นายแพทย์พรเทพ - คุณหมอคัทลียา เกษมศิริ
แบบบ้าน WA-141

บ้านที่ดีต้องครบทุกความต้องการของครอบครัว

Line
ภาพนี้ถูกบันทึกและเผยแพร่ ก่อนวันที่ 1 มิ.ย. 2565
 

         เพราะการสร้างบ้าน ที่เป็นทั้งศูนย์รวมของความอบอุ่น และความรักหนึ่งหลัง ไม่ได้เป็นเรื่องของคนสองคนที่รักกัน หรือจำนวนเงินเท่านั้น หากแต่ “บ้าน” ในความหมายของคนไทย ยังเชื่อมโยงผูกพัน ระหว่างบุคคลที่เราใกล้ชิดเคารพรัก และอบอุ่นใจ ที่หมายถึง “ครอบครัว” ด้วย
 
          เมื่อพื้นที่ใช้สอยบ้านหลังเก่า ซึ่งเป็นบ้านหลังเล็ก ที่นายแพทย์พรเทพ เกษมศิริ อาจารย์แพทย์ภาควิชา โสต ศอ นาสิก หรือหู คอ จมูก ประจำโรงพยาบาลศรีนครินทร์ อยู่กับคุณป้า 2 ท่าน พร้อมกับน้องสาว และภรรยาอาจารย์คัทลียาเกษมศิริ  หรือหมอแป้ง คุณหมอวิสัญญีประจำโรงพยาบาลศรีนครินทร์  เริ่มให้ความรู้สึกคับแคบ และเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ ที่จะมาช่วยเติมเต็มความสุขให้ครอบครัวเกษมศิริ ภารกิจตามหาบ้านหลังใหม่จึงเริ่มขึ้น หลังวางแผน และไตร่ตรองอย่างรอบคอบ นายแพทย์พรเทพ เกษมศิริ ว่าที่คุณพ่อคนใหม่ (ในช่วงเวลานั้น) จึงตัดสินใจมองหาบ้านหลังใหม่ ที่ต้องอบอุ่นไม่น้อยกว่าบ้านหลังเดิม ความเป็นห่วงคุณป้าที่ค่อนข้างสูงวัยทั้งสองท่าน คุณหมอจึงตัดตัวเลือกเรื่องการซื้อบ้านจัดสรรทิ้งไปโดยไม่ลังเล ก่อนตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหม่ บนพื้นที่ 2 งาน ซึ่งอยู่ติดกับบ้านหลังเก่าที่มากไปด้วยความทรงจำ

           “ทันทีที่รู้ว่ามีน้องปุ๊บ ผมก็รู้ว่าบ้านหลังเก่าที่พวกเราเคยอยู่กัน 4 คน ก็น่าจะคับแคบ เพราะเด็กก็ต้องมีของเล่น โน่นนี่เต็มบ้านจริงไหมครับ (หัวเราะ) ตอนนั้นก็เลยคิดว่า น่าจะถึงเวลาสร้างครอบครัวเองแล้ว แต่เพราะเป็นห่วงป้า จึงไม่รู้ว่าจะหาทางออกอย่างไรให้เหมาะสมและลงตัว พอดีมีที่ว่างซึ่งติดกับบ้านหลังเก่าเหลืออยู่ จึงตัดสินใจสร้างบ้าน แทนการซื้อบ้านหลังใหม่ในโครงการจัดสรร เพราะไม่เพียงผมจะมีบ้านที่อยู่กับสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคย โซนเดียวกัน รั้วเดียวกันกับบ้านหลังเก่าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งหลังแล้ว (ยิ้ม) ผมยังมีโอกาสได้ดูแลคุณป้าที่อายุค่อนข้างสูงด้วยครับ”นายแพทย์พรเทพ เกษมศิริ ให้เหตุผลในการสร้างบ้านหลังใหม่ แทนการซื้อบ้านจัดสรรสำเร็จรูป

