ณ บ้านหลังใหญ่ 3 ชั้นหลังนี้ แม้จะถูกสร้างขึ้นในพื้นที่จำกัด แต่เมื่อเข้าไปเยี่ยมชมภายในแล้วกลับพบว่าพื้นที่ใช้สอยกว้างมากกว่าที่คิด ด้วยรูปแบบการจัดห้องที่ใช้โทนสีอ่อนดูสว่างตา ทำให้บ้านดูโล่ง โปร่ง สบาย มีลมพัดพาเข้าสู่ตัวบ้านเป็นระยะๆ อากาศภายในบ้านจึงเย็นสบาย โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศให้เปลืองค่าไฟฟ้า ซึ่งเป็นผลมาจากแบบบ้านและการวางตัวบ้านให้รับกับทิศทางลมนั่นเอง

          บ้านหลังงามหลังนี้เป็นของ นายแพทย์ประเสริฐ ไกรรณภูมิ นายแพทย์ 7 โรงพยาบาลนางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งสร้างแล้วเสร็จมาเกือบ 3 ปีแล้ว ทันทีที่ได้พบปะทักทายกันแล้ว ทีมงาน “บ้านสุขใจ” ที่เดินทางมาเยี่ยมเยียนก็ไม่รอช้า พากันกุลีกุจอรีบเข้าบ้านในทันทีที่คุณหมอเอ่ยปากเชื้อเชิญ
 

          และที่ห้องรับแขกซึ่งถูกตกแต่งด้วยโซฟาสีขาวนวล รับกับโต๊ะและพรมสีสดใส บวกกับความเป็นกันเองของคุณหมอและภรรยา “คุณอัญชลี” แถมยังมีลมธรรมชาติพัดพาเอาความเย็นเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้ทีมงานที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เกือบ 4 ชั่วโมง หายเหนื่อยทันที คุณหมอเล่า ความเป็นมาของที่ดินผืนสวยซึ่งบ้าน 3 ชั้นหลังนี้ตั้งอยู่ ว่าเคยเป็นอาคารพาณิชย์มาก่อน หลังจากเจ้าของเดิมประกาศขาย คุณหมอจึงตัดสินใจซื้อและรื้อตัวอาคารออก ให้กลายเป็นพื้นที่โล่งพร้อมทั้งปรับพื้นที่ให้เหมาะกับการปลูกสร้างบ้าน ด้วยเห็นว่าเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเมือง อีกทั้งยังใกล้กับคลินิกและโรงพยาบาลนางรองที่คุณหมอประจำอยู่
 

 
 
 

          “การที่เราตัดสินใจซื้อที่ดินผืนนี้ เพราะตั้งใจจะทำเป็นบ้านพักอาศัย เนื่องจากอยู่ใกล้คลินิก หลังจากซื้อแล้วก็ทำการปรับพื้นที่ใหม่ให้เป็นที่โล่งมีพื้นที่ประมาณ 140 ตารางวา เหตุผลที่ต้องการปลูกบ้านเพราะเราอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง เนื่องจากบ้านที่พักอาศัยในปัจจุบันเป็นบ้านพักของโรงพยาบาล และผมก็คิดว่าบ้านนั้นเป็นปัจจัย 4 ขั้นพื้นฐานของทุกคน และการที่จะสร้างบ้านสักหลังมันก็ไม่ได้สร้างกันง่ายๆ บางคนใช้เวลาเกือบทั้งชีวิต กว่าจะเก็บเงินปลูกบ้านได้สักหลัง ซึ่งจริงๆ แล้วพื้นเพผมไม่ใช่คน อำเภอนางรอง เป็นคน อำเภอเมืองบุรีรัมย์ โดยเข้ามาทำงานที่ อำเภอนางรองมาประมาณ 12 ปีแล้ว การจะปลูกบ้านนั้นส่วนใหญ่จะมีทางเลือก 2 ข้อหลักๆ คือ 1. ให้ผู้รับเหมาท้องถิ่น เป็นผู้ก่อสร้าง และ 2.ใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนได้ปรึกษากับภรรยา ให้หาข้อมูลและตัดสินใจในเรื่องการสร้างบ้าน นอกจากนี้ยังปรึกษากับเพื่อนๆ และคนรู้จัก ทำให้รู้ว่าหากเลือกผู้รับเหมาทั่วไป โชคร้ายก็อาจจะเจอปัญหาทิ้งงานได้ อย่างร้านเฟอร์นิเจอร์ข้างๆ บ้านก็ใช้ผู้รับเหมาจากโคราช ทำได้ประมาณ 60-70 % เขาก็ทิ้งไป จึงต้องหาผู้รับเหมามารับช่วงต่อ ทำให้งบประมาณบานปลาย และไม่ได้ตาม แบบที่เราต้องการ”
 

 
 
 

         ด้วยเหตุนี้ คุณหมอและครอบครัว จึงค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทรับสร้างบ้านทางอินเตอร์เน็ต ผ่านทาง Google จึงได้พบกับ พีดีเฮ้าส์ ศึกษาหาข้อมูลระยะหนึ่ง จึงตัดสินใจติดต่อที่สาขาที่ใกล้และสะดวกซึ่งก็คือ สาขานครราชสีมา ขณะนั้นสาขายังอยู่ที่เดอะมอลล์โคราช ได้พบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้รับการต้อนรับและได้รับคำแนะนำอย่างดี ทำให้รู้สึกประทับใจมาตั้งแต่ต้น
 

 

          “เดิมตามแบบบริเวณหน้าบ้านจะเป็นโรงรถ แต่เราขอปรับแบบ โดยให้เปลี่ยนเป็นห้องเพิ่มอีกหนึ่งห้อง ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นเยอะมาก หลังจากทำโรงรถเป็นห้องรับแขก เสาเข็มที่ตอกก็ใช้เป็นเข็มเจาะจึงค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในส่วนนี้ ทั้งหมดใช้เวลาก่อสร้างเพียง 11 เดือน จากในสัญญา 12 เดือน หรือ 360 วัน ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณพฤศจิกายน 2552” 

          คุณหมอบอกว่าหลังจากที่ได้เห็นตัวบ้านเป็นรูปเป็นร่าง และได้เข้ามาอยู่อาศัยก็รู้สึกภูมิใจกับบ้านหลังนี้ ที่ได้ลงทุนสร้างขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรง เป็นบ้านที่มีความเพียบพร้อม เป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัว เป็นแหล่งความอบอุ่นของสมาชิกในบ้าน แม้คุณหมอและครอบครัวจะมีเวลามาพักในบ้านหลังนี้เพียงแค่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็ตาม

          “ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่จะพักที่บ้านพักในโรงพยาบาล บ้านหลังนี้จะมาพักผ่อนและอาศัยอยู่เพียงแค่วันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว  โดยคุณหมอมีลูก 2 คน คนโตศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”