ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
28 ก.ย.2559

สินเชื่อแบงก์ส่อต่ำกว่าเป้า แห่คืนเงินกู้-เงินฝากชะลอ

Line
     
 
        ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปข้อมูลสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2559 มีเงินให้สินเชื่อสุทธิปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3.6 พันล้านบาท จากเดือนก่อน สู่ระดับ 10.425 ล้านล้านบาท โดยการขยับขึ้นของสินเชื่อกระจายในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ นำโดยสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายใหญ่ และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่เติบโตสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของยอดที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2559 แม้ว่าการทยอยชำระคืนสินเชื่อภาครัฐอย่างต่อเนื่องยังคงกดดันภาพการเติบโตของสินเชื่อโดยรวม อย่างไรก็ดี ตัวเลขภาพรวมสินเชื่อทั้งระบบเติบโตชะลอลงมาที่ระดับ 1.85% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ -0.43% เทียบกับสิ้นปีก่อน (YTD) เนื่องจากผลของฐานเปรียบเทียบที่สูงในปีก่อน

       ด้านเงินฝากปรับลดลงต่อเนื่อง 8.9 พันล้านบาท จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 11.216 ล้านล้านบาท เติบโตชะลอลงมาที่ระดับ 2.15% YoY และ 0.18% YTD โดยยังได้รับผลกระทบจากการครบกำหนดของเงินฝากประจำและเงินฝากประจำแบบพิเศษในบางธนาคาร ท่ามกลางการบริหารจัดการต้นทุนและสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ ขณะที่การปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากลงจาก 25 ล้านบาทสู่ 15 ล้านบาท ต่อรายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน ที่บังคับใช้ในวันที่ 11 สิงหาคม 2559 นั้น ไม่ได้ส่งผล กระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนย้ายเงินฝากของกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง เนื่องจากผู้ฝากเงินบางส่วนมีการรับรู้และปรับตัวล่วงหน้าไปแล้ว

        ทั้งนี้ โดยรวมอัตราการขยายตัวของ สินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา มีทิศทางชะลอตัวกว่าที่คาด จากแรงกดดันของการชำระคืนหนี้ภาครัฐเป็นสำคัญ ซึ่งมีผลให้ภาพรวมสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ ณ สิ้นปีนี้ อาจโตต่ำกว่าที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดไว้ที่ระดับ 4.0% และต่ำกว่า 3.95% ณ สิ้นปี 2558 ขณะที่ยังคงต้องจับตาแรงกดดันจากการชำระคืนสินเชื่อภาครัฐในช่วงที่เหลือของปี เพราะอาจจะลดทอนโมเมนตัมการเติบโตของสินเชื่อประเภทอื่นที่มีโอกาสเติบโตได้ในระดับที่สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรายย่อยที่นำโดยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งน่าจะได้รับอานิสงส์จาก การเร่งโอนกรรมสิทธิ์ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อบัตรเครดิต ที่จะเข้าสู่ฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยในช่วงท้ายปี ขณะที่สินเชื่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อเงินทุนหมุนเวียน และสินเชื่อเพื่อการส่งออก มีโอกาสเติบโตได้ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และธุรกิจขนาดใหญ่

        ซึ่งแนวโน้มการชะลอตัวของสินเชื่อ ทำให้การแข่งขันด้านเงินฝากลดความรุนแรงลงเป็นลำดับ แม้จะยังมีการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษเป็นระยะ เพื่อรองรับการครบกำหนดของเงินฝากพิเศษเดิม แต่ด้วยเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจากระยะก่อนหน้า ทำให้ลดแรงจูงใจของผู้ออมในการฝากเงินเพิ่มเติม และคงทำให้ผู้ออมบางกลุ่มยังพิจารณาทางเลือกการออมใหม่ๆ ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า และซื้อผลิตภัณฑ์ที่ช่วยประหยัดภาษีจากปัจจัยด้านฤดูกาลในช่วง ท้ายปีด้วย ซึ่งในภาพรวมแล้วคงทำให้สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
 
ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
( วันที่ 27 กันยายน 2559 )