03 ก.ย.2561
พรพรรณ ตรีถาวรพิศาล ความภูมิใจของผู้ให้ สู่ความสุขใจของผู้รับ
ความภูมิใจของผู้ให้ สู่ความสุขใจของผู้รับ
ดังสำนวนไทยในสมัยก่อนที่ว่า “ผู้ชายคือช้างเท้าหน้า ผู้หญิงคือช้างเท้าหลัง” หรือจะแปลได้ง่ายๆ คือ ผู้ชายเป็นผู้นำและผู้หญิงเป็นผู้ตามนั้น เห็นทีว่าในสมัยนี้คงจะใช้ไม่ได้เสมอไป เพราะนอกจากสังคมจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัยแล้ว เรื่องสิทธิความเท่าเทียมกันของมนุษย์ก็ถูกกล่าวถึงมากขึ้นซึ่งจะเห็นได้จากข่าวสารของสังคมโลก ที่ผู้หญิงถูกรับเลือกให้เป็นผู้นำ บ้างก็เป็นผู้นำประเทศ บ้างก็เป็นผู้นำทางการเมืองและตัวอย่างเหล่านี้เอง ที่พิสูจน์ได้ชัดเจนแล้วว่า ผู้หญิงก็มีความรู้ ความสามารถ และเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งได้ไม่แพ้ผู้ชายเลยคุณพรพรรณ ตรีถาวรพิศาล ผู้จัดการบริษัท ร้อยเอ็ด รับสร้างบ้าน จำกัด หรือผู้จัดการศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์สาขาจังหวัดร้อยเอ็ด อีกหนึ่งผู้หญิงมากความสามารถของวงการรับสร้างบ้าน ที่เรียกได้ว่าเป็นหญิงเก่ง หญิงแกร่งเลยก็ว่าได้ เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้ เธอยอมรับว่าที่ผ่านมาเธอทุ่มเทชีวิตให้กับการทำงานอย่างหนักจนกลายเป็นคนบ้างานเลยทีเดียว
“คนภายนอกอาจจะมองว่างานด้านก่อสร้าง มันเป็นงานหนัก ที่ไม่เหมาะกับงานของผู้หญิง แต่เราว่าไม่ขนาดนั้นเพราะเราเองทำงานเป็นวิศวกรโยธามาก่อน มันทำให้เราคุ้นเคยกับงานด้านนี้ ประกอบกับความชอบของเราด้วย จริง ๆ แล้วไม่ว่าใครก็ตาม ถ้ามีความรู้ ความสามารถ และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอก็สามารถประสบความสำเร็จในงานด้านนี้ได้เหมือนกัน ดังนั้น เราจึงตั้งใจทำงานให้ออกมาดีที่สุดโดยเฉพาะในตอนที่เราได้มีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครับครัวพีดีเฮ้าส์ ซึ่งที่นี่ทำให้เราได้ความรู้ใหม่ ๆ ในเรื่องการก่อสร้างบ้านมากขึ้น ที่สำคัญคือได้รู้จักวางแผน ได้เรียนรู้การทำงานก่อสร้างให้เป็นระบบเป็นขั้นตอนเรียกว่ามันทำให้เรายิ่งรู้สึกสนุกและรักในอาชีพของเรามากขึ้นเราก็เลยทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงานมาเป็นอันดับ 1 จนไม่มีเวลาให้ตัวเองและครอบครัว” คุณพรพรรณเล่าถึงช่วงชีวิตหนึ่งที่เคยบ้างานมาก ๆ พลางพูดถึงชีวิตที่ลงตัวในตอนนี้ว่า “แม้ที่ผ่านมาเราจะทุ่มเทเวลาให้กับงานจนหมด ซึ่งมันทำให้กระทบความสัมพันธ์ต่อคนรอบข้างบ้างแต่อย่างน้อยมันก็ยังเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยสิ่งดี ๆ ที่ได้รับจากการทำงานมากมาย เพราะมันทำให้เราเดินหน้าและพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่ามันเป็นเสมือนบันไดขั้นสำคัญที่ทำให้เราได้เข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น เพราะหลังจากที่เราแต่งงานมีครอบครัวแล้ว
มันก็ทำให้เราคิดได้ว่า ถ้าเราประสบความสำเร็จเรื่องงาน แต่ครอบครัวหรือตัวเราเองล้มเหลว เราก็คงไม่มีความสุขเราจึงหันมาแบ่งเวลาให้ครอบครัวและตัวเองควบคู่ไปกับการทำงานให้ออกมามีคุณภาพและมีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอ”
เพราะความสำเร็จในชีวิตโดยแท้จริงที่คุณพรพรรณค้นพบนั้นไม่ใช่ยอดขายหรือผลประกอบการของบริษัทที่เพิ่มขึ้นแต่มันต้องขึ้นอยู่กับความสุขของทุกคนในครอบครัว ความสุขทุกคนในบริษัทรวมถึงความสุขของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการรับสร้างบ้านด้วย
“แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเราคือครอบครัว แต่ในการทำงานหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเราเดินหน้าต่อไป ก็คือความเป็นทีมเวิร์คของพนักงานทุกคน เพราะเราอยู่ร่วมกันมาเหมือนพี่น้องเหมือนครอบครัวเดียวกัน ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมแก้ปัญหาด้วยกันมา ภายใต้เป้าหมายเดียวกันคือการตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุดซึ่งแต่ละคนก็จะทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่และสุดความสามารถ เพราะเราเองก็จะบอกกับทีมงานเสมอว่าการที่คนเราจะสร้างบ้านสักหลังนึง บางคนต้องเก็บเงินทั้งชีวิต บางคนต้องกู้สินเชื่อเพื่อสร้างบ้านให้ตนเองหรือครอบครัว ดังนั้น เราต้องสร้างบ้านลูกค้าให้เหมือนกับสร้างบ้านของเราเอง เอาใจเขามาใส่ใจเรา ต้องซื่อสัตย์ ต้องใส่ใจต้องตรวจสอบงานให้ได้มาตรฐาน และการสร้างบ้านก็จะสำเร็จได้ตามเป้าหมายซึ่งเราเชื่อว่าหากเราเป็นผู้ให้ได้อย่างภาคภูมิใจ ผู้รับอย่างลูกค้าก็จะมีความสุขเช่นกัน” แบบนี้แหละค่ะ ที่เค้าเรียกว่า ความสำเร็จที่แท้จริง ซึ่งก็เกิดขึ้นได้ไม่ยากเพียงหากรู้จักทำในสิ่งใดก็ตามที่สามารถให้ความสุขได้ ซึ่งจะเป็น “สุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ” และทั้งหมดนั้นจะเป็นความสุขที่แท้จริงค่ะ...