คุณดิษพล ศรีศรัทธา
แบบบ้าน 2 ชั้น (แบบพิเศษ)

"บ้านที่เกิดจากความรักและการอยู่ร่วมกัน ของครอบครัว ศรีศรัทธา"

Line
ภาพนี้ถูกบันทึกและเผยแพร่ ก่อนวันที่ 1 มิ.ย. 2565

คุณดิษพล ศรีศรัทธา รองผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท เอฟ เอส เค (ไทยแลนด์) จำกัด
สถานที่ปลูกสร้าง เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร


เจ้าของบ้าน คุณดิษพล ศรีศรัทธา รองผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท เอฟ เอส เค (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ที่รักและชื่นชอบในการเดินทาง สะสมของแต่งบ้าน งานศิลปะและการเลี้ยงปลา จนสามารถนำทุกๆอย่างที่ตนรักมาผสมผสานเข้ากับการแต่งบ้าน ในรูปแบบที่โปร่งโล่ง เป็นระเบียบสะอาดตา ดังที่สมาชิกทั้ง 4 คนในครอบครัวซึ่งประกอบไปด้วยคุณแม่และลูกๆวัยรุ่นพึงพอใจ

ห้องโถงแบบดับเบิลสเปซ ฝ้าเพดานที่สูงจรดชั้น 2   ทำให้เกิดโถงโล่งไม่อึดอัด พื้นกระเบื้องคริสตัลไวท์จากอิตาลียิ่งทำให้ดูกว้างขวางสะอาดเรียบร้อย ผนังใช้กระเบื้องชนิดเดียวกันแต่เล่นแพทเทิร์นเปลี่ยนขนาดจัดว่างเล่นมิติ ปูหินอ่อนหน้ากระแทกให้เกิดพื้นผิวหยาบที่ผนัง ดูมีชีวิตชีวาเป็นธรรมชาติไม่แข็งกระด้าง เติมพื้นที่ว่างใต้บันไดด้วยปลาพะยูนแกะสลักของสะสมจากไม้เทพทาโรซึ่งเป็นไม้หอมหายาก(หินอ่อน ตร.ม.ละ 5,000 บาท ,ปลาพะยูน 2 ชุด ราคา 80,000 บาท)
 
    

ในมุมหนึ่งของโถงที่โล่งถูกดึงความสนใจด้วยชุดโต๊ะน้ำชา ลงรักฝังมุกจากเวียดนาม ตัดกับวัสดุส่วนใหญ่ที่เป็นสีขาวและดิสเพลย์ลูกกอล์ฟสะสมที่ทำหน้าที่เป็นสมุดบันทึกการเดินทางในทุกครั้งที่คุณดิษพลไปต่างประเทศ

โปร่งสบาย 

“บ้านเป็นเหมือนทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกความรู้สึกให้เราหวนคิดถึงและอยากกลับมาพักผ่อน” จากบ้านเดิมที่ดูค่อนข้างทึบทึมจากการใช้ไม้เป็นส่วนตกแต่งหลัก มาสู่ส่วนของบ้าน 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 480 ตร.ม. ที่ต่อเติมใหม่ คุณดิษพลออกไอเดียในการสร้างห้องโถงชั้นล่างให้สูงโปร่งด้วยการทำประตู- หน้าต่าง กระจกบานใหญ่ ใช้เส้นสายน้อย ดูเรียบร้อย ความโล่งนั้นเป็นแบ็คกราวน์ที่ดีสำหรับการจัดวางองค์ประกอบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเรือนแบบลอยตัว โคมไฟ และงานศิลปะให้อยู่อย่างเป็นที่เป็นทาง   เฟอร์นิเจอร์ บิวท์อินโดยทั่วไปเป็นไม้อัดพ่นสีขาว เพื่อทำให้บรรดาตู้และชั้นเก็บของดูกลืนไปกับผนังบ้าน ห้องโถงและห้องนั่งเล่นถูกเชื่อมด้วยบานพับไม้พ่นสีขาวเปิดปิดได้ตามความต้องการ เพิ่มพื้นที่ของบ้านให้ดูกว้างขวางและเป็นส่วนตัว

