21 พ.ย.2560
ประเดิมงบประมาณปี 61 เก็บภาษีเดือนแรก ทะลุเป้า
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในเดือนตุลาคม 2560 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 ว่า รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิจำนวน 192,425 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 9,180 ล้านบาท เนื่องจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 4,444 ล้านบาท หรือ 14.8% และการจัดเก็บรายได้ของส่วนราชการอื่นสูงกว่าประมาณการ 1,376 ล้านบาท หรือ 8.3% โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเบียร์ ภาษีน้ำมัน และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับรายละเอียดผลการจัดเก็บรายได้สุทธิในเดือนตุลาคม 2560 สามารถสรุปได้ดังนี้
กรมสรรพากร เกินเป้าภาษีเงินได้ฯ-มูลค่าเพิ่ม
1. กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 116,848 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 726 ล้านบาท หรือ 0.6% สูงกว่าเดือนเดียวกันปีก่อนจำนวน 2,762 ล้านบาท หรือ 2.4% โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่
– ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้ 22,069 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 584 ล้านบาท หรือ 2.7% แต่ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 2.5%
– ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ 63,712 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 488 ล้านบาท หรือ 0.8% สูงกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 8.8%
กรมสรรพสามิต เก็บภาษียาสูบได้ต่ำกว่าประมาณการ
2. กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 40,043 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการเล็กน้อย แต่ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อนจำนวน 977 ล้านบาท หรือ 2.4% โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย ได้แก่
– ภาษีเบียร์จัดเก็บได้ 5,558 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,137 ล้านบาท หรือ 25.7% แต่ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 9.6%
– ภาษีน้ำมันฯ จัดเก็บได้ 18,467 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 966 ล้านบาท หรือ 5.5% และสูงกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 19.5%
สำหรับภาษียาสูบจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 2,017 ล้านบาท หรือ 47.6% (ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 55.7%) เนื่องจากอยู่ในช่วงปรับตัวของผู้ประกอบกิจการยาสูบหลังพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2560
กรมศุลกากรพลาดเป้าเก็บ เก็บอากรขาเข้าต่ำ
3. กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 8,652 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 948 ล้านบาท หรือ 9.9% แต่สูงกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 10.5% โดยเป็นผลจากการจัดเก็บอากรขาเข้าต่ำกว่าประมาณการจำนวน 1,159 ล้านบาท หรือ 12.3% แต่สูงกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 7.3% เนื่องจากการใช้สิทธิพิเศษภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีที่ขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าต้องอากรของสินค้าที่มีสัดส่วนอากรขาเข้าสูงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ยานบกและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ เครื่องจักรและเครื่องใช้กล ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า เป็นต้น
รัฐวิสาหกิจ 5 หน่วยงาน ส่งรายได้เกินเป้า
4. รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้รวม 34,546 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 4,444 ล้านบาท หรือ 14.8% แต่ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 4.3% โดยรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการ 5 อันดับแรก ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การท่าเรือแห่งประเทศไทย การประปาส่วนภูมิภาค และธนาคารอาคารสงเคราะห์
ส่วนหน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 18,242 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,398 ล้านบาท หรือ 8.3% แต่ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 37.1% ส่วนราชการอื่นจัดเก็บรายได้รวม 18,047 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,376 ล้านบาท แต่ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 37.5% กรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้รวม 195 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 22 ล้านบาท หรือ 12.7% และสูงกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 28.3% เนื่องจากรายได้จากการจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 43 ล้านบาท หรือ 64.3%
จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องจะส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ โดยรัฐบาลและกระทรวงการคลังเน้นย้ำว่าจะติดตามกำกับดูแลการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานในสังกัดอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลปีงบประมาณ 2561 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าเงินภาษีที่ประชาชนแต่ละคนจ่ายผ่านการซื้อสินค้า-บริการ หรือภาษีเงินได้ฯ เมื่อรวมกันแล้วเป็นเงินจำนวนมหาศาลซึ่งจะนำไปใช้พัฒนาประเทศ และสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อไป
ที่มา : ddproperty.com
(วันที่ 21 พฤศจิกายน 2560)
(วันที่ 21 พฤศจิกายน 2560)