คุณสมคิด - คุณพจนา ร่มโพธิ์ทอง
แบบบ้าน WA-155

เปิดบ้านหลังใหญ่ อดีตรองนายกเทศมนตรี

Line
ภาพนี้ถูกบันทึกและเผยแพร่ ก่อนวันที่ 1 มิ.ย. 2565
 

          เมื่อคุณมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน การสร้างบ้านสักหลังไว้เป็นรากฐานให้กับลูกๆ เป็นสิ่งที่หลายๆ คนวาดฝันเอาไว้ แต่การจะสร้างบ้านสักหลังไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะการใช้บริการกับผู้รับจ้างสร้างบ้านท้องถิ่น ส่วนใหญ่มักพบกับปัญหาทิ้งงาน ราคาแพง และบ้านขาดมาตรฐาน แต่ถ้าเราทำการศึกษาหาข้อมูลก่อน เลือกบริษัทที่มีมาตรฐาน มีความทันสมัย มีการบริการที่ดี และฟังเสียงผู้บริโภค เราก็จะได้บ้านที่ตรงกับความต้องการเหมือนกับครอบครัว “ร่มโพธิ์ทอง”

         สมคิด ร่มโพธิ์ทอง จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สาขาการการบัญชี และเข้าทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บัญชี ที่บริษัทผลิตสุราแห่งหนึ่ง จากนั้นได้ย้ายมาทำงานที่สำนักงานบัญชี เป็นระยะเวลากว่า 7 ปี ก่อนตัดสินใจลาออกมาทำงานด้านบัญชีที่บ้าน พร้อมเปิดสำนักงานบัญชีที่จังหวัดราชบุรีตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา

          ด้าน พจนา  ร่มโพธิ์ทอง (ภรรยา)จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎจอมบึง จากนั้นได้เดินทางไปประเทศอังกฤษ เนื่องจากพี่สาวได้เปิดร้านอาหารที่นั่น  และเดินทางกลับมาศึกษาต่อระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สาขารัฐศาสตร์ ก่อนผันตัวเองเข้าสู่ถนนการเมืองเมื่อปี 2545 จนกระทั่งได้รับตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี อำเภอเมืองราชบุรี เมื่อปี 2549 อยู่ในวาระ 4 ปี ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยทั้งคู่มีบุตรสาว 2 คนคือ นส.รัฐธิดาพร ร่มโพธิ์ทอง อายุ 19 ปี และด.ญ.ณัฐชาพรรณ ร่มโพธิ์ทอง อายุ 14 ปี

           สมคิด ร่มโพธิ์ทอง เปิดบ้านหลังใหญ่ต้อนรับทีมงาน “DROOM” ก่อนเปิดเผยถึงที่มาที่ไปของบ้านหลังดังกล่าวว่า บ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านหลังแรก แต่เป็นบ้านหลังที่ 3 แล้ว ซึ่งบ้านหลังแรกที่มีนั้น เป็นทาวน์เฮาส์ในโครงการจัดสรรขนาดพื้นที่ 25 ตารางวา แรกๆ ก็สะดวกสบายดีแต่พอมีลูก เราก็รู้สึกว่ามันคับแคบเกินไป พื้นที่ใช้สอยก็มีน้อย ทำให้มีความคิดที่จะเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ จึงตัดสินใจขายทาวน์เฮาส์และได้ซื้ออาคารพาณิชย์ขนาด 2 ชั้นครึ่ง บริเวณถนนมนตรีสุริยวงศ์ ต่อมาได้จัดพื้นที่ชั้นล่างเปิดเป็นสำนักงานบัญชีด้วย เพราะว่าตนเองได้ลาออกจากงานมาเปิดสำนักงานบัญชีเอง

 

          อย่างไรก็ตามเมื่อที่อยู่อาศัยกลายเป็นที่ทำงาน ความเป็นส่วนตัวก็ลดลง พื้นที่ใช้สอยก็ลดลง ความมีอิสระก็มีน้อย ความคิดที่จะมีบ้านหลังที่ 3 ก็เกิดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้คงไม่เลือกโครงการจัดสรร เพราะที่ผ่านมาการอยู่ในโครงการบ้านจัดสรร มันเหมือนถูกบังคับในเรื่องของพื้นที่ รวมถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ มากมาย ตนเองและภรรยาก็อยากได้บ้านที่ตรงกับความรู้สึกของตนเองด้วย นอกจากนี้ยังมองว่าการสร้างบ้านไว้ จะเป็นเหมือนการสร้างรากฐานไว้ให้กับลูกๆ และเมื่อโอกาสมาถึงและพร้อมแล้ว จึงตัดสินใจที่จะสร้างบ้านหลังนี้ ซึ่งที่ดินผืนนี้ได้ซื้อไว้เมื่อปี 2549  “บ้านสร้างเอง สามารถปรับแบบได้ตรงตามความต้องการ และแม้ว่าบ้านจัดสรรจะราคาถูกกว่าก็จริง แต่วัสดุที่ใช้ก็ไม่ค่อยมีมาตรฐานเท่าไร นอกจากนี้บ้านจัดสรรในจังหวัดราชบุรีก็มีตัวเลือกค่อนข้างน้อย และส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น”