สุดปลายห้องโถงหยุดสายตาด้วย Aquarium ขนาดใหญ่ ในห้องรับประทานอาหารตั้งโต๊ะและเก้าอี้หนังสีแสด การเติมพื้นที่สีขาว- ดำของบ้านด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์สีสดเพียงน้อยชิ้นก็บอกได้ถึงรสนิยมและตัวตนได้อย่างเพียงพอแล้ว จากโถงสูงที่ดูโปร่งจะดูเป็นกันเองมากขึ้นในส่วนของห้อง Living room ด้วยการลดระดับฝ้าเพดานลงมา แต่ยังคงโปร่งด้วยช่องเปิดหน้าต่างบานเฟี้ยมกระจกกรอบไม้ปิดเปิดเชื่อมให้ 2 ห้องเกิดความไหลลื่นต่อเนื่อง


เป็นสัดเป็นส่วน

บ้านถูกแบ่งอย่างเป็นสัดส่วน โดยชั้นแรกเป็นส่วนของห้องโถงพื้นกระเบื้องสีขาว เชื่อมพื้นที่ต่อเนื่องไปยังห้องนั่งเล่นสไตล์โมเดิร์นบนพื้นไม้ยกระดับ ห้องครัวและส่วนเซอร์วิสถูกกั้นบังด้วยผนังกรุหินอ่อนชั้น 2 ดูโดดเด่นเรียบง่ายด้วยพื้นและเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก บันได เล็กๆบนชั้น 2 ทำหน้าที่เป็นทางเชื่อมสู่บ้านหลังเก่า    “ผมไม่อยากตัดขาดจากบ้านหลังเดิม ของใช้ของสะสมส่วนใหญ่ก็อยู่ที่บ้านหลังเก่า   การออกแบบในบ้านหลังปัจจุบันนี้    การแบ่งพื้นที่เป็นสัดเป็นส่วน มีส่วนช่วยอย่างมากในการทำให้บ้านดูเป็นระเบียบ สิ่งของถูกจัดเก็บไว้ตามตู้ที่ดูกลมกลืนกับผนัง ทำให้ไม่รกและเกะกะ”

ที่บ้านโล่งได้เพราะมีที่เก็บของเพียงพอ จึงมีตู้เก็บของเฉพาะในแต่ละพื้นที่ เพื่อที่จะหยิบใช้สอยได้สะดวก บานตู้เรียบอาจดูน่าเบื่อจึงเจาะช่องผนังเป็นบานตู้เก็บของเล็กๆน้อยๆ การเพิ่มเส้นสายให้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินทำให้ห้องไม่ดูเรียบจนเกินไป พื้นที่ข้างบันไดก็ไม่ได้ถูกมองข้าม เพิ่มลูกเล่นด้วยมิติหน้าบานตู้เก็บหนังสือหรือวางข้างของชิ้นเล็กๆ

พื้นที่ส่วนเซอร์วิสด้านหลังนอกเหนือจากห้องเก็บของด้านในแล้ว ยังมีตู้เก็บของสูงประมาณ 2 เมตร ไว้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดและเครื่องมือช่างขนาดใหญ่ มีบานเลื่อนกระจกฝ้าเลื่อนเปิดปิดได้สะดวก ที่สำคัญทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย

ส่วนของบ้านเก่าและปีกของบ้านหลังใหม่ ต่อเนื่องเชื่อมโยงที่อยู่ภายใต้พื้นที่เดียวกัน เลือกที่จะใช้กระจกใสเพื่อความโปร่งและแตกต่างจากบ้านเดิมที่ใช้กระจกตัดแสงสีชาแบบทึบ แต่ยังคงความร่มรื่นด้วยการจัดสวนบนพื้นที่เล็กๆข้างบ้าน

ด้านข้างประตูทางเข้าบ้านมีพื้นที่ใช้งานเล็กๆเพื่อนั่งเล่นและใส่รองเท้าก่อนขึ้นรถ แบ่งพื้นที่โถงโรงรถจัดสวนโรยหินปลูกไม้ประดับกลางแจ้งไม่มากนัก เพิ่มความสดชื่นให้กับบ้านแต่ยังคงความโปร่งโล่งรับแสงธรรมชาติทั้งหมดไปกันได้ดีกับเสาหินทรายหน้ากระแทกซึ่งให้ผิวสัมผัสที่ดูเป็นธรรมชาติกับสวนหย่อม

