นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยภายในงานมอบรางวัล Money & Banking Awards 2017 ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมริเดียน ว่า หากยังจำกันได้ในเดือนกรกฎาคมเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ประเทศไทยประสบปัญหาฟองสบู่ทางการเงินแตก หรือวิกฤตต้มยำกุ้ง จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง ถือเป็นบทเรียนที่ทรงคุณค่า ทำให้ภาคการเงิน ธุรกิจมีความระมัดระวัง และเกิดการเรียนรู้ จนทำให้วันนี้ภาคการเงินของไทย มีความเข้มแข็งมาก “ใครมาพูดว่า จะเกิดปัญหาฟองสบู่อีกรอบไม่เป็นเรื่องจริงเด็ดขาด ไม่ต้องกังวล”

          อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังมีความท้าทายใหม่ๆที่เหล่าผู้บริหารธนาคาร และภาคเอกชนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กว่า 500 บริษัท ควรกระโดดออกมาร่วมมือกับรัฐบาลในการพัฒนาประเทศให้เกิดขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่ยังมีปัญหา ปัจจุบัน การส่งออกกว่า 30% ของทั้งประเทศ ขึ้นอยู่กับ 73 บริษัทเท่านั้น และกว่า 50 บริษัทเป็นบริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ต่างประเทศ มีเพียง 20 กว่าบริษัทเท่านั้นที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในไทย ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนร่วมกันเพื่อพัฒนาประเทศ เพราะรัฐบาลฝ่ายเดียวคงทำไม่สำเร็จ ทั้งการผลักดันให้เกิดสตาร์ทอัพ การพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี การท่องเที่ยวชุมชน การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันตก การพัฒนาการศึกษา เชื่อว่า 3 – 4 ปีนี้จะเกิดความเปลี่ยนแปลงต่อประเทศอย่างแน่นอน “ถ้าเรายังทะเลาะกันอยู่ ไม่ร่วมมือกัน ต่างคนต่างอยู่ ผมก็เชื่อว่าอีก 3 – 4 ปีข้างหน้า ประเทศเราก็จะอยู่อย่างยากลำบากเช่นกัน” นายสมคิดกล่าว 

ที่มา : มติชนออนไลน์
(วันที่ 26 กันยายน 2560)