ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
13 ม.ค.2557

แฟชั่นหรูแตกไลน์ธุรกิจ"โฮมเดคอร์" ผุดสาขากลางเมืองรับไลฟ์สไตล์ใหม่-อสังหาฯบูม

Line

แฟชั่นหรูแตกไลน์ธุรกิจ"โฮมเดคอร์" ผุดสาขากลางเมืองรับไลฟ์สไตล์ใหม่-อสังหาฯบูม 

แฟชั่นหรูสบช่องไลฟ์สไตล์เปลี่ยน-ตลาดอสังหาฯบูม-คนรุ่นใหม่กำลังซื้อสู'ไลฟ์สไตล์เก๋ แห่แตกไลน์ธุรกิจของใช้ตกแต่งบ้านเอาใจสาวก "แฟชั่นนิสต้า" ฟาสต์แฟชั่นรายใหญ่ ผุด "ซาร่า โฮม" เล็งขยายสาขาเพิ่ม ด้านผู้นำเข้ารายใหญ่"ดีเอ็ม โฮม" เล็งขน 2 แบรนด์ใหม่เสริมทัพกลางปี พร้อมใจส่งคอลเล็กชั่นใหม่ปีละ 2 ครั้งเอาใจแฟนคลับ

ปัจจุบัน "แฟชั่น" ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนเรามากขึ้น ทั้งเครื่องแต่งกาย แอ็กเซสเซอรี่ สินค้า ฯลฯ เพื่อบ่งบอกรสนิยมและตัวตนของผู้ใช้ รับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มากขึ้น

เปิดโอกาสให้แบรนด์แฟชั่นต่าง ๆ ที่มีกลุ่มลูกค้าอย่างเหนียวแน่น เริ่มแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่กำลังเป็นเทรนด์ฮอตฮิตขณะนี้ คือ ของใช้ตกแต่งบ้าน หรือ "โฮมเดคอร์" เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่มากขึ้น

 

ตลาดโตรับอสังหาฯ-ไลฟ์สไตล์

นางสาวพิมพ์รุจา ศานต์ตระกูล ผู้จัดการอาวุโส แผนกพัฒนาธุรกิจองค์กร บริษัท ดีเอ็ม โฮม ผู้แทนจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านแบรนด์แฟชั่น อาทิ ราล์ฟ ลอเรน, อาร์มานี่คาซ่า, เฟนดิ คาซ่า, เวอร์ซาเช่ ฯลฯ จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่าปัจจุบันตลาดของตกแต่งบ้านมีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับการเจริญเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และรสนิยมของคนรุ่นใหม่ที่แตกต่างไปจากรุ่นพ่อแม่ ทำให้เกิดความต้องการที่หลากหลายและทำให้ผู้ผลิตพยายามหาสินค้าเพื่อมาตอบ สนองความต้องการที่มีมากขึ้น

โดยเฉพาะแฟชั่นแบรนด์ชั้นนำที่มีการ แตกไลน์มาสู่สินค้าไลฟ์สไตล์ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ และแอ็กเซสเซอรี่ต่าง ๆ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเนื่องจากการมีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต โดยปีที่แล้วบริษัทได้รีแบรนดิ้งครั้งแรกในรอบ 20 ปี เปลี่ยนชื่อจากเดคอร์ มาร์ท เป็นบริษัท "ดีเอ็ม โฮม" เพื่อทำให้ภาพลักษณ์เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ และมีกำลังซื้อสูง

"การขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัยแนวใหม่เน้นงานดีไซน์เป็นจุดขายสร้างความแตกต่างทางธุรกิจมากขึ้น ผลักดันให้ตลาดเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านมีแนวโน้มเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง"

เช่นเดียวกับ นางสาวพรชื่น งามพร้อมพันธุ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด กลุ่มบริษัท อาร์เอสเอช ประเทศไทย ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์สินค้าแฟชั่น อาทิ ซาร่า, มาสสิโม ดุตติ, เบิร์ชก้า, ซาร่า โฮม กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ตลาดบ้านและคอนโดในมิเนียมในประเทศไทยมีการเติบโตสูง

รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าตกแต่งบ้านมากขึ้น บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสที่น่าสนใจ และนำแบรนด์ "ซาร่า โฮม" เข้ามาเปิดตัวเป็นที่แรกในอาเซียนเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

แบรนด์ใหม่จ่อคิวเปิดตัว

นางสาวพิมพ์รุจากล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันแบรนด์แฟชั่นตกแต่งบ้านทั้งหมดที่นำเข้ามามีการตอบรับที่ดี ทำให้แผนในปีนี้จะนำเข้าแบรนด์ใหม่จากอเมริกาเพิ่มอีก 2 แบรนด์ ได้แก่ Chaddock และ Aerin Lauder ในเดือนมีนาคมและพฤษภาคมตามลำดับ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า

รวมถึงจะมีการเปิดตัวคอลเล็กชั่น อย่างเต็มรูปแบบของ "ราล์ฟ ลอเรน" ในเดือนเมษายนด้วย ขณะนี้ดีเอ็ม โฮม มีสาขาทั้งสิ้น 3 สาขา ได้แก่ ทองหล่อ, สยามพารากอน, และภูเก็ต เป็นการรวมทุกแบรนด์ในพอร์ตอยู่ในที่เดียวกันให้ลูกค้าได้เลือกสรร ทั้งนี้ นอกจากของตกแต่งบ้านจำพวกเฟอร์นิเจอร์แล้ว ยังมีชุดครัว อุปกรณ์ห้องน้ำ ของแบรนด์ดังหลายแบรนด์ อาทิ อาร์มานี่ ดาด้า, คาลลิสต้า, เลอฟรอยบรูคส์ ฯลฯ

ขณะที่ฟาสต์แฟชั่นอันดับต้นๆ ของโลกอย่างซาร่า นางสาวพรชื่นเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นในปีนี้ ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการดูผลตอบรับจากสาขาแรก โดยมีการศึกษาทำเลที่จะเข้าไปเปิดในอนาคต เบื้องต้นมองพื้นที่บริเวณกรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นแหล่งที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง และมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นฐานลูกค้าของซาร่าทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก

ปัจจุบัน กลุ่มสินค้าในช็อปซาร่า โฮม ประกอบด้วย เครื่องใช้ในห้องนอน, ห้องน้ำ, อุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร, เฟอร์นิเจอร์, ของแต่งบ้าน เครื่องหอม และของใช้สำหรับเด็ก ภายในร้านพื้นที่ 360 ตารางเมตร

ส่งสินค้าใหม่ถี่ตามแฟชั่นแบรนด์

ผู้บริหารของซาร่า โฮม กล่าวต่อว่า จุดแข็งของซาร่า โฮม คือ มีฐานผู้บริโภคที่ชื่นชอบและมีความจงรักภักดีต่อแบรนด์สูง พฤติกรรมคือ มีการติดตามและเฝ้ารอการออกสินค้าใหม่อยู่ตลอดเวลา บวกกับช่องว่างในตลาดสินค้าตกแต่งบ้านที่เป็นแฟชั่นที่ยังมีอีกมหาศาล เนื่องจากมีผู้เล่นอยู่เพียงไม่กี่ราย การแข่งขันจึงยังไม่สูง

ทั้งนี้ ได้วางกลยุทธ์การทำตลาดไว้คล้ายกับกลุ่มฟาสต์แฟชั่นของซาร่า นั่นคือการเป็นแฟชั่นโฮม ที่ทุกๆ สัปดาห์จะมีของใหม่เข้ามาในร้าน 2 ครั้ง รวมถึงระดับราคาที่เข้าถึงง่าย โดยมีความแตกต่างกันระหว่างราคาขายในไทยและประเทศอื่นๆ ไม่มาก ขึ้นอยู่กับค่าเงินและภาษีนำเข้า

ด้านผู้บริหารของดีเอ็ม โฮม กล่าวว่าสำหรับแบรนด์แฟชั่นโฮมที่บริษัทนำเข้ามานั้น ในต่างประเทศจะมีการออกสินค้าใหม่เป็นคอลเล็กชั่นเช่นเดียวกับในไลน์เสื้อ ผ้าแฟชั่น คือปีละ 2 ครั้ง ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง ทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อทำตลาด ซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่สามารถอัพเดตเทรนด์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้แฟชั่นที่ถือเป็นแบรนด์แรกในเมืองไทยที่แตกไลน์ไปสู่ธุรกิจโฮมเด คอร์ คือ "ยัสปาล" ภายใต้การจัดตั้งบริษัทย่อย ยัสปาล แอนด์ ซันส์ จำกัด เพื่อผลิต นำเข้า และส่งออก โดยมีแบรนด์ที่พัฒนาเองอย่าง ยัสปาล โฮมคอลเลคชั่น ซึ่งปัจจุบันมีช็อปอยู่ 3 สาขา ได้แก่ เอ็มโพเรียม สยามพารากอน และสุขุมวิท นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิ์นำเข้าแบรนด์แซนตาส และซีลี่ โดยวางจำหน่ายในช่องทางห้างสรรพสินค้าและศูนย์ตกแต่งบ้านชั้นนำทั่วไป


ที่มา: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่: 10 ม.ค. 2557
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1389277338