ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวประชาสัมพันธ์
Line
06 ส.ค.2555

พศิน พ่วงเผือก อาสานำ พีดีเฮ้าส์ ชิงแชร์ตลาดรับสร้างภาคตะวันตก

Line

          หลังเรียนจบด้านวิชาชีพสาขาช่างก่อสร้าง จากวิทยาลัยเทคนิคราชสิทธาราม “พศิน” ก็มุ่งเข้าศึกษาต่อ คณะบริหารงานก่อสร้าง มหาวิทยาลัยราชภัฎ นครปฐม จนกระทั่งพกความสำเร็จระดับปริญญาตรี และออกจากรั้วมหาวิทยาลัย เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานในโลกแห่งความเป็นจริง และแล้ว คุณพศิน ก็ได้เริ่มต้นทำงานครั้งแรกกับ พีดีเฮ้าส์ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2547 ในตำแหน่ง หัวหน้าโครงการ ประจำสาขากาญจนาภิเษก (ตลิ่งชัน)
          หลังจากทำงานได้ประมาณ 2 ปี บริษัทฯ มีการขยายอัตราพนักงานขาย โดยเน้นต้องการผู้ที่มีความรู้เรื่องงานก่อสร้าง เขาจึงถูกทาบทามให้ย้ายมาทำงานในตำแหน่งพนักขาย เมื่อสั่งสมประสบการณ์ด้านงานขายจนเต็มเปี่ยมแล้ว ก็ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหาร พีดีเฮ้าส์ เลื่อนชั้นขึ้นรับตำแหน่ง ผู้จัดการศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขานครปฐม ในปี 2553 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนหน้าที่จากฐานะ “ผู้ปฏิบัติ” สู่การเป็น “ผู้บริหารระดับกลาง” ขององค์กรครั้งแรกของ พศิน ซึ่งต้องรับผิดชอบดูแลการบริหารงานคนและบริหารงาน ได้แก่ งานขาย ก่อสร้าง การเงิน และการตลาดโฆษณาท้องถิ่น โดยก่อนเริ่มต้นในตำแหน่งผู้จัดการสาขา พศิน ก็ต้องเข้ารับการฝึกอบรมตามโปรแกรมแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เฉกเช่นเดียวกับผู้ที่เข้ามาลงทุนซื้อแฟรนไชส์พีดีเฮ้าส์รายอื่นๆ วัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ก็คือ เพื่อให้สามารถบริหารธุรกิจรับสร้างบ้านได้อย่างมืออาชีพ

รุกตลาดด้วยประสบการณ์ที่เปี่ยมล้น
          เมื่อมารับผิดชอบที่ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขานครปฐม ได้มีโอกาสให้บริการลูกค้าที่สนใจรับสร้างบ้าน ทั้งในพื้นที่จังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียง เช่น จังหวัดราชบุรี สมุทรสงคราม กาญจนบุรี จึงเรียนรู้แนวโน้มตลาดและความสนใจของผู้บริโภคในพื้นที่เป็นอย่างดี ทำให้มองเห็นว่าจังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียง ยังมีความต้องการสร้างบ้านอีกมาก ที่สำคัญปัญหาเรื่องสภาพแวดล้อมน้อยกว่ากรุงเทพฯ เพราะส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม การเดินทางสู่เมืองหลวง สะดวกสบาย อีกทั้งในอนาคตคาดว่าจะมีการสร้างเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย
“แม้ผมจะไม่ได้ศึกษาด้านบริหารธุรกิจและการตลาดมาจากมหาลัยก็ตาม แต่ก็อาศัยการเข้ารับการฝึกอบรมตามโปรแกรมของบริษัทฯ ที่จัดขึ้น ซึ่งมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญทั้งจากภายนอกและภายในองค์กร มาถ่ายทอดประสบการณ์จริง และสิ่งสำคัญที่ผมได้รับการปลูกฝังมาตลอดคือ พูดความจริงกับลูกค้าเท่านั้น ส่วนลูกค้าจะตัดสินใจอย่างไรเป็นสิทธิ์ของลูกค้าเอง นั่นเป็นหลักยึดถือในการทำงานของผมโดยตลอด กอปรกับผมเคยทำงานในสายงานฝ่ายก่อสร้างมาก่อน จึงกล้าพูดว่ามีความรู้เรื่องสินค้าเป็นอย่างดีด้วยประสบการณ์จริงที่ผ่านมา สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ไม่ยาก เพราะรู้ว่าลูกค้าเองก็ขวนขวายที่จะรู้ลึกและรู้จริง ลูกค้าจะพึงพอใจที่สุด หากเราให้ข้อมูลอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา”

ปี 55 เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
          ปี 2554 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะเป็นปีที่ 2 ในการรับตำแหน่งใหม่ของ คุณพศิน แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จทางการตลาด โดยพีดีเฮ้าส์สาขานครปฐม สามารถทำยอดขายรวมได้ถึง 44 ล้านบาท แต่สำหรับปี 2555 พศิน บอกว่าไม่เน้นยอดขายเยอะๆ แต่จะเน้นที่คุณภาพผลงานสร้างบ้านที่ขายไว้เมื่อปีที่ทุกๆ หลัง เพราะด้วยสโลแกนของบริษัทฯ ที่ว่า “มาตรฐานเดียวกันทั่วไทย” ลูกค้าที่ให้ความไว้วางในสร้างบ้านกับศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์ สาขานครปฐม เมื่อปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่จะเริ่มลงมือก่อสร้างในช่วงต้นปี 2555 หรือกว่า 10 หลัง จึงทำให้ผมและทีมงานฝ่ายก่อสร้างต้องให้เวลาและใกล้ชิดกับการก่อสร้างเป็นมากเป็นพิเศษ ปีนี้จึงไม่เน้นปริมาณแต่จะเน้นคุณภาพผลงานครับ