 

          เมื่อเลือกที่จะสร้างบ้านเองแล้ว “จะให้ใครจะมาสร้างดีล่ะ” มันเป็นความคิดที่ผุดขึ้นมาในสมองทันที เพราะที่เห็นอยู่ก็เป็นผู้รับเหมาท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะพบกับปัญหาในเรื่องของการวางระบบระบายน้ำ ราคาที่ค่อนข้างแพงและส่วนใหญ่จะทิ้งงานกลางคัน งบประมาณบานปลาย และมีปัญหาในเรื่องของคุณภาพของบ้าน เมื่อเราพบว่าการใช้บริการกับผู้รับเหมามักเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา การเลือกหาบริษัทรับสร้างบ้านทาง Internet จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ก็พบว่าส่วนใหญ่บริษัทรับสร้างบ้านจะอยู่ในเขตกรุงเทพฯ จนมาสะดุดที่ บริษัทพีดี เฮ้าส์  เพราะเห็นว่ามีสาขาอยู่ที่นครปฐม จึงได้ศึกษาข้อมูลของบริษัท ทั้งในเรื่องของแบบบ้าน ราคา วัสดุก่อสร้าง รวมถึงความทันสมัย เช่น การเลือกใช้โครงหลังคาเหล็กกันสนิมอีซี่ทรัส และเมื่อเปรียบเทียบกันก็จะพบว่า พีดี เฮ้าส์ ดีกว่าและล้ำหน้ามากกว่าบริษัทอื่นๆ จึงตัดสินใจโทรติดต่อไปสอบถามเพิ่มเติม ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ให้คำแนะนำและพาไปชมผลงานสร้างบ้านลูกค้าของบริษัทฯ ซึ่งตรงกับใจเราเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของรายละเอียด การฉาบผนังมีความละเอียดและปราณีต มีบริการก่อนการขาย รวมถึงมีการรับประกันที่ยาวนาน

          รู้สึกอย่างไรกับ พีดี เฮ้าส์และบ้านหลังนี้ พจนา  ร่มโพธิ์ทอง (ภรรยา) กล่าวอย่างภาคภูมิใจเลยว่า โชคดีได้ พีดีเฮ้าส์ มาดูแลและสามารถสร้างบ้านได้สมความตั้งใจ ได้บ้านตรงตามความต้องการ ให้บริการที่เสมอต้นเสมอปลาย สิ่งไหนไม่ชอบเมื่อบอกไปก็จัดการแก้ไข ซึ่งนับเป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่ฟังผู้บริโภค ทำให้เรารู้สึกภาคภูมิใจกับบ้านหลังนี้ เพราะเป็นบ้านสร้างเองหลังแรกที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรง ของครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง ซึ่งใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปีเศษ โดยเป็นบ้านสไตล์ Modern Contemporary พื้นที่ใช้สอย 470 ตารางเมตร มีมุมพักผ่อนและสวนด้านหน้าที่ให้ความรู้สึกร่มรื่นอบอุ่น เป็นธรรมชาติ และมีสระว่ายน้ำ โดยสร้างเสร็จและย้ายเข้าอยู่เมื่อเดือนมกราคม 2554 ที่ผ่านมา 

          พร้อมกันนี้ครอบครัว “ร่มโพธิ์ทอง” ได้ฝากถึง พีดี เฮ้าส์ ด้วยว่า อยากให้รักษาคุณภาพให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ซึ่งเดิมก็ดีอยู่แล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อลูกค้ารายใหม่จะได้รับความพึงพอใจมากขึ้นไปอีก สำหรับผู้ที่สนใจอยากสร้างบ้านในตอนนี้ บอกได้เลยว่า พีดีเฮ้าส์ เหมือนคนในครอบครัว ยอมรับฟังในทุกๆ เรื่อง และสามารถทำได้ตามที่เราต้องการ และได้บ้านที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังไม่เอาเปรียบผู้บริโภคอีกด้วย เพราะบริษัทจะรายงานการทำงานอยู่ตลอดเวลา โดยที่เราไม่ต้องเข้าไปตรวจสอบเองบ่อยๆ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของ พีดีเฮ้าส์ จะเข้ามาตรวจสอบการทำงานก่อนทุกครั้ง ซึ่งนั่นส่งผลให้งานที่ออกมาเรียบร้อยมีมาตรฐาน ทำให้เราได้บ้านที่คุ้มค่ากับการรอคอย 

 

  • เรื่อง : กองบรรณาธิการ บ้านสุขใจ
  • ภาพ : บ้านสุขใจ
  • เจ้าของ : คุณสมคิด - คุณพจนา ร่มโพธิ์ทอง
  • แบบบ้าน : WA-155
  • รางวัลที่บ้านนี้เคยได้รับ : -
  • ออกแบบ : บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
  • ก่อสร้าง : ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์