แรงงานขาดตลาด ล็อกดาวน์ กทม.และปริมณฑล กระทบก่อสร้าง ฉุดตลาดรับสร้างบ้านในพื้นที่ “พีดีเฮ้าส์” แจงระบบพรีแฟบช่วยแก้ปัญหาขาดแรงงาน ชูตลาดต่างจังหวัดรักษายอดขาย-รายได้ จับตาลูกค้าขอสินเชื่อก่อสร้างบ้านแนวโน้มขยายตัว สวนกระแสแบงก์เข้มปล่อยสินเชื่อบ้าน

         นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์ กล่าวว่าปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างขณะนี้ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก ส่วนตลาดรับสร้างบ้านนั้นได้รับผลกระทบน้อยกว่า โดยเฉพาะตลาดรับสร้างบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ ในขณะที่ตลาดกรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่ล็อกดาวน์ห้ามการเคลื่อนย้ายแรงงานและเข้มงวดการคัดกรองแรงงานก่อสร้างในแคมป์คนงานต่างๆ มีแรงงานจำนวนมากหนีกลับภูมิลำเนาเพราะไม่มีงานและยังถูกกักตัว

         นอกจากนี้ ในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์แรงงานต่างด้าวจำนวนมากเดินทางกลับบ้าน และยังไม่ได้เดินทางกลับมาเพราะติดปัญหาการเดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ทำให้แรงงานจำนวนมากหายไปจากตลาด และส่งผลกระทบต่อปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก โดยเฉพาะหลังจากมีคำสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง 1 เดือนก่อนหน้า ซึ่งมีแรงงานจำนวนไม่น้อยหนีจากแคมป์ก่อสร้างและไม่ได้กลับเข้ามา ทำให้สถานการณ์การขาดแคลนแรงงานในพื้นที่ กทม. และปริมณฑลรุนแรงกว่าพื้นที่ต่างจังหวัด

          “ยอมรับว่าสาขารับสร้างบ้านในพื้นที่ กทม. และปริมณฑลของเราได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนแรงงาน แต่ไม่รุนแรงเพราะก่อนหน้าบริษัทได้ปรับระบบก่อสร้างจากก่ออิฐฉาบปูนมาใช้ระบก่อสร้างกึ่งสำเร็จรูป (พรีแฟบ) และโครงสร้างเหล็ก ซึ่งใช้แรงงานในการติดตั้งจำนวนน้อย ส่วนที่มีปัญหาคือ ส่วนของงานตกแต่งภายนอกและภายใน ส่วนการขึ้นโครงสร้างบ้านและหลังคานั้นไม่ได้รับผลกระทบเลยเพราะขั้นตอนการผลิตโครงสร้างบ้านทั้งหมดทำจากโรงงาน และในการประกอบโครงสร้างใช้ทีมช่างจำนวนน้อย”

         นายสิทธิพร กล่าวถึงตลาดรวมรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ว่า ยังคงชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าจำนวนความต้องการสร้างบ้านของลูกค้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินในการสร้างบ้าน ซึ่งค่อนข้างสวนกระแสตลาด เพราะปัจจุบันธนาคารเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยมาก ทำให้ยอดการปฏิเสธสินเชื่ออยู่ในระดับสูง โดยธนาคารจะพิจารณากลุ่มอาชีพและรายได้ที่มั่นคงเป็นหลัก ส่วนในอาชีพที่มีความเสี่ยงต่อรายได้ และได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 เช่น ธุรกิจการบิน โรงแรม โดยมากจะถูกปฏิเสธสินเชื่อ

         ทั้งนี้ ตลาดที่ชะลอตัวค่อนข้างหนักคือตลาดในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล เพราะได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะเดียวกัน ยังได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนแรงงาน นอกจากนี้ การแข่งขันในตลาด กทม. และปริมณฑลยังมีอยู่สูงทำให้ผู้ปะกอบการได้รับผลกระทบมากกว่าตลาดต่างจังหวัด ดังนั้น การที่บริษัทขยายสาขา และขยายฐานลูกค้าออกไปในต่างจังหวัด ทำให้ในปัจจุบันบริษัทยังสามารถรักษายอดขายและรายได้ตามเป้าหมาย นอกจากนี้ ตลาดต่างจังหวัดยังมีแนวโน้มและอัตราการขยายตัวที่ดีกว่าตลาดในพื้นที่ กทม.และจังหวัดปริมณฑล ขณะเดียวกัน การแข่งขันในตลาดไม่รุนแรง ประกอบกับลูกค้าในต่างจังหวัดยังมีความต้องการสร้างบ้านเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะต้องการสร้างบ้านกับบริษัทที่มีสาขาในพื้นที่ทำให้บริษัทได้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้นจากการเปิดสาขาในต่างจังหวัดค่อนข้างมาก



ขอขอบคุณที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 13 สิงหาคม 2564