          สำหรับในช่วงท้ายไตรมาส 2 นี้ บริษัทฯ จะเปิดตัวศูนย์รับสร้างบ้านเอคิวโฮม แบรนด์น้องใหม่เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านระดับราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาทอีกหนึ่งแบรนด์ ทั้งนี้ผู้บริหารได้เลือก จังหวัดนครปฐม เพื่อจะเปิดสาขาต้นแบบหรือสาขาแรก “พศิน” บอกว่าในระยะแรกผู้บริหารคงจะมอบหมายให้ดูแล เอคิวโฮม อีกสาขาหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า “เอคิวโฮม” น่าจะได้รับความสนใจและตอบรับจากลูกค้าในจังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างมาก เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมา พบว่าความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคในระดับราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป - 2 ล้านบาทเศษนั้นมีอยู่จำนวนมาก และโดยเฉพาะความต้องการใช้บริการสร้างบ้านกับมืออาชีพ ในปัจจุบันถือว่ากระแสดังกล่าวเป็นที่ยอมรับในพื้นที่จังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียง
  
          ปัจจุบัน ปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ พีดีเฮ้าส์ เองก็ตระหนักดีเกี่ยวกับเรื่องนี้มานานแล้ว เห็นได้จากการที่บริษัทฯ สามารถกวาดรางวัล “บ้านอนุรักษ์พลังงาน” จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ประเภทรางวัล ดี และ ดีมาก ประจำปี 2552 และปี 2554 มาได้ถึง 21 รางวัล และนับเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายเดียว ที่คว้ารางวัลดังกล่าวจาก กระทรวงพลังงานมากที่สุด ซึ่งผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียงที่เข้ามาติดต่อ เมื่อทราบว่า พีดีเฮ้าส์ คือบริษัทรับสร้างบ้านอนุรักษ์พลังงาน โดยส่วนใหญ่ก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี บางรายก็ค่อนข้างอินกับกระแสลดโลกร้อนมากๆ
          นอกจากนี้ การเลือกนำระบบโครงสร้างสำเร็จรูป หรือที่เรียกว่า Multi-joint Lock System  มาใช้ในการก่อสร้างบ้านของลูกค้าทุกหลัง ทำให้การควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ ก่อสร้างได้รวดเร็ว รวมทั้งสามารถลดการใช้แรงงาน ซึ่งในปัจจุบันและอนาคตกำลังเป็นปัญหาอย่างมากกับบริษัทรับสร้างบ้าน ที่ยังคงใช้ระบบหล่อคอนกรีตโครงสร้าง ณ สถานที่ก่อสร้าง ซึ่งเรื่องนี้ต้องยกเครดิตกับผู้บริหารที่วิสัยทัศน์ยาวไกล และเริ่มต้นขับเคลื่อนก่อนคู่แข่งรายอื่นๆ
          สุดท้าย ฝากข้อคิดถึงผู้บริโภคที่สงสัยว่าบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพพิจารณาอย่างไร พศิน บอกว่า ในมุมมองของตัวเอง บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพต้องมีความเชี่ยวชาญเรื่องการบริหารจัดการ หาใช่แค่ แบบบ้านสวย โปรโมชั่นถูกใจ อยู่มานาน ราคาถูกสุดๆ ไม่รับเหมาช่วง โฆษณาเริดหรู (มาตรฐานเหนือใคร) โดยหลักคิดง่ายๆ คือ หากสามารถบริหารทุกสาขาให้มีมาตรฐานเหมือนกันได้ นั่นย่อมแสดงว่าบริษัทรับสร้างบ้านรายนั้นๆ มีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ แต่หากว่าบริหารสาขาแต่ละสาขาไม่เหมือนกันเลย ก็แสดงว่าการบริหารจัดการไร้ประสิทธิภาพ ผู้บริโภคควรเข้าใจว่าบริษัทรับสร้างบ้านทุกๆ รายเหมือนกันอยู่ประการหนึ่งคือ “มีจำนวนลูกค้าใช้บริการและอยู่ระหว่างก่อสร้างพร้อมๆ กันจำนวนหลายราย” ฉะนั้นถ้าบริหารสาขามาตรฐานเดียวกันไม่ได้ ก็ไม่มีทางจะบริหารงานก่อสร้างบ้านให้ได้มาตรฐานเดียวกัน
          เมื่อถามว่า แล้วบริษัทที่มีสาขาเดียว จะพิจารณาอย่างไร พศิน ตอบกลับทันทีว่า ไม่มีเหตุผลที่จะมีแค่สาขาเดียว นอกเสียจากขาดความสามารถที่จะบริหารจัดการได้พร้อมๆ กันหลายสาขา (แปลว่าอะไร คิดกันเองนะครับ)