระทึก ไล่เรียงกันตั้งแต่ผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็เป็นที่รับรู้โดยทั่วกันแล้วว่ากรรมการหรือเสียงส่วนใหญ่ก็คือประชาชนตัดสินให้ “4 ผ่าน” (ขออนุญาตใช้คำเหมือนรายการวาไรตี้โชว์ดังทางทีวี) นั่นก็หมายถึงว่ารัฐบาล คสช. ก็ต้องเร่งเครื่องเดินหน้าผลักดันการร่างกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฏหมายลูก เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่สากลยอมรับ และตามโรดแมปที่ประกาศไว้ราวๆ ช่วงปลายปี 2560 หรือไม่เกินต้นปี 2561
อีกเหตุการณ์ที่คนไทยต่างเฝ้าลุ้นอย่างตื่นเต้นก็คือ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 31 ณ นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยทัพนักกีฬาไทยก็ทำให้คนไทยได้มีความสุขใจกันทั่วหน้าเมื่อสามารถคว้ามาได้ทั้งเหรียญทอง เงิน และทองเดงในหลายๆ ประเภทกีฬา หักปากกาเซียนนักวิจารณ์ต่างชาติซะหลายคน นั่นเป็น 2 เหตุการณ์ที่คนไทยส่วนใหญ่โล่งอกและดีใจ แต่สำหรับเหตุการณ์ระเบิดป่วนเมืองที่เกิดขึ้นใน 7 จังหวัดภาคใต้ และอีกหลายๆ แห่งในย่านชานเมืองกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยว (ที่ระเบิดทำงานและเก็บกู้ทัน) หลังผ่านการลงประชามติเพียงแค่สัปดาห์เดียว โดยเฉพาะเหตุระเบิดที่อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ได้สร้างความตระหนกตกใจแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ จนเป็นผลให้ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และโรงแรมที่พักเงียบเหงาอย่างทันทีทันใจ
หากท่านผู้อ่านยังจำกันได้ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วก็มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นเช่นกัน ที่บริเวณศาลพระพรหม ราชประสงค์ พื้นที่เศรษฐกิจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งส่งผลสะเทือนทั้งต่อความมั่นคงและภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะภาคธุรกิจรับสร้างบ้านและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปักหลักและแข่งขันกันอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นส่วนใหญ่ อาจเรียกได้ว่า สะดุดหัวทิ่มไปตามๆ กัน นั่นเพราะในเดือนสิงหาคมของทุกปี บรรดาผู้ประกอบการจะรวมตัวกันจัดกิจกรรมการตลาด ในรูปแบบงานอีเวนต์หรืองานแสดงสินค้า เพื่อสร้างการรับรู้และปั้นตัวเลขยอดขาย แต่เหตุระเบิดก็ทำเอาการจัดงานกร่อยลงถนัดตา
นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อนโดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน พอมาปี 2559 นี้ก็มีเหตุระเบิดซ้ำ 2 ขึ้นอีกครั้งก่อนวันจัดงานแสดงสินค้าเพียงสัปดาห์เดียว จริงอยู่ที่เหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นใน 7 จังหวัดภาคใต้หรือต่างจังหวัด แต่ดูเหมือนว่าเสียงและภาพเหตุระเบิดจากสื่อออฟไลน์และออนไลน์ จะช่วยกันกระพือให้เสียงระเบิดดังมาไกลถึงคนกรุงเทพฯ ที่มีความอ่อนไหวต่อเหตุการณ์สูงมาก และก็เป็นอะไรที่ส่งผลกระทบต่องานแสดงสินค้าและภาคธุรกิจรับสร้างบ้านเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว.. เหนื่อยกันทั่วหน้าอีกแล้ว
ผู้เขียนเอง ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับสื่อสิ่งพิมพ์สำนักหนึ่งหลังเหตุการณ์ระเบิด ซึ่งถูกถามว่าจะปรับตัวเลขประมาณการมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านและแผนธุรกิจในปีนี้อย่างไร ทั้งนี้ก็ได้เรียนว่าเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจทันที โดยขอประเมินสถานการณ์อีกครั้งหลังสิ้นไตรมาสสามนี้ อย่างไรก็ดี ณ ขณะนั่งปั่นต้นฉบับอยู่นี้ เริ่มจะเห็นภาพแนวโน้มและทิศทางตลาดรับสร้างบ้านบ้างแล้ว ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าผู้ประกอบการรับสร้างบ้านรายใด จะสามารถปรับตัวหรือปรับกลยุทธ์แข่งขัน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและกำลังซื้อผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่มีอยู่จำกัดได้ดีกว่ากัน ที่แน่ๆ ผู้ประกอบการมองสถานการณ์ตลาดติดลบเช่นนี้ แต่สำหรับผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อตัวจริงเสียงจริง ดูจะเป็นเรื่องตรงข้ามกัน เพราะหากตัดสินใจสร้างบ้าน ณ ช่วงเวลานี้ บรรดาผู้ประกอบการก็จะประเคนให้ทั้งส่วนลดและของแถมมากมาย อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นไปตามกลไกของตลาดหรือดีมานด์และซัพพลาย แต่ยังไงก็อย่าตัดสินใจเลือกด้วยเหตุผลดังกล่าวเท่านั้นนะครับ ลองคลิ๊กอ่านเหตุผลอื่นๆ ดูครับ.. http://goo.gl/hBfhtv
นายสิทธิพร สุวรรณสุต
ซีอีโอ พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น
ซีอีโอ พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น