หน้าแรก / สาระน่ารู้ / เกร็ดความรู้
เกร็ดความรู้
หน้าแรก / เกร็ดความรู้

น้องแมวใครไม่รู้แอบเข้าบ้าน รับมืออย่างไรดี

Line

น้องแมวใครไม่รู้แอบเข้าบ้าน รับมืออย่างไรดี

Line

น้องแมวใครไม่รู้แอบเข้าบ้าน รับมืออย่างไรดี
เชื่อว่าหลายบ้านคงเคยมีโอกาสพบน้องแมวของใครไม่รู้แอบเข้าบ้านบ้างไม่มากก็น้อย เพราะน้องแมวไม่เหมือนน้องหมาตรงที่ชอบปีนป่ายเป็นชีวิตจิตใจ อาจปีนกำแพงจากบ้านใกล้เรือนเคียงมาบ้านเราได้โดยไม่มีใครรู้ตัว โดยบางครั้งน้องแมวอาจสร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือทำข้าวของหล่นกระจัดกระจายบ้าง ทีนี้จะแก้ปัญหาอย่างไรดี ลองมาดูวิธีแก้ปัญหาไม่ให้น้องแมวเข้าบ้านแบบไม่ใช้ความรุนแรงได้ที่นี่

แมวเข้าบ้าน พร้อมปัญหาน่าเหนื่อยใจ

ถึงแม้ว่าจะมีความเชื่อเกี่ยวกับแมวที่มีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณว่า “แมวเป็นสัตว์นำโชคหรือเป็นสัตว์ที่สามารถทำนายเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ” แต่ก็เชื่อว่าหลายคนคงเหนื่อยใจกับปัญหาแมวเข้าบ้านอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นบ้านจัดสรร ทาวน์เฮ้าส์ หรือแม้กระทั่งบ้านเดี่ยวเองก็ตาม ก็มักจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับแมวจรจัดที่ชอบเข้ามาวุ่นวายภายในบ้านได้คล้าย ๆ กัน โดยส่วนใหญ่ปัญหาแมวเข้าบ้านที่มักพบเจอเป็นประจำ คือ

1. แมวเข้ามาฉี่หรือขับถ่ายไว้ภายในบริเวณของบ้านนอกจากก่อให้เกิดความสกปรกแล้ว ยังทำให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ด้วย

2. ข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจายจากการวิ่งเล่นจนปั่นป่วน

3. รอยขีดข่วนตามผนัง กำแพง และของใช้อื่น ๆ ภายในบ้าน จากการลับเขี้ยวเล็บ

4. สกปรก เลอะเทอะ จากรอยเท้าของแมวที่ชอบการปีนป่ายไปตามที่ต่าง ๆ ของบ้านเป็นชีวิตจิตใจ

5. ปัญหาเสียงรบกวนยามค่ำคืนไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องของแมว เสียงรบกวนจากการวิ่งไล่จับหนูหรือแมลง เป็นต้น

6. ชอบทิ้งหรือคาบซากสัตว์ต่าง ๆ มาทิ้งไว้ตามซอกหรือที่ลับตา ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นจากซากสัตว์
 

สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาแมวเข้าบ้าน

          สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาแมวเข้าบ้านมักมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะบ้านที่มีตรอก ซอก ซอย และช่องลับเป็นจำนวนมากมักเป็นแหล่งที่แมวชอบเข้ามาเดินและวิ่งเล่นภายในบ้าน เนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่ซุกซน อยู่ไม่นิ่ง และชอบความท้าทาย ซึ่งสังเกตได้จากการที่แมวชอบวิ่งไล่จับหนู แมลงสาบ และจิ้งจก

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาแมวเข้าบ้าน

ผลกระทบส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นจากปัญหาแมวเข้าบ้าน คือ

1. ความเสียหายต่อทรัพย์สินไม่ว่าจะเป็นผนัง กำแพง และสิ่งของต่าง ๆ ภายในบ้านที่เกิดการชำรุดเสียหายจากการลับเขี้ยว ลับเล็บของแมว หรือแม้กระทั่งการวิ่งเล่นซุกซน จนเผลอทำลายข้าวของหล่นแตกหรือพัง

2. ก่อเกิดความรำคาญและส่งผลเสียต่อร่างกายจากการพักผ่อนไม่เพียงพอยามค่ำคืนที่เกิดจากเสียงรบกวนจากพฤติกรรมต่าง ๆ ของแมว

3. เป็นที่สะสมของเชื้อโรคและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์จากฉี่และมูลของแมว รวมไปถึงซากสัตว์เน่าตายจากผลงานของแมวจรจัด

4. เกิดความเสี่ยงสำหรับผู้ที่แพ้ขนแมว มีอาการหอบ หรือผู้เป็นภูมิแพ้จากขนแมวที่หลุดร่วงตามที่ต่าง ๆ ภายในบ้าน
 

วิธีการป้องกันแมวเข้าบ้านและวิธีไล่แมวออกจากบ้าน

         ถึงแม้ว่าจะมีแมวเหมียววิ่งเข้าบ้านเป็นประจำ แต่ก็มีเคล็ดลับวิธีไล่แมวสุดเจ๋ง โดยที่ไม่เป็นอันตรายทั้งต่อคนและสัตว์แสนซนอย่างน้องแมว ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถทำเองได้ง่าย ๆ และมีวิธีไล่แมวให้เลือกหลากหลายวิธีตามความสะดวก เพื่อใช้ป้องกันแมวเข้าบ้าน ดังนี้

1. วิธีไล่แมวจากสิ่งใกล้ตัวที่มีอยู่ในห้องครัว

ไม่ว่าจะเป็นมะกรูด น้ำส้มสายชู พริกไทย เปลือกมะนาว หรือแม้กระทั่งพริกป่นธรรมดา ๆ ก็สามารถไล่แมวออกจากบ้านไปได้ง่าย ๆ เนื่องจากแมวไม่ชอบกลิ่นฉุนของวัตถุดิบต่าง ๆ เหล่านี้ ดังนั้น จึงใช้เป็นวิธีไล่แมวได้ง่าย ๆ เพียงแค่

- นำน้ำสมสายชูมาผสมกับน้ำเปล่า จากนั้นเติมลงในขวดสเปรย์แล้วนำไปฉีดบริเวณที่แมวชอบมานอนเล่นภายในบ้านหรือบริเวณที่ต้องการ

- ด้วยความที่แมวเป็นสัตว์รักสะอาดชอบเลียเท้าตัวเองอยู่เสมอ ดังนั้นการนำพริกไทยไปโรยไว้ยังที่ต่าง ๆ ตามพื้นจะช่วยไล่แมวออกไปได้ แต่สำหรับวิธีไล่แมววิธีนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ฝุ่นหรือพริกไทย เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ฉะนั้นควรโรยผงพริกไทยลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าว

- เปลือกมะกรูดและมะนาวก็มีกลิ่นฉุนไม่แพ้กัน เพียงแค่นำเปลือกมะกรูดและมะนาวที่หั่นเป็นชิ้นแล้วนำไปวางทิ้งไว้บริเวณที่แมวอาศัยอยู่ เพียงเท่านี้ก็สามารถป้องกันแมวเข้าบ้านได้อย่างสันติวิธี และไม่เป็นอันตรายทั้งต่อแมวและผู้อยู่อาศัย

2. การใช้แสงสะท้อนจากวัตถุเรืองแสง

ถือเป็นวิธีไล่แมวที่ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์อีกวิธีหนึ่งที่สามารถป้องกันแมวเข้าบ้านได้ง่าย ๆ และไม่ยุ่งยาก เพราะโดยธรรมชาติแล้ว แมวจะไม่ชอบปลดทุกข์บริเวณที่มีคนสัตว์ตัวอื่นอยู่ ดังนั้น การใช้แสงสะท้อนหรือกระจำเงาจะทำให้เจ้าแมวสับสนและเข้าใจผิด จนล่าถอยออกไปจากบริเวณบ้านนั้นเองโดยที่เจ้าของบ้านไม่ต้องออกแรงไล่ให้เหนื่อยเลย

3. ใช้น้ำไล่แมว

เพราะแมวไม่ชอบน้ำ เราจึงสามารถใช้น้ำเป็นอีกหนึ่งวิธีไล่แมว โดยการติดตั้งสปริงเกอร์รดน้ำต้นไม้ไว้ตรงจุดที่แมวมักจะเข้ามา ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะป้องกันแมวเข้าบ้านได้แล้ว ยังช่วยให้ประหยัดเวลาในการรดน้ำต้นไม้หรือหญ้าได้อีกด้วย ถึงแม้วิธีนี้จะมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ตรงมุมอับหรือบริเวณที่ไม่สามารถโดนน้ำได้ แต่ก็เป็นอีกวิธีที่ใช้ป้องกันแมวเข้าบ้านบริเวณสวนหน้าบ้าน

4. เลี้ยงสุนัขป้องกันแมวเข้าบ้านได้

อย่างที่รู้ ๆ กันดีว่าสุนัขเปรียบเสมือนคู่อริของแมว ที่เมื่อได้กลิ่นหรือเจอกันเมื่อไหร่ สุนัขจะส่งเสียงเห่าและแสดงความเป็นเจ้าของอาณาเขตทันที ทำให้น้องแมวไม่กล้าที่จะเข้ามาในบริเวณบ้าน

5. ไล่แมวเข้าบ้านด้วยถุงชาน้ำมันหอมระเหย
 

ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีไล่แมวที่อ่อนโยนที่สุด นอกจากจะทำให้รอบบริเวณบ้านหอมชดชื่นแล้ว ยังเป็นการไล่แมวได้ดีอีกด้วย เนื่องจากแมวไม่ชอบกลิ่นของน้ำมันหอมระเหย เพราะเป็นกลิ่นฉุนสำหรับแมว ซึ่งขั้นตอนการทำถุงชาน้ำมันหอมระเหยไล่แมว ก็ทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

- นำน้ำมันหอมระเหยเทลงในถุงชา โดยเทรวมไว้ในถุงหอมปรับอากาศ ขนาดประมาณ 10 x 15 ซม.

- นำถุงชาที่หยดน้ำมันหอมระเหยลงไป ไปห้อยไว้ตามส่วนต่าง ๆ ของบ้านในบริเวณที่แมวอยู่หรือบริเวณที่แมวชอบมาฉี่ไว้

วิธีไล่แมววิธีนี้จะช่วยทำให้กลิ่นฉุนของฉี่และมูลของแมวค่อย ๆ หายไป และไม่กลับมาเหม็นอีกด้วย

เน้นย้ำกันอีกที แม้ว่าน้องแมวที่เข้ามาภายในบ้านเราจะไม่ได้รับเชิญแค่ไหน ก็ไม่ควรไปทุบตี หรือทำร้ายน้อง ๆ เหล่านั้น เพราะเรายังสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยสันติวิธีตามที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น




ขอขอบคุณที่มา : Sanook.com
 
ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์
เราสร้างบ้านเพื่ออนาคต

Line