ในห้องน้ำเลือกใช้ผนังหินอ่อนเส้นเทาตัดกับ Top แกรนิตสีดำเกล็ดทอง คาดกรุยเชิงด้วยโมเสกขนาด 1X1 นิ้ว เคลือบผิว Metalic เพิ่มเติมความหรูหราด้วย Accessories ห้องน้ำทำ Finishing สีทองฝังคริสตัลจาก Cotto
 

ส่วนครัวหนักด้านในที่รองรับการใช้งานที่สมบุกสมบันกว่า โดยเลือกใช้ Top สีดำและปิดหน้าบานด้วยลามิเนตลายไม้สีเข้ม ทำความสะอาดง่ายกว่า แต่ยังคงเล่นลายด้วยกระเบื้องแก้วสีเขียวคละสีขนาด 1.5 X1.5 นิ้ว

ตู้ที่ต้องการเน้นจะเลือกใช้วัสดุที่ต่างออกไปอย่างไม้อัดสักหรือไม้ปุ่มมะค่า และเพิ่มสีสันให้กับห้องด้วยโคมไฟดอกไม้สีม่วงสด (โคมไฟราคาประมาณ 20,000 บาท)


วัสดุที่หลากหลาย

คุณดิษพลกล่าวว่าตนเป็นคนเบื่อง่ายจึงเลือกใช้วัสดุที่หลากหลายภายในห้องนอน วอลล์เปเปอร์สีดำลายดอกกุหลาบแวววาวนั้นดูตัดกับห้องที่โปร่งสว่าง ห้องน้ำที่หรูหราด้วยสุขภัณฑ์ประดับคริสตัล ในห้องครัวเน้นการตกแต่งด้วยกระเบื้องแก้วสีสด การเติมรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้สามารถสร้างอารมณ์ เพิ่มสีสันให้กับบ้านและไม่รู้สึกจำเจอีกด้วย

บ่อปลาลึก 1.8 เมตร กว้างตลอดแนวห้องปูกระเบื้องหินกาบสีดำ เพื่อให้ตัดกับสีสันและลวดลายสดใสของปลาคาร์พกว่า 40 ตัว ที่คุณดิษพลชื่นชอบได้แหวกว่ายอย่างสวยงาม


แรงบันดาลใจจากความชอบ

“บ้านต้องเป็นที่ที่เราอยู่แล้วสบายใจ มีแต่ของที่เราชื่นชอบ อย่างผมชอบปลา เมื่อได้นั่งเล่นมองมันว่ายไปว่ายมาแล้วรู้สึกสบายใจ เมื่อเราเข้ามาอยุ่ในบ้านก็อยากได้ความรู้สึกสบายใจในทุกๆส่วนของบ้านเช่นกัน” คุณดิษพลจึงนำสิ่งที่ตนชื่นชอบมาเป็นส่วนหนึ่งในการตกแต่งบ้าน โดยใช้พื้นที่ในส่วนของระเบียงด้านหน้าติดกับห้องนั่งเล่นทำเป็นบ่อปลาขนาดใหญ่ ในแต่ละส่วนของบ้านโดดเด่นด้วยโคมไฟนำเข้าหลากสีที่จัดวางตัดกับพื้นเพดานสีขาว ซึ่งเป็นของสะสมที่คุณดิษพลชื่นชอบอีกเช่นกัน

ถัดออกไปเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ไว้นั่งเพลิดเพลินดูปลา อ่านหนังสือ เป็นที่ที่ทุกคนในครอบครัวทำกิจกรรมตามความชอบของตัวเอง แต่ยังไม่ตัดขาดจากพื้นที่อื่นๆ นั่นเพราะบานประตูกระจกที่เชื่อมสเปซชั้นล่างให้เชื่อมโยงถึงกัน

 
ที่มา  นิตยสาร Decoration  Guide ฉบับเดือนมีนาคม 2552
  • เรื่อง : กองบรรณาธิการ บ้านสุขใจ
  • ภาพ : บ้านสุขใจ
  • เจ้าของ : คุณดิษพล ศรีศรัทธา
  • แบบบ้าน : 2 ชั้น (แบบพิเศษ)
  • รางวัลที่บ้านนี้เคยได้รับ : -
  • ออกแบบ : บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
  • ก่อสร้าง : ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์