ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
  • ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
นิตยสารบ้านสุขใจ
Line
01 ก.ค.2549

กรกฎาคม 2549 ครั้งที่ 3

Line

(เดือนกรกฎาคม 2549 ครั้งที่ 3)

        

         สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสร่วมประชุมกับทีมงานฝ่ายขานและการตลาดและผู้บริหาร เพื่อพิจารณา เกี่ยวกับการเพิ่มแบบบ้านและราคาขายบ้านตามแบบมาตรฐานของบริษัทฯ ซึ่งใช้วัสดุก่อสร้างรุ่น Executive Series แต่เดิมบริษัทฯมีแบบบ้านให้เลือกปลูกสร้างในรุ่นนี้อยู่จำนวน 20 แบบ เพิ่มขึ้นเป็น 40 แบบ เพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่พึงพอใจในวัสดุรุ่นดังกล่าว แต่มีงบประมาณจำกัด

อันที่จริงแล้ววัสดุก่อสร้างรุ่น Executive Series ของบริษัทฯ หากจะเปรียบเทียบกับบริษัทรับสร้างบ้านรายอื่นๆแล้ว ก็ใช่ว่าจะด้อยกว่าแต่ในทางตรงข้ามวัสดุหลักๆก็ยังจัดว่าดีกว่าพอสมควร อาทิ ความยาวเสาเข็ม คอนกรีตโครงสร้าง (คอนกรีตผสมเสร็จ) โครงหลังคาเหล็ก (ชนิดป้องกันสนิมจากโรงงาน) ผนังอิฐมวลเบา ประตู-หน้าต่างไวนิล ฯลฯ รวมทั้งค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค (ค่ามิเตอร์ไฟฟ้า-ประปาชั่วคราวและถาวร) และการรับประกันคุณภาพทั่วไปนาน 3 ปี โครงสร้าง 15 ปี ในขณะที่ราคาขายบ้านเกือบจะไม่แตกต่างกันมากนัก

 

       

         เหตุผลที่มีการพิจารณาเพิ่มราคาขายบ้านวัสดุรุ่น Executive Series ทีมงานได้ให้ข้อมูลว่ามีลูกค้าจำนวนมากที่ติดต่อเข้ามายังบริษัทฯ เพื่อจะใช้บริการรับสร้างบ้านในระดับราคา 2 ล้าน - ไม่เกิน 4 ล้านในช่วงปีนี้ และส่วนใหญ่ค่อนข้างพอใจในระดับหนึ่งแล้วกับวัสดุรุ่น Executive Series นี้ แต่ต้องการจะสร้างบ้านขนาดใหญ่ขึ้นกว่าแบบบ้านที่บริษัทฯกำหนดไว้เดิม (ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 200 ตารางเมตร) หลายท่านจึงเรียกร้องให้บริษัทฯนำแบบบ้านที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 200 - 300 ตารางเมตร มาทำราคาขายในวัสดุรุ่นดังกล่าวด้วย ซึ่งทีมงานจึงได้นำเสนอให้ผู้บริหารพิจารณาเพิ่มจำนวนแบบบ้าน ราคา และวัสดุในรุ่นดังกล่าวเป็น 40 แบบ เพื่อจะตอบสนองความต้องการของทุกท่านครับ

จุดเด่นของวัสดุรุ่น Executive Series ที่ทุกท่านชื่นชอบคงจะเป็นโครงหลังคาเหล็กป้องกันสนิม

จากโรงงานของ Easy Truss ซึ่งหลายท่านต้องการให้นำมาใช้สร้างบ้าน ซึ่งมีบริษัทรับสร้างบ้านเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่กำหนดเป็นวัสดุมาตรฐานในปัจจุบัน โดยเฉพาะเจ้าของบ้านหลายท่านเล่าให้ฟังว่าเคยไปติดต่อบริษัทรับสร้างบ้านรายอื่น แล้วแจ้งความประสงค์จะขอเปลี่ยนมาใช้โครงหลังคาเหล็กดังกล่าว ปรากฏว่าเกือบบริษัทแจ้งว่าต้องจ่ายราคาค่าโครงหลังค่าเพิ่ม 20,000 บาทบ้าง, 50,000 บาทบ้าง และบางแห่งก็บอกเพิ่ม 100,000 บาทก็มีครับ

 

      

          เจ้าของบ้านหลายท่านอดสงสัยไม่ได้ว่าโครงหลังคาเหล็กดังกล่าว ราคามันต่างจากโครงหลังคาเหล็กแบบเดิมเป็นหลักแสนบาทเชียวหรือ ? ซึ่งกระผมเองก็อดสงสัยไม่ได้เช่นกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น (ไม่เข้าใจเหมือนกัน) บางรายก็อ้างว่าโครงหลังแบบนี้ไม่แข็งแรง...สู้แบบเดิมไม่ได้ ซึ่งก็ยังน่าแปลกใจกับคำแนะนำที่ให้กับลูกค้าอยู่ดีว่าเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ? หากท่านเจ้าของบ้านที่ยังติดใจสงสัย กระผมแนะนำว่าลองไปเดินชมงานรับสร้างบ้าน 2006 ที่จะจัดขึ้นระหว่าง 16-20 สิงหาคม 2549 นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดย บริษัท เฮาส์ เฟรนด์ลี่ โปรดักส์ จำกัด เจ้าของแบรนด์โครงหลังคาเหล็ก Easy Truss เขามาร่วมออกบูธด้วย และได้นำเหล็กที่ประกอบเป็นโครงหลังคามาร่วมโชว์และให้ท่านได้สัมผัส ของจริงๆกันเลย...ไปพิสูจน์กันได้นะครับ

 

นายสิทธิพร สุวรรณสุต
ประธานกรรมการ