คุณนงนุช ใจเเสน
แบบบ้าน WA-137

เติมเต็มความอบอุ่น ด้วยคำว่าบ้าน

Line
ภาพนี้ถูกบันทึกและเผยแพร่ ก่อนวันที่ 1 มิ.ย. 2565

          “เราดีใจนะคือมีความสุขเวลาได้เห็นบ้านของเรา ที่เกิดจากการทำงานและจากน้ำพักน้ำแรง แค่เราได้มองเราก็สุขแล้ว ยิ่งได้เห็นลูกๆ มีความสุข มีห้องของตัวเอง มีที่วิ่งเล่น เราก็ยิ่งมีความสุขขึ้นไปอีก ความรู้สึกมันต่างจากตอนที่เราอยู่ห้องแคบๆ เล็กๆ อย่างเมื่อก่อนมาก เรียกได้ว่าบ้านคือส่วนที่มาเติมเต็มให้กับครอบครัวของเราเลย เรามีที่ของเราให้ได้พัก ให้ได้ทำกิจกรรม เราเลยไม่อยากออกไปไหนเรียกว่าเห่อบ้านก็ได้นะ”

          ครอบครัวของ “คุณนงนุช ใจแสน” เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังใหม่นี้ได้เพียง 4 เดือน และประโยคข้างต้นบ่งบอกได้ชัดเจนเหลือเกินว่าบ้านหลังที่เห็นนี้ ได้เติมเต็มบางอย่างที่หายไปให้ครบพร้อมสมบูรณ์ เป็นบ้านที่อยู่แล้วไม่อยากไปไหนไกลและยิ่งอยู่ยิ่งอิ่มเอมใจ

           ครั้งหนึ่งครอบครัวของคุณนงนุช อาศัยอยู่รวมกันใบบ้านที่เป็นตึก แน่นอนมันไม่สะดวกสบาย และไม่มีพื้นที่ให้ได้ทำกิจกรรมมากมายนัก เธอและสามีอย่างคุณเทวรัตน์ จึงตั้งใจและพูดคุยกันอยู่นานถึงการสร้างบ้านสักหลัง บ้านที่เป็นบ้านจริงๆ ให้ความรู้สึกที่สุขยิ่งกว่าและอบอุ่นมากขึ้น จากบ้านหลังเก่าที่อยู่ซึ่งมีขนาดเล็ก ไม่เอื้ออำนวยให้กับครอบครัวที่มีสมาชิกครอบครัวถึง 4 คน และเมื่อตั้งใจว่าอยากจะสร้างบ้านก็ค่อยๆ เริ่มก่อสร้างมันขึ้นมาเองจากความหวัง กระทั่งกิจการของครอบครัวดีขึ้นตามลำดับ บ้านที่วาดหวังไว้ก็กลายเป็นความจริง

           “เราก็มีที่อยู่แล้ว นั่นก็คือบริเวณร้านตรวจเช็คสภาพรถ ธุรกิจหนึ่งของเรา ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก แล้วเราก็อยากใช้ที่ดินที่มีอยู่ทำเป็นบ้าน แต่พอจะทำบ้านเราเป็นคนที่ไม่มีความรู้เรื่องก่อสร้างอะไรมากมาย ก็เลยหาข้อมูลจนมาเจอศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เมื่อได้เข้าไปศึกษาจากเว็บของเขา เรารู้ว่าที่นี่ดูแลกระบวนการทั้งหมดของการสร้างบ้านเลย เราก็มองว่าน่าสนใจหลายๆ อย่างมันทำให้เราอยากสร้างบ้านกับพีดีเฮ้าส์ เมื่อพร้อมเราก็เดินเข้าไป

          “ก็เข้าไปคุยกับเขาก็เห็นว่าแบบบ้านของพีดีเฮ้าส์ เขามีหลายสไตล์แล้วยังมีแบบบ้านที่เป็นธาตุต่างๆ เหมาะกับคนอยู่อาศัย เราก็ชอบความระเอียดของเขา แล้วก็มาลงตัวที่บ้านแบบที่เห็น คือเราก็ดูแบบเยอะ แต่พอเห็นแบบบ้านหลังนี้เราก็ชอบเลยเพราะความลงตัว ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใช้สอยที่รับกับขนาดที่ดิน ซึ่งเป็นเพราะเราเป็นคนคิดระเอียดนะในเรื่องของการใช้พื้นที่ ตัวบ้านเราพื้นที่ใช้สอยประมาณ 210 ตรม. ที่ดินทั้งหมดประมานครึ่งไร่ เราก็อยากให้บ้านพอดีกับสี่คนก็เลยสรุปกันว่าบ้านที่เราจะอยู่ควรมีสองชั้น แบ่งเป็น 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และห้องะพระ ซึ่งจะลงตัวกับขนาดพื้นที่อยากมาก”

          ในส่วนของการตกแต่ง ด้วยความที่เป็นผู้หญิงชอบความหวานสไตล์คลาสสิก “คุณนงนุช”จึงเลือกเฟอร์นิเจอร์แบบคลาสสิกเข้ามาไว้ในตัวบ้าน อย่างเช่น ห้องรับแขก และห้องทานข้าว ก็จะจัดเต็มด้วยเฟอร์ฯ ที่ดูหรูหราและอ่อนหวานในทีซึ่งบริเวณนี้เรียกได้ว่าเป็นมุมของคุณผู้หญิงของบ้านก็ว่าได้ ถัดมาในส่วนห้องดูทีวีก็เน้นให้สีโทนขาวเรียบง่ายเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่มีฟังชั่นครบพร้อม เพราะเป็นส่วนที่ลูกทั้งสองคนจะมาใช้เป็นประจำ จึงไม่จำเป็นว่าต้องหวานแหวเหมือนกันไปเสียหมดทั้งบ้านซึ่งก็ดูเก๋ไปอีกแบบ


          จัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่นำเข้ามาและสั่งทำพิเศษให้รับกับมุมต่างๆ ภายในบ้าน จากนั้นแบ่งบริเวณห้องโถงด้วยบานเฟี้ยม ซึ่งทำมาจากวัสดุไวนิลพิเศษสวยแปลกตา แม้อาจไม่ใช่ไม้จริงๆ แต่กลับกลมกลืนกับตัวบ้าน ทั้งยังตรงตามมาตรฐานการรับรองของพีดีเฮาส์ ทั้งนี้ การตกแต่งภายในเป็นความรับผิดชอบของคุณแม่บ้านทั้งหมด ส่วนภายนอกนั้นพ่อบ้านอย่างคุณเทวรัตน์ก็รับหน้าที่ดูแลเรื่องนอกบ้าน อย่างเช่น การจัดสวนรอบบ้าน

          เขาเลือกเลือกพันธุไม้ต่างๆ มาลงแปลงปลูกด้วยตัวเอง อีกทั้งตั้งใจไว้ว่าอยากให้หน้าบ้านมีมุมนั่งเล่น จึงมองหาซุ้มที่ดูเข้ากับบ้านมาวางไว้มุมหน้าบ้านที่ปลูกต้นไม้พุ่มโดยรอบ เมื่อนั่งบริเวณรี้จึงทำให้ได้อารมณ์ใกล้ชิดธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถใช้รับแขกด้านนอกบ้านได้ด้วย เมื่อทั้งหมดออกมาเป็นบ้านหนึ่งหลัง จากความคิดของเขาและภรรยา ทำให้รู้สึกปลื้มบ้านหลังนี้เป็นอย่างมาก “คุณเทวรัตน์” เล่าให้ฟังด้วยร้อยยิ้มว่า


          “คือเราเองไม่ได้เก่งเรื่องบ้านเรื่องช่างพีดีเฮ้าส์ ก็ดูแลให้เราว่าตรงไหนเรียบร้อย หรือหากตรงไหนไม่เรียบร้อยก็สั่งแก้ในทันที มันทำให้เรามั่นใจเพราะเราเองเราไม่รู้หรอกว่า ทำดีหรือไม่ดี แต่ทางพีดีเฮ้าส์ จะคอยตรวจมาตรฐานอยู่ตลอดเวลา เหมือนเขาคุมการสร้างบ้านให้เรา เราก็ได้ความสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องจุกจิก อย่างถ้ามีจุดไหนที่ผิดพลาดพอสร้างบ้านเสร็จ เขาก็มีบริการหลังการขาย ส่งช่างมาซ่อมให้เราโดยไม่คิดค่าบริการ ตรงนี้ถ้าเราไปจ้างกับผู้รับเหมามาทำบ้านเรา ก็ไม่รู้เลยว่าจะต้องเสียเงินเพิ่มอีกเท่าไร  แต่นี่เขาดูแลเราหมดทั้งโครงสร้างหรือภายใน ซึ่งก็มีระยะเวลาบอกชัดเจน

          “เวลาที่เขาสร้างบ้านเราก็ตรงกับใจนะ เพราะเราจะปรับเปลี่ยนอะไร ก็แจ้งไปเขาก็จะแนะนำเรามา ทำให้เราสามารถมีส่วนร่วมกับการสร้างบ้านของเราได้เต็มที่ อย่างบ้านหลังนี้เราเห็นก็ภูมิใจนะ ยิ่งพอมาได้อยู่แล้วไม่อยากไปไหนเลย เพราะเราอยู่บ้านนี้เรามีความสุขจึงไม่อยากเดินทางไปไหน อย่างบางทีผมเครียดๆ เหนื่อยมากๆ งานเยอะ ผมก็จะเดินเข้ามาในบ้านนั่งมองนั่นนี้สักพักเราก็หายเหนื่อยแล้วนะ บ้านนี้แปลกหน้าร้อนเข้ามาในบ้านบ้านก็เย็น หน้าหนาวเข้ามาก็อบอุ่น เรารู้สึกว่ามันเป็นบ้านที่น่าอยู่น่าหลงใหล”

          “พอมีบ้านเราก็มีกิจกรรมทำกันเยอะ วันหยุดเราก็ทำกับข้าวกันเอง ทำเสร็จก็ออกไปนั่งทานหน้าบ้าน อย่างลูกสาวลูกชายเขาก็มีกิจกรรมทำเยอะ อย่างการหัดซักผ้า การล้างรถจักรยาน ลูกๆ ก็ช่วยกันทำความสะอาดบ้าน เด็กๆ ได้มีบริเวณเล่น เพราะอย่างตอนไม่มีบ้านลูกๆ ก็จะอยู่แต่ในห้องดูทีวีเล่นคอมฯ แบบนั้นไป แต่พอมีบ้านลูกๆ ก็ได้ทำอะไรรีแล๊กซ์มากขึ้น คือเมื่อเราได้เห็นเขาทำสิ่งเหล่านี้เราก็มีความสุขเน้อ”

          เจ้าของบ้านในชุดสีชมพูยิ้มหวานดูมีความสุขจนแก้มปริเมื่อพูดจบ

  • เรื่อง : กองบรรณาธิการ บ้านสุขใจ
  • ภาพ : กองบรรณาธิการ บ้านสุขใจ
  • เจ้าของ : คุณนงนุช ใจเเสน
  • แบบบ้าน : WA-137
  • รางวัลที่บ้านนี้เคยได้รับ : -
  • ออกแบบ : บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
  • ก่อสร้าง : ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ พิษณุโลก