"เอสซีจี" มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแน่ คาดความต้องการใช้ปูนเริ่มเห็นชัดตั้งแต่กลางปี 58 และทั้งปีโตอย่างน้อย 5%  ประกาศเดินหน้าโครงการลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท ในธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงตามกลยุทธ์มุ่งสู่ผู้นำอย่างยั่งยืนในอาเซียน

กานต์ ตระกูลฮุนกานต์ ตระกูลฮุนนายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นในปี 2558 จากการที่รัฐบาลแถลงเดินหน้าแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อีกทั้งสั่งหน่วยงานรัฐเร่งเบิกจ่ายงบประมาณค้างท่อ ซึ่งบางส่วนเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้ อย่างไรก็ตาม การใช้ซีเมนต์จะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 2 ส่วนงบที่ค้างท่อคงใช้ทันที แต่จะใช้มากในไตรมาส 2-3 ของปีหน้า จึงคาดว่าปริมาณการใช้ซีเมนต์เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5%

"ในไตรมาส 3 ปีนี้สัดส่วนการใช้ซีเมนต์ในภาคที่อยู่อาศัยมากสุด 52% รองลงมาภาครัฐ งานโครงสร้างพื้นฐาน 30% และอีก 18% ใช้ในภาคพาณิชยกรรม เช่น ดิสเคาต์สโตร์ คลังสินค้า และโรงงาน อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการใช้ซิเมนต์ในไตรมาส 3 ทุกกลุ่มเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทุกภาคติดลบ  โดยเฉลี่ยลบ 3%  แต่ในปี 2558 คาดว่าสัดส่วนในกลุ่มภาครัฐน่าจะเป็นบวก ที่จะเป็นตัวฉุด"

ขณะเดียวกันเพื่อให้สอดคล้องกับการฟื้นตัวด้านเศรษฐกิจ เอสซีจี จึงขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติงบลงทุนมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ในโครงการขยายการลงทุนธุรกิจปูนสำเร็จรูป (Mortar) ปูนสำเร็จรูป HVA สำหรับงานก่ออิฐและงานฉาบผนัง ที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ สะดวกต่อการใช้งาน และเหมาะกับการใช้ในงานก่อ-ฉาบอิฐมวลเบา โดยเอสซีจีได้ขยายกำลังการผลิตปูนสำเร็จรูป 2 ล้านตันต่อปี เป็นเงินลงทุนรวมประมาณ 2,800 ล้านบาท โดยก่อสร้างที่จังหวัดขอนแก่นและลำปาง และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 และโครงการร่วมทุนธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในอาเซียน โดยเอสซีจีจะเข้าร่วมทุนในสัดส่วนร้อยละ 50:50 กับบริษัทสยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดตั้งบริษัทโกลบอลเฮ้าส์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยเป็นเงินลงทุนในส่วนของเอสซีจีประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในรูปแบบคลังสินค้าในอาเซียน

สำหรับการพัฒนาสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) เพื่อเติบโตสู่ผู้นำธุรกิจอย่างยั่งยืนในอาเซียนนั้น ที่ผ่านมา เอสซีจีมียอดขายสินค้า HVA เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เอสซีจีมียอดขายสินค้า HVA 42,582 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 34% ของยอดขายรวม ขณะที่สินค้า SCG eco value มียอดขาย 36,091 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 29% ของยอดขายรวม โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 370,835 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนผลดำเนินการในไตรมาส 3 ของปีนี้มีรายได้จากการขาย 124,275 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายของธุรกิจเคมีภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่รายได้จากการขายใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มีรายได้จากการขายในไตรมาสที่ 3 46,382 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ของกลุ่มธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนและรายได้จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น

ที่มา : จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,997 วันที่  2 - 5 พฤศจิกายน  พ.ศ. 2557