         ความที่ทั้งนายแพทย์พรเทพ และอาจารย์คัทลียา เกษมศิริ มีอาชีพรับราชการ ทำงานตามวัน-เวลาราชการ จันทร์ –วันศุกร์ และต้องอยู่เวรเพื่อพร้อมรับวินาทีฉุกเฉิน ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง แถมเวลาที่ยังพอมีเหลืออยู่บ้างในช่วงเย็น ก็ต้องหมดไปกับการดูแลรักษาผู้ป่วยที่คลินิกส่วนตัว การมองหา และคัดกรองบริษัทรับสร้างบ้าน หรือผู้รับเหมา เพื่อส่งมอบความไว้วางใจทั้งหมดให้ดูแล จึงเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องคิดให้รอบด้าน

 

“ตอนนั้นมี 2 ทางให้เลือกคะ  ระหว่างใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน และติดต่อผู้รับเหมาที่คุ้นเคย”คุณหมอแป้ง เล่าถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญ พร้อมเผยขั้นตอนในการเก็บข้อมูลว่า “เริ่มจากสอบถามคนรอบข้าง ที่เคยก่อสร้างบ้านว่ามีใครใช้แบบไหนบ้าง จากนั้นก็ลองเสิร์ชหาข้อมูลจากอินเตอร์ว่ารอบๆขอนแก่นประกอบ ก่อนจะช่วยกันประเมินข้อดี และข้อเสียจากแหล่งข้อมูลที่ได้รับมาทั้งหมดอยู่นานสองนาน จึงตัดสินใจเลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านในที่สุดค่ะ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเราทั้งคู่ค่อนข้างจะยุ่งกันอยู่แล้ว อาจไม่มีโอกาสดูการสร้างบ้านให้ครบทุกความต้องการของครอบครัวอย่างใกล้ชิด
 

         ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วมีอาจารย์แพทย์ ที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ด้วยกันหลายท่าน เลือกศูนย์รับสร้างบ้านพีดี เฮ้าส์ สาขาขอนแก่น สร้างบ้านให้อยู่ก่อนแล้ว จึงเข้าไปสอบถาม และเก็บข้อมูลจากผู้ใช้บริการจริง เพื่อเปรียบเทียบทั้งในด้านประสบการณ์ การทำงาน คุณภาพ ความน่าเชื่อถือ ความใส่ใจ และราคา กับบริษัทอื่นๆประกอบการตัดสินใจค่ะ

          ยอมรับคะว่า ประทับใจศูนย์รับสร้างบ้านพีดี เฮ้าส์ สาขาขอนแก่น ภายใต้มาตรฐานบริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตั้งแต่ไปติดต่อครั้งแรกเลยคะ เพราะเขาให้ข้อมูล และคำแนะนำเป็นอย่างดี ยิ่งได้รู้ว่า บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีสาขาย่อยอยู่แทบทุกจังหวัด ทุกภาคทั่วประเทศ ก็ยิ่งรู้สึกมั่นใจ ในความเป็นมืออาชีพ ที่ได้มาตรฐาน และการบริการที่เข้าถึงง่ายค่ะ”
 

          คุณหมอพรเทพ เล่าเสริมด้วยใบหน้าอิ่มสุขว่า “ก่อนจะตัดสินใจเลือกศูนย์รับสร้างบ้านพีดี เฮ้าส์ สาขาขอนแก่น เราสองคน ก็เข้าไปขอคำปรึกษาอยู่นานนับเดือนเลยครับ(หัวเราะ)  เพราะกังวลว่าทางเข้ามาก่อสร้างค่อนข้างแคบ เกรงว่าจะทำให้ช่างทำงานลำบาก ที่สำคัญเสาแต่ละต้นก็ใหญ่มากด้วย แต่เจ้าหน้าที่ก็ใส่ใจ และยินดีให้คำปรึกษาด้วยความเข้าใจครับ”

          เมื่อตัดสินใจอย่างรอบคอบ และเลือกแบบบ้านได้แล้ว บ้านสไตล์คอนเทมโพรารี ที่ทั้งคู่รอคอยก็ค่อยๆก่อเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ไม่เพียงคุณหมอ และภรรยา จะแวะเวียนมาดูเมื่อมีเวลา คุณป้าที่คุณหมอรัก และเคารพก็มีโอกาสช่วยดูแล ฝากเรื่อง และติดตามความคืนหน้าในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆด้วยเช่นกัน
 

 
                “รู้สึกตื่นเต้นครับ ที่ได้เห็นบ้านในฝันค่อยๆเติบโตขึ้น” คุณหมอพรเทพ เผยความรู้สึก ก่อนจะส่งสายตาให้คุณหมอแป้ง ช่วยเติมเต็มความรู้สึก และขยายความว่า “เนื่องจากบ้านหลังเก่าอยู่ข้างๆด้วย เราก็เลยเห็นความเปลี่ยนแปลงทุกวันทีละเล็กทีละน้อย  จากเดิมที่เป็นแค่พื้นโล่งๆ ก็มีเสาเข็มหนึ่งต้น สอง-สามต้น พื้น เริ่มมีโครงสร้างstructureเข้ามาทีละนิดๆ กระทั่งเสร็จสมบูรณ์ และย้ายเข้ามาอยู่กันจริงๆเมื่อเดือนกราคมที่ผ่านมาค่ะ”

                ถึงบ้านสไตล์ contemporary 2 ชั้น บนเนื้อที่ 2 งานหลังนี้ จะไม่ใหญ่โตเทียบเท่าคฤหาสน์ร้อยล้านพันล้าน แต่ความสุขภายในหลังนี้ ก็ไม่น้อยไปกว่าบ้านหลังไหนๆ เพราะไม่เพียงมันจะถูกสร้างขึ้นด้วยความรักความห่วงใย และความกตัญญูที่ลูกหลานมีต่อบุพพการีเท่านั้น  เจ้าของบ้านยังตั้งใจสร้างให้สอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกับบ้านหลังเก่าที่มากไปด้วยความทรงจำอีกต่างหาก
 

                คงเพราะเป็น contemporary  styleโครงสร้างส่วนใหญ่ของบ้านที่อบอวลไปด้วยความสุข จึงเป็นคอนกรีต และกระจก ถึงมีไม้ปะปนอยู่บ้างก็เล็กน้อย ขณะที่การจัดแบ่งพื้นที่ภายในแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่าง 1 ห้องนอน 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร และ 1 ห้องรับแขก สำหรับห้องนอนคุณหมอเกศ แพลนไว้สำหรับวันข้างหน้า หวังให้คุณป้าทั้งสอง หรือคุณพ่อคุณแม่ ได้มาพักรักษา โดยมีลูกหลานคอยทำหน้าที่ดูแลยามเจ็บไข้  ดังนั้นประตูห้องนอนชั้นล่าง และประตูห้องน้ำจึงเป็นไซส์พิเศษ สำหรับให้รถเข็นเข้าออกได้สะดวกนั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้น ด้านข้างตัวบ้าน ยังทำเป็นทางลาดชัน เพื่อสะดวกต่อการนำรถเข็นเข้าภายในบ้านอีกด้วย

                เพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอย ห้องอาหาร และห้องนั่งเล่น ถูกปล่อยให้ทะลุถึงกัน โดยมองเห็นกิจกรรมของสมาชิกในครอบครัว ที่กำลังนั่งดูทีวีรายการโปรดบนโซฟาตัวใหญ่ได้อย่างชัดเจน ขณะที่ห้องครัวขนาดกะทัดรัด แต่ครบครันไปด้วยอุปกรณ์ทำครัว อยู่ด้านหลัง ก็พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้สมาชิกทุกคนเช่นกัน
 

           บันไดไม้ที่มากไปด้วยสเน่ห์ ทอดตัวจากชั้นสอง ซึ่งประกอบไปด้วยห้องนอนใหญ่  ที่มีห้องน้ำในตัว เพื่อความเป็นส่วนตัว พร้อมกันนี้ยังมีห้องนอนเล็ก 2 ห้อง กับอีก 1 ห้องน้ำ ทั้งหมดเตรียมพร้อมสำหรับต้อนรับแขกเหรื่อญาติมิตร และวันที่ครอบครัวมีสมาชิกเพิ่มขึ้น สมกับเป็นบ้านเพื่ออนาคตโดยแท้

          ถ้าจะบอกความลงตัวจนเป็นหนึ่งเดียวที่เห็นอยู่ตรงหน้า มาจากการมีส่วนร่วมของทุกคนในครอบครัวเกษมศิริก็คงไม่เกินจริง เพราะความงดงามของห้องน้ำชั้นล่าง มาจากความเรียบง่ายในการเลือกกระเบื้องธรรมดาๆมาตกแต่งอย่างมีสไตล์ของภรรยา ส่วนห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่ ที่โดดเด่นไปด้วยสีเขียว ให้ความรู้สึกร่มรื่นเหมือนได้นั่งพักใต้ต้นไม้ ก็มาจากไอเดียของสามี และห้องที่มีตุ๊กตาหมีพูเป็นองค์ประกอบ ก็มาจากความต้องการของลูกสาววัยน่ารักนั่นเอง
 

 
          เมื่อถามถึงความรู้สึกคืนแรกที่ได้พักใจในบ้านแห่งความรัก คู่รักคุณหมอ เผยว่าคืนแรกที่เข้ามานอนพร้อมหน้าพร้อมตา ก็ยังห่วงว่าจะนอนหลับไหม เพราะแปลกที่ แต่ทุกคนก็หลับสนิท  รู้สึกอิ่มเอมใจมากที่สุด จนไม่สามารถบอกเป็นคำพูดได้จริงๆค่ะ

          สำหรับครอบครัวบ้าน “เกษมศิริ” บ้านคงไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยเท่านั้น หากหมายรวมถึงความสัมพันธ์ของทุกๆคนที่อยู่ในบ้านด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่ององค์ประกอบที่อยู่ร่วมกัน และความผูกพันของสมาชิกในบ้าน ความเข้าใจ ความอบอุ่น ความรัก ส่วนตัวโครงสร้างบ้านหลักๆมันเป็นแค่ส่วนที่มาเติมเต็ม ถ้าบ้านน่าอยู่คนในบ้านก็จะมีความสุขมากขึ้น
 

                สุดท้ายคุณหมอฝากข้อคิด สำหรับผู้อ่านที่ตัดสินใจไม่ถูกระหว่างซื้อบ้านจัดสรร กับสร้างบ้านหลังใหม่ว่า “การซื้อบ้านสำเร็จง่ายกว่าการสร้างบ้านตรงที่เข้าอยู่ได้ทันที  แต่ต้องไม่ลืมว่าคุณก็ต้องเสียสิทธิ์ในการเลือกหลายอย่างไปเช่นกัน  เพราะบ้านที่สำเร็จไม่ได้อุปกรณ์อย่างที่ใจเราต้องการ  ถ้ารับได้ก็โอเค แต่ถ้าเรามีที่ดินเป็นของตัวเอง คิดจะสร้างเอง ก็อยากให้หา และตรวจข้อมูลที่น่าเชื่อถือให้รอบด้าน ไม่ได้บอกว่าบริษัทไหนดีกว่าบริษัทไหน แต่กำลังจะบอกว่า ถ้าตัดสินใจเลือกตามคนอื่นโดยไม่มีข้อมูลมากพอ คุณเองจะเป็นฝ่ายที่เสียใจ เมื่อเกิดปัญหา

 
 
 
  • เรื่อง : โชคชัย บุญส่ง
  • ภาพ : ยุทธนา สิงห์สาย, กานต์กิตติ ชูพยุง
  • เจ้าของ : นายแพทย์พรเทพ - คุณหมอคัทลียา เกษมศิริ
  • แบบบ้าน : WA-141
  • รางวัลที่บ้านนี้เคยได้รับ : -
  • ออกแบบ : บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
  • ก่อสร้าง : ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ขอนแก่น