ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ข่าวอสังหาริมทรัพย์
Line
18 ต.ค.2560

อสังหาฯ ไทยเนื้อหอม ทุนจีนสนใจต่อเนื่อง

Line

 

         หลังจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับกลางและล่างในไทยซบเซาลงจากกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัว ผู้ประกอบการอสังหาฯ หลายรายจึงเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายเข้าไปเจาะตลาดต่างชาติมากขึ้น โดยจีนถือว่าเป็นตลาดใหญ่ที่ให้ความสนใจอสังหาฯ ในต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในไทย ส่วนหนึ่งเพื่อการลงทุนปล่อยเช่าให้กับคนชาติเดียวกัน อีกส่วนซื้อเป็นบ้านพักตากอากาศ แม้รัฐบาลจีนจะคุมเข้มการนำเงินออกไปลงทุนนอกประเทศ แต่ปัจจุบันยังพบว่ามีชาวจีนเข้ามาลงทุนในไทยเป็นจำนวนมาก

อสังหาฯ ไทย ถูกกว่าจีน ให้ผลตอบแทบสูง 
         สาเหตุที่ชาวจีนให้ความสนใจมาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไทย เนื่องจากราคาคอนโดมิเนียมในไทยมีราคาถูกว่าที่จีนหลายเท่าตัว ราคาสูงถึงประมาณ 4-5 แสนบาท/ตร.ม. จึงให้ผลตอบแทนที่มากกว่า โดยการลงทุนอสังหาฯ ในไทยให้ผลตอบแทน 7-8% ขณะที่จีนให้ผลตอบแทนเพียง 2% เท่านั้น โดยแต่ละปีจะมีนักลงทุนชาวจีนเข้ามาลงทุนในไทยประมาณ 5-7 พันล้านบาท/ปี และมีการเติบโตเฉลี่ย 10-20% ต่อปี ทั้งนี้ ชาวจีนส่วนใหญ่สนใจคอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้า BTS และ MRT อาทิ ย่านรัชดาภิเษก พระราม 9 สุขุมวิท ราคาประมาณ 5-6 ล้านบาท ส่วนในต่างจังหวัดนิยมลงทุนในภูเก็ต

อสังหาฯ ไทย บูมจากการท่องเที่ยว
         จากการสำรวจของแผนกวิจัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย พบว่า ไทยถือเป็นประเทศอันดับที่ 7 ที่ชาวจีนค้นหาเกี่ยวกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์มากที่สุดในปี 2559 และเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มประเทศอาเซียน รองจากมาเลเซีย สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่ไทยได้รับความนิยมมากขึ้นในฐานะจุดหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนในปัจจุบัน โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า จากประมาณ 1.1 ล้านคนในปี 2553 เป็นประมาณ 8.8 ล้านคนในปี 2559 ประกอบกับกฎหมายของไทยเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ได้ โดยต้องไม่เกิน 49% ของปริมาณพื้นที่ขายทั้งหมดในคอนโดมิเนียมนั้น ส่งผลให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในไทยมีโอกาสมากขึ้นในการขายที่พักอาศัยให้แก่ผู้ซื้อชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนมากขึ้น

จีนลงทุนอสังหาฯ ทั่วโลก กว่า 1.3 หมื่นล้านดอลล่าร์ฯ
         ขณะที่รายงานของเจแอลแอล (JLL) ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 นักลงทุนชาวจีนมีการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยตรง การซื้อหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุนพัฒนาโครงการ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 13,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปี 2559 แม้ว่าจะมีมาตรการคุมเข้มการนำเงินลงทุนออกไปลงทุนในต่างประเทศของรัฐบาลจีน แต่กลับไม่กระทบการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงธุรกิจในต่างประเทศมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนจีนยังคงมีความต้องการสูงในการกระจายการลงทุนและบริหารจัดการความเสี่ยงในภาวะที่เศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัว นอกจากนี้ บริษัทจีนที่มีธุรกิจในฮ่องกงหรือสาขาในต่างประเทศยังคงสามารถลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศได้ผ่านบริษัทสาขา หรือใช้เงินทุนที่มีอยู่ในต่างประเทศ โดยเชื่อว่านักลงทุนจีนจะยังคงยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกต่อไป

         อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไทยจะเป็นตลาดใหญ่ที่ชาวจีนให้ความสนใจมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังมีคู่แข่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามอย่างมาเลเซีย และญี่ปุ่น ซึ่งชาวจีนให้ความสนใจเช่นกัน ซึ่งผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในไทยต่างเริ่มปรับตัวเพื่อจะดึงดูดนักลงทุนจีนในระยะยาวโดยเริ่มพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ รวมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ด้วยภาษาจีนและมีพนักงานขายที่มีความสามารถด้านภาษาจีน
 
ที่มา : ddproperty.com
(วันที่ 18 ตุลาคม 2560)