หน้าแรก / สาระน่ารู้ / เกร็ดความรู้
เกร็ดความรู้
หน้าแรก / เกร็ดความรู้

เปรียบเทียบคุณสมบัติโครงสร้างเสา-คานสำเร็จรูป MLS VS โครงสร้างหล่อในที่

Line

เปรียบเทียบคุณสมบัติโครงสร้างเสา-คานสำเร็จรูป MLS VS โครงสร้างหล่อในที่

Line


 
โครงสร้างสำเร็จรูป รายละเอียด หล่อในที่ 
/ ช่วยลดความเสียหายและการถล่มหากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง X
/ ผลิตและควบคุมคุณภาพจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน ISO 9001 : 2000 X
X การออกแบบงานด้านวิศวกรรมโครงสร้างง่ายกว่า /
/ ตรวจสอบและควบคุมคุณภาพ ณ สถานที่ก่อสร้างได้ง่าย และถูกต้องแม่นยำกว่า
(งานเสริมเหล็ก, งานเทคอนกรีต)
X
/ โอกาสเกิดข้อผิดพลาดระหว่างการก่อสร้างน้อยกว่า X
X ต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งราคาถูกกว่า /
/ ไม่ต้องเสี่ยงดวงว่าช่างจะก่อสร้างได้มาตรฐานหรือไม่ (หากไม่มีผู้ควบคุมงานที่ชำนาญ) X
/ ใช้จำนวนแรงงานคนน้อยกว่า X
/ เศษขยะและฝุ่นละออง ณ สถานที่ก่อสร้างน้อยกว่า X
/ ฝนตกหรือฤดูฝนไม่ได้เป็นอุปสรรคระหว่างก่อสร้าง X
/ ระยะเวลาทำงานหรือติดตั้งโครงสร้างรวดเร็วกว่า X
/ มั่นใจได้ถึงความมั่นคงแข็งแรงและอายุการใช้งานที่ยาวนาน /

         เมื่อพูดถึงเรื่อง “บ้าน” สิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษคือเรื่องของงานโครงสร้างเพราะหากโครงสร้างมีความแข็งแรงบ้านก็จะมีความมั่นคงปลอดภัยและสามารถอยู่อาศัยได้อย่างยาวนาน โดยปัจจุบันรูปแบบการงานก่อสร้างในส่วนของโครงสร้างนั้นก็จะมีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ คือ หล่อในที่ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมที่มีมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนอีกหนึ่งแบบคือโครงสร้างสำเร็จรูปซึ่งเป็นวิวัฒนาการก่อสร้างที่สามารถช่วยลดระยะเวลาและแรงงาน งานโครงสร้างทั้ง 2 แบบนี้ก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป

        โดยการก่อสร้างแบบหล่อในที่นั้น ก็คือระบบที่ต้องมีการก่อสร้างที่หน้าไซด์งานด้วยการขึ้นแบบไม้ ผูกเหล็กเส้น ผสมคอนกรีต และเทคอนกรีตลงไปในตำแหน่งที่เป็นโครงสร้างอย่างเช่น เสา คาน พื้นบันไดต่าง ๆ จากนั้นต้องรอระยะเวลาให้คอนกรีตแห้งเพื่อถอดแบบไม้ออก และต้องมีการบ่มคอนกรีตอีกระยะหนึ่ง จึงจะสามารถทำงานในขั้นตอนต่อไปได้ ซึ่งระบบการก่อสร้างแบบนี้จะความยืดหยุ่นสูงเพราะสามารถปรับขนาดให้เล็กหรือใหญ่ขึ้นได้ตามความเหมาะสม และเหมาะกับไซด์งานที่อยู่ในพื้นที่คับแคบ แต่ทั้งนี้ก็มีข้อเสียอยู่บ้างในเรื่องของการระยะเวลาที่นานมากขึ้นเพราะต้องรอให้ปูนแห้ง นอกจากนี้อาจจะมีปัญหาในเรื่องของการควบคุมมาตรฐาน เพราะในบางกรณีอาจมีโพรงอากาศในคานหรือเสาได้หากไม่มีการควบคุมอย่างละเอียด   

         ส่วนโครงสร้างสำเร็จรูปนั้นเป็นวิวัฒนาการของการก่อสร้างในยุคปัจจุบัน ด้วยการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ของโครงสร้างไม่ว่าจะเป็น ฐานราก เสา คาน พื้น และผนัง ภายในโรงงานที่ได้มาตรฐานมีการควบคุมการผลิตโดยวิศวกรผู้ชำนาญการ มีการคำนวณส่วนผสมของคอนกรีตที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้คอนกรีตนั้นเหลวหรือข้นจนเกินไป ทำให้เนื้อคอนกรีตมีคุณภาพยึดเกาะได้เต็มที่ ก่อนที่จะมีการขนส่งชิ้นส่วนเหล่านี้มาประกอบติดตั้งในสถานที่ก่อสร้าง  ซึ่งข้อดีของระบบนี้คือเรื่องของคุณภาพและความแข็งแรงเพราะชิ้นส่วนทุกชิ้นจะมีการตรวจสอบคุณภาพก่อนนำไปติดตั้ง นอกจากจากนี้ยังช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน  ลดระยะเวลาในการก่อสร้างได้เมื่อเทียบกับระบบการก่อสร้างปกติ รวมถึง ลดปัญหาเรื่องฝุ่น และเสียงในขณะการก่อสร้างอีกด้วยแต่ทั้งนี้ก็อาจจะมีข้อด้อยอยู่บ้างในเรื่องของการขนส่งที่ต้องใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่หากพื้นที่ก่อสร้างคับแคบก็คงไม่สามารถใช้ระบบโครงสร้างสำเร็จรูปได้

        จะเห็นได้ว่างานโครงสร้างทั้ง 2 แบบนั้นก็มีข้อเด่นข้อด้อยที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นเรื่องของ ระยะเวลา การใช้จำนวนแรงงาน รวมถึงเรื่องของการขนย้าย แต่ถ้าหากมองในเรื่องของความมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัยทั้ง 2 แบบนั้นไม่แตกต่างกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมของสถานที่ก่อสร้างเท่านั้นเอง
ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์
เราสร้างบ้านเพื่ออนาคต